บทที่132 แม่มาดูเร็ว นี่พ่อ
หลังจากที่เป้ยฉ่ายเวยทำความสะอาดเสร็จ เธอก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นนั่งลงดูข่าวข้างๆรุ่ยรุ่ย
ในทีวีมีแต่ข่าวเล็กๆน้อยๆไม่กี่ข่าวเท่านั้น
ขโมยปล้นชิงทรัพย์ก็โดนจับแล้ว ผู้ที่ล่วงละเมิดผู้หญิงถูกจับได้ในที่เกิดเหตุ นักเลงทะเลาะวิวาทกันถูกควบคุมตัวได้ในพื้นที่ใกล้เคียง
แน่นอนว่าในนั้นก็ยังมีข่าวที่สำคัญ ผู้ร้ายหลบหนีไป เจ้าของร้านฟอกหนังหนีไปกับน้องเขย บริษัทนั้นล้มละลาย
เหมือนกับกลีบเมฆ
เป้ยฉ่ายเวยขาดความสนใจในสิ่งเหล่านี้ หากไม่ใช่เพราะการแสดงความสนใจของรุ่ยรุ่ย เธออาจจะเลือกดูการ์ตูนแทนแล้ว
เมื่อตอนที่เธอหาวออกมา รุ่ยรุ่ยก็ดึงชายเสื้อของเธอ มือน้อยๆชี้ไปทางทีวีและพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “แม่ครับ ดูเร็ว นั่นพ่อ พ่ออยู่ในโทรทัศน์”
ในข่าวปรากฏให้เห็นร่างสูงใหญ่ของฉูเจ๋อหยาง เขาไม่ได้มีท่าทีสนใจกล้อง ตอบคำถามอย่างกับคำพูดมีค่าเช่นทองคำ ไม่ได้แสดงถึงความสนใจในคำถามแม้แต่น้อย
ว่าแต่สิ่งที่ติดใจเป้ยฉ่ายเวยก็คือรุ่ยรุ่ยรู้ได้อย่างไรว่าฉูเจ๋อหยางเป็นพ่อของเขา
เป้ยฉ่ายเวยนอนไม่หลับ เธอถามอย่างแสบคอ “รุ่ยรุ่ย รู้ได้ว่าอย่างไรว่าเป็นพ่อ”
เธอนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองไม่เคยพูดเรื่อง “พ่อ” กับรุ่ยรุ่ยเลยสักคำ เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
รุ่ยรุ่ยรู้สึกประหลาดใจและกลับมาสงบ เขาพูดด้วยตาดำเบิกโต “เพราะเขาเหมือนผมมากน่ะสิ”
“อื้อ ลูกเหมือนพ่อมาก” เป้ยฉ่ายเวยลูบศีรษะเขาเบาๆ สายตาไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เธอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
รุ่ยรุ่ยเหมือนว่าจะดูออกว่าเป้ยฉ่ายเวยกำลังอึดอัด มือน้อยๆของเขากุมมือเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้ เสียงอันไร้เดียงสาพูดขึ้นอย่างจริงจัง “แม่ครับ ผมมีแม่ก็พอแล้ว”
เป้ยฉ่ายเวยใจสั่น ใบหน้าน้อยๆที่จ้องมองเธอนั้นช่างเหมือนใบหน้าของฉูเจ๋อหยางเหลือเกิน เธอเอื้อมมือดึงเขาเข้ามาในอ้อมกอด ราวกับกลัวว่าคนจะหายลับไปหากไม่ระมัดระวัง
เสียงอันน่าเศร้าออกมาจากปากของเธอ “รุ่ยรุ่ย ขอโทษนะ แม่เห็นแก่ตัวเอง แม่ควรจะบอกลูกตั้งแต่แรก”
เพียงเพราะความกลัวของเธอ กลัวว่ารุ่ยรุ่ยอยากจะรู้จักพ่อของเขา กลัวที่ต้องเผชิญกับสายตาอันบริสุทธิ์ กลัวว่าหลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองเป็นลูกนอกสมรสแล้ว ลูกจะเกลียดที่เธอเห็นแก่ตัว
เป้ยฉ่ายเวยกอดแน่นเกินไป ใบหน้ารุ่ยรุ่ยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร มืออวบน้อยๆคู่นั้นได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของเธอ เขาตบหลังเป็นการปลอบใจเธอเบาๆ
เขากระซิบค่อยๆ “แม่ครับ ยังมีรุ่ยรุ่ยอยู่นะ ผมจะรีบโตเพื่อปกป้องแม่เอง ผมจะไม่เลือกกินอีกแล้ว”
เป้ยฉ่ายเวยกำมือเขาแน่น หลังจากนั้นก็คลายปล่อยเขาออก เธอจ้องมองดวงตาเล็กๆนี้อย่างเป็นห่วง หัวใจอันนุ่มนวลนี้ เขาเอื้อมมือออกมาแล้วแตะไปที่จมูกน้อยพร้อมพูดว่า “แม่รู้ รุ่ยรุ่ยของแม่โตขึ้นมากแล้ว รุ่ยรุ่ยอยากรู้เรื่องของพ่อรึเปล่าครับ”
เธอรู้ตัวเองดีว่าแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยถามถึงความคิดเห็นของรุ่ยรุ่ยมาก่อน วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะพูดเปิดอก
ภายของฉูเจ๋อหยางในทีวีได้ผ่านไปแล้ว ข่าวยังคงเผยแพร่เรื่องอื่นๆต่อไป
รุ่ยรุ่ยมองดูแววตาที่อบอุ่นและเปียกชื้นของเป้ยฉ่ายเวย เขาลดหัวลงต่ำ และกล่าวเสียงอู้อี้ “ผมไม่อยากรู้”
ทำไมเขาจะไม่อยากรู้ แค่ไม่อยากให้แม่ต้องเศร้าใจต่างหากล่ะ
“รุ่ยรุ่ย…”
“แม่มีแฟนเมื่อไหร่กันครับ รุ่ยรุ่ยรู้สึกว่าควรจะมองหาผู้ชายที่ “ใจดี” มาเป็นพ่อ ถึงเวลาพ่อรู้เข้า เขาจะต้องไม่ชอบใจอย่างแน่นอน”
นี่เป็นวิธีแก้แค้น
“...” ขณะที่เป้ยฉ่ายเวยกำลังจะเคลื่อนไหว รุ่ยรุ่ยก็พูดขึ้นอย่างไม่แคร์ จนทำให้เธอนิ่งอึ้งไป
นี่เธอหูฝาดไปรึเปล่า รุ่ยรุ่ยเพิ่งจะขอให้เธอหาแฟนรึ
“รุ่ยรุ่ยอยากมีพ่อหรอครับ” เธอไม่ได้ตำหนิที่รุ่ยรุ่ยขอให้เธอหาแฟน เขาเพียงต้องมีพ่อเท่านั้น
แต่ว่าจะเป็นฉูเจ๋อหยางไม่ได้ เรื่องนี้ชัดเจนมาก
รุ่ยรุ่ยส่ายหัวและพูดตามตรง “ตอนนี้ผมยังเด็ก ยังไม่สามารถปกป้องแม่ได้ ดังนั้นผมไม่รังเกียจถ้าแม่จะหาแฟนสักคน แต่ว่าผมจะช่วยแม่ตรวจสอบเขาอีกที”
“รุ่ยรุ่ย ตอนนี้แม่ยังไม่อยากหา แม่แค่หวังว่าลูกจะเติบโตขึ้นมาอย่างปลอดภัยและแข็งแรง” เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้เลยในตอนนี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉูเจ๋อหยางเล่นตุกติกล่ะก็ ป่านนี้เธอพารุ่ยรุ่ยหนีไปไกลแล้ว พาลูกหนีไปตั้งรกรากในต่างประเทศเพื่อรอการผ่าตัดเท่านั้น
และก็จะได้ไม่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในเรื่องฉูเจ๋อหยางและหนานฉิง
รุ่ยรุ่ยขมวดคิ้วน้อยๆและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะเชื่อฟังแม่ ครูซันนี่ที่โรงเรียนอนุบาลถามว่าแม่เป็นโสดรึเปล่า ผมจะคอยช่วยพิจารณาให้แม่ครับ”
“ไม่ต้องหรอกรุ่ยรุ่ย ถ้าหากว่าเด็กคนอื่นๆรู้เข้า พวกเขาจะรู้สึกว่าลูกกำลังใช้เส้นสายนะ” เป้ยฉ่ายเวยกลัวว่ารุ่ยรุ่ยจะเห็นด้วยกับครูซันนี่ ถึงตอนนี้เธอยังไม่ประทับใจในตัวครูคนนั้นแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...