หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 203

บทที่ 203 มางานฌาปนกิจ

ปลายนิ้วของเป้ยฉ่ายเวยสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้นนิ้วก็กำเข้าหากัน จนรอยข้อต่อนิ้วเริ่มเกร็งเป็นสีขาวซีด เธอถึงได้ค่อยๆพูดออกมา “จื่อเชียน นายอย่าถามเลย วันนี้นายก็เหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

ภายในห้องพักผู้ป่วยกลับมาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

ในใจของหลี่จื่อเชียนเจ็บเสียดขึ้นมา ตรงช่วงอกราวกับมีบางสิ่งติดค้างอยู่ สุดท้ายจึงได้แค่มองภาพร่างกายบอบบางของเธอเแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้ว เธอก็รีบพักผ่อนนะ”

เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าอย่างฝืนๆ มือข้างหนึ่งจิกเข้ากับฝ่ามือ ในใจกู่ก้องตะโกนร้อง ขอโทษนะจื่อเชียน ขอโทษจริงๆ ฉันมันก็แค่ผู้หญิงที่ไม่รู้จักสำนึกอะไร เป็นหนี้บุญคุณนายครั้งนี้ ถ้าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสฉันจะตอบแทนนายแน่ๆ

ความขมขื่น ความเกลียดชัง ความเสียใจ รวมทั้งน้ำตาของเธอ เธอทำได้แค่ปล่อยให้มันไหลรินออกมาแค่ภายในใจเท่านั้น

ประตูถูกปิดลงเบาๆ ผู้ชายคนสุดท้ายอบอุ่นกับเธอจากไปแล้ว จากไปพร้อมกับความเจ็บปวด

ทันใดนั้นเป้ยฉ่ายเวยก็กุมหัวไว้ราวกับเสียสติ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ เธอกำลังทำอะไร เธอทำอะไรอยู่......

เรื่องเกี่ยวพันธ์ไปถึงคนแล้วคนเล่าที่เป็นห่วงเธอ หนักหนาสาหัสจนแม้แต่หมาก็เทียบไม่ติด ศักดิ์ศรีของเธอโดนเหยียบย่ำ หัวใจของเธอโดนควักออกมาถูกกระทำอย่างทารุณ

เหลือก็แค่จิตวิญญาณอันต่ำต้อย อยากจะตะโกนออกไปดังๆแล้วพุ่งชนเครื่องพันธนาการนี้ออกไปเสียที

ไม่ เธอคือเป้ยฉ่ายเวยที่ไม่เคยเอาเปรียบใคร เพื่อลูก เพื่อที่พึ่งเดียวที่เธอเหลืออยู่ ต่อให้ข้างหน้าจะเป็นภูเขาชันหรือทะเลเดือด หรือจะเป็นปลายมีดที่แหลมคม เธอก็ต้องกัดฟันล้มลุกคลุกคลานเดินต่อไปให้สำเร็จ

แม้ว่าทุกคนจะเข้าใจเธอผิดเธอก็จะไม่ลังเล

ค่ำคืนอันยาวนานมันทรมานจิตใจของเป้ยฉ่ายเวยตลอดทั้งคืน เธอพยายามที่จะปรับอารมณ์ให้ปกติ เอนกายนอนลงบนเตียง จับกุมฟูกนอนไว้อย่างกับต้องการระบายอารมณ์ออกมา

ไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปตอนไหน แม้แต่ตอนที่หลับคิ้วเรียวทั้งสองข้างก็ยังคงขยับเข้าใกล้กันจนจะผูกเป็นโบว์ แม้แต่ตอนหลับก็ยังฝันจนหาทางทางสงบไม่ได้

ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างเตียงมาพักใหญ่แล้ว จดจ้องมองใบหน้าที่ซีดขาวของเธอ ขนตาที่กระพริบเบาๆ ริมฝีบากบางที่ขบเม้ม ดวงตาสองข้างหลุกหลิกราวกับกำลังหลบหนีจากอันตราย

เป้ยฉ่ายเวยสะดุ้งตื่นจากฝันขึ้นมาทันที ทั้งร่างชื้นไปด้วยเหงื่อ เธอกวาดสายตามองรอบๆทันที นอกจากความมืดสลัวรอบด้าน ก็มีเธอแค่คนเดียว ภายในห้องพักฟื้น เงียบจนไม่มีเสียงใดเกิดขึ้น

เธอกระตุกมุมปากหัวเราะเยาะตัวเอง ก็เห็นๆอยู่ว่าในห้องนี้มีแค่เธอคนเดียวคิดไปได้ยังไงว่าคนๆนั้นจะมา

หลังจากที่ตื่นขึ้นมา เป้ยฉ่ายเวยก็ไม่ได้นอนต่อ เบิกตาจนกระทั่งท้องฟ้าสว่าง

วันที่สองเมืองจิ่นอันกลับมาคลื่นสงัดลมสงบเหมือนอย่างเคย ไม่มีข่าวใหญ่หรือข่าวลือใดๆปล่อยออกมา ราวกับเรื่องราวเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

นอกจากตระกูลจางได้รับจดหมายจากทางทนาย อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ทุกคนต่างรอดูความวุ่นวายที่จะอะไรขึ้น

แต่ตระกูลจางที่ได้รับจดหมายก็ไม่อยู่นิ่ง เริ่มที่จะเคลื่อนไหวกระชับความสัมพันธ์แล้ว แต่ไม่ว่าจะไปร้องขอกับใครก็ไม่ได้รับอะไรกลับมา

จางเจิ้งกวางยังใช้ชีวิตข้างนอกอย่างไม่สะทกสะท้าน เพียงแต่วันนี้ตอนเช้าตอนที่เพิ่งออกมาข้างนอกก็ถูกคนลากเข้าไปรุมกระทืบในตรอกซอยเล็กๆ จนกว่าคนจะมาพบเขาเข้า พวกอันธพาลก็จากไปไม่เหลือแม้แต่เงาและรอยเท้าแล้ว

ตระกูลจางจะแจ้งความแต่ก็หาเหตุผลที่จะแจ้งไม่ได้ จึงทำได้แค่พาจางเจิ้งกวางที่ไม่เอาไหนกลับบ้าน บังคับเขาไม่ให้ออกจากบ้านไป ทำเรื่องเหลวไหลตามอำเภอใจอีก

“เป้ยฉ่ายเวย แม่งเอ้ย เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังไม่บอกฉันอีก” อวี๋ซือซือใช้เท้าถีบประตูเข้ามา จนปูนบนผังแทบจะร่วงลงมา ถ้าเมื่อวานถูกถังฉีตงลากเธอไปด้วย เวยเวยคงไม่ต้องไปเจอกับไอ้สวะนั่นหรอก

เลวทรามที่สุด

หนานฉิงเห็นอวี๋ซือซือเดินเข้ามาหาตนอย่างรุกราน ก็ตกใจก้าวเดินถอยหลัง ในใจแอบสบถด่าว่าเฮงซวยขึ้นมา อวี๋ซือซือที่ไม่เห็นปราฏกตัวมานาน มาตอนนี้กลับปรากฏตัวออกมาซะงั้น

ตามองเห็นฝ่ามือของอวี๋ซือซือที่ลอยมา เธอก็รีบย่อตัวหลบหนี กัดฟันวิ่งไปทางเป้ยฉ่ายเวย จับมือของเป้ยฉ่ายเวยไว้เป็นที่พึ่งอย่างตื่นกลัว น้ำตาเธอใกล้จะแตกแล้ว

“เวยเวยช่วยฉันด้วย ซือซือตีฉันตายแน่ เมื่อวานฉันไม่รู้จริงๆว่าญาติของฉันจะทำแบบนั้นกับเธอ เธอก็เห็นว่าเมื่อวานฉันกลัวแค่ไหน วันนี้ตื่นมาฉันก็ตรงมาเนี่ยมเธอเลยนะ”

“นังเวรนี่ยังมีหน้ามาแสดงละครน้ำเน่าอยู่ที่นี่อีกหรอ จางเจิ้งกวางเป็นญาติของแก แกจะไม่รู้เรื่องที่มันทำเรื่องบัดซบเลยหรือไง ฉันรู้ว่าแกนั่นแหละที่ยุยงมัน” อวี๋ซือซือโกรธถึงขีดสุด วันนี้เธอต้องได้สั่งสองนังผู้หญิงคนนี้ให้ได้

หนานฉิงเห็นฝ่ามือของอวี๋ซือซือลอยมาอีกหน ก็รีบตะโกนร้องเสียงดัง “เวยเวย!”

“ซือซือเธออย่าเพิ่งโมโหเลย เรื่องเมื่อวานไม่เกี่ยวกับหนานฉิงจริงๆนะ....” ก็น่าจะไม่เกี่ยวนั่นแหละ แต่ถ้าเกี่ยวจริงๆ เธอก็จะไม่ให้อภัยหนานฉิง

ดวงตาเป้ยฉ่ายเวยถมึนขึ้นเล็กน้อย ชักมือตัวเองที่หนานฉิงจับอยู่กลับคืนมา

หนานฉิงมองท่าทีที่หมางเมินของเป้ยฉ่ายเวย แววตาก็ปรากฏความประหลาดใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนขึ้นมา

“แกนี่ทำให้ฉันโมโหจริงๆเลยนะ” อวี๋ซือซือมองเป้ยฉ่ายเวยมาสักพักแล้ว ทำได้แค่ลดมือลง หายใจแรงๆเดินไปอยู่อีกด้าน

เมื่อหนานฉิงเห็นว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว จึงรวบรวมสติ ปรับสีหน้าให้ดูรู้สึกผิดและน่าสงสาร “เวยเวยฉันรู้ว่าเธอคงเสียใจ ฉันไม่รู้จริงๆว่าญาติฉันจะทำเรื่องป่าเถื่อนแบบนี้กับเธอ”

คำพูดที่ราวกับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวของหนานฉิงเหมือนกับมีเกลือเค็มๆโรยลงบนบาดแผลของเป้ยฉ่ายเวยอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เธอนึกถึงเมื่อวานที่เธอต้องเจอกับเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้น ทั้งทำให้เธอนึกถึงผู้ชายที่ทำให้เธออยากจะอาเจียนออกมาเมื่อนึกถึงด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว