บทที่138 บ้านข้าราชการ
เมื่อเห็นรุ่ยรุ่ยเพื่อที่จะได้พบกับฉูเจ๋อหยางต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เขาแปลงโฉมตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า เป้ยฉ่ายเวยก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
ดูเหมือนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวเองถูกคนมาหารครึ่ง
เธอรู้ว่าตัวเองไม่ควรมีความคิดเช่นนี้ เพราะอย่างไรแล้วฉูเจ๋อหยางก็เป็นพ่อของรุ่ยรุ่ย แต่เธอก็ยังอดไม่ได้
แต่เธอก็ยังรู้สึกโล่งอก ขอแค่รุ่ยรุ่ยมีความสุขก็พอ เธอก็มีความสุขแล้ว
*******
ในสวนของตระกูลหนาน
หนานฉิงมองดูขนมปังป่วนอย่างไม่มีความสุข เธอโยนมันลงไปในบ่อ นั่นดึงดูปลาคราฟทั้งฝูงเข้ามาเพื่อแย่งอาหารกัน
เหาเสว่ฉินเห็นแล้วก็ส่ายศีรษะและพูดขึ้นว่า “เสี่ยงชิงลูกเป็นอย่างไรบ้าง ท้องปลาจะแตกตายอยู่แล้ว”
“หนูไม่สน พวกมันตายก็ตายไปสิ ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย” หนานฉิงไม่หยุดให้อาหาร หนำซ้ำเธอยังหยิบอีกกำใหญ่ปาลงไปอีก
เธอไม่มีความสุข แล้วจะปลาเหล่านี้ได้เสวยสุขได้อย่างไร เธอต้องการให้ทุกคนเจ็บปวดเหมือนกันกับเธอ
“ลูกทำเช่นนี้ทำไม ปลาคราฟเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ลูกไม่มีความสุขเสียหน่อย แม่บอกหนูไว้ก่อนนะ ว่าปลาคราฟพวกนี้เป็นของรักของพ่อ ลูกควรจะให้อาหารแค่พอดี” เหาเสว่ฉินรูว่าเธอกำลังไม่ชอบใจ
แต่ว่าคนดูฮวงจุ้ยบอกว่าห้ามสิ่งมีชีวิตที่ตนเองเลี้ยงในบ้านตาย นั่นจะถือเป็นโชคร้าย ไม่เป็นมงคล
สำหรับปลาคราฟในบ่อนี้ บ้านเราได้เชิญผู้รับใช้อาวุโสมาคอยดูแล
เพราะว่าปลาคราฟหมายถึงความเป็นมงคล ยิ่งมีปลาคราฟกระโดดเข้าสู่ประตูมังกรยิ่งเป็นสัญญาณที่ดี สามีมักจะชื่นชมเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงาน
หนานฉิงเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เธอไม่กล้าที่จะทำให้ปลาคราฟฝูงนี้ตายจริงๆหรอก เธอกลัวพ่ออย่างกับอะไรดี แต่อย่าอารมณ์นี้ไม่ค่อยดีจึงพูดขึ้น “แม่ ลูกสาวปวดหัวจะตายอยู่แล้ว แม่ยังจะสนใจเรื่องปลาคราฟ ที่แท้หนูก็สู้ปลาพวกนี้ก็ไม่ได้”
“ไร้สาระ หนูเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ เป็นทรัพย์สมบัติชิ้นเดียวในตระกูลหนาน ที่ตกถึงมือใครใครก็ต้องเกรง เกรงว่าจะต้องตกอยู่ในปากของเขา” เหาเสว่ฉินแสร้งทำเป็นโกรธ
หนานฉิงสบถและโยนเศษขนมปังที่เหลือลงไปบนพื้น “แม่ก็ปลอบหนู ลูกสาวกำลังถูกคนรังแกจะตายอยู่แล้ว”
“ใครกล้ารังแกลูกสาวตัวน้อยของบ้านเรา แม่จะไปออกโรงให้” เหาเสว่ฉินกุมมือหนานฉิงอย่างถะนุถนอม ตั้งแต่รู้ว่าลูกสาวต้องได้รับความเจ็บปวดจากเรื่องร้ายๆ
เธอใส่ใจกับความเจ็บปวดของลูกสาวมากยิ่งขึ้น เธอทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกสาวต้องได้รับความเจ็บปวดอีกต่อไป
“เพราะนังเป้ยฉ่ายเวยผู้หญิงเลวนั่น แม่ ครั้งสุดท้ายแม่พูดกับเธอว่าอย่างไรคะ ทำไมไม่เห็นมีผลอะไรเลย ตอนนี้เป้ยฉ่ายเวยก็ยังทำงานอยู่ที่ออฟฟิตนั่น” หนานฉิงแทบจะเป็นบ้าเพราะเรื่องนี้
เหาเสว่ฉินฉลาดเฉลียว เพราะว่าความฉลาดของเธอ เธอจึงไม่ได้แสดงความเป็นจิ้งจอกร้ายตั้งแต่ครั้งแรก
แม้ว่าเสี่ยวชิงจะจะมีประสบการณ์เรื่องนั้น แต่ด้วยบารมีของตระกูลหนาน การที่จะปกปิดเรื่องนั้นก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้
หนานฉิงพูดขึ้นอย่างไม่เต็มใจ “แม่คะหนูบอกกับพ่อแม่ไปแล้วไม่ใช่หรอคะ หนูชอบอาเจ๋อคนเดียว ถึงแม้ว่าผู้ชายคนอื่นจะดีเหมือนกันกับเขา แต่ก็ไม่มีใครมาแทนเขาได้ พึ่งพาคนในครอบครัว อยู่นอกบ้านทำตัวเหลวแหลก หนูรังเกียจพวกเขาค่ะ”
เหาเสว่ฉินพูดอย่างไม่เห็นด้วย “ลูกเอ๋ยลูก แม่ยังไม่ได้ว่าอะไรฉูเจ๋อหยางเลย ลูกก็รีบด่วนปกป้องเขาอย่างร้อนใจ ทำเป็นผู้หญิงใจแตกไปได้”
ในสังคมยุคปัจจุบันถ้าไม่มีเส้นสายจะก้าวหน้าไปไกลได้อย่างไร ไม่ว่าครอบครัวยักษ์ใหญ่แค่ไหนล้วนแต่มีเส้นสาย ถึงแม้ตระกูลหนานของพวกเขาจะไม่ได้ทำธุรกิจ แต่ก็หนีไม่พ้นวงจรเหล่านี้
“แม่ว่าทำอย่างไรดีคะ อาเจ๋อจะยังโกรธเรื่องนั้นอยู่รึเปล่า หนูไม่กล้าไปหาเขาตอนนี้ คุณพ่อก็กดดันเหลือเกิน เวลามีไม่มากแล้ว”
หนานฉิงยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอสามารถรอได้ แต่ว่าพ่อให้เวลากับอาเจ๋ออีกไม่มากนัก
ถ้าหากว่าอาเจ๋อไม่เต็มใจมา พ่อก็จะต้องรีบหาคนมาให้เธอนัดบอดอย่างแน่นอน เธอไม่ต้องการที่จะออกเดทกับคนเหล่านั้น
“เขาก็สนใจแต่เรื่องเป้ยฉ่ายเวยผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่รึ ลูกก็เอาเรื่องของเป้ยฉ่ายเวยขึ้นมาพูดดูสิ” เหาเสว่ฉินพูดเข้าประเด็น
“แม่คะ แม่จะให้หนูสงบศึกกับแม่นั่นหรอคะ หนูไม่เอาหรอก”
หนานฉิงปฏิเสธคำชี้แนะจากเหาเสว่ฉินโดยไม่ต้องคิด เธอทนไม่ได้สักวินาทีการเห็นหน้าเป้ยฉ่ายเวยก็เหมือนเป็นการเตือนสติเธอเรื่องการทรยศหักหลัง
“ถ้าหากว่าแคร์เสี่ยวฉูจริงๆ เรื่องนี้ก็ต้องทนให้ได้ ถ้าหากว่าลูกไม่ชอบเสี่ยวฉู แม่ก็ไม่ได้บังคับ แต่ต้องไปออกเดทกับคนที่แม่จะแนะนำให้แต่โดยดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...