หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 245

บทที่ 245 ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว

“ฉัน.....” อวีซือซือพูดถึงแค่ตรงนี้ ทันใดนั้นก็รู้ตัว เพื่อนสนิทที่เป็นหนึ่งในตัวเอกก็อยู่ในรูปนั้นด้วยนี่นา เธอไม่พูดดีกว่า

“เอ่อ ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากถามว่าเมื่อไหร่จะได้กินข้าว”

“ทำเสร็จแล้ว แต่ซือซือเธอแน่ใจนะ......” เป้ยฉ่ายเวยพูดยังไม่ทันจบ

อวี๋ซือซือก็ดึงมือรุ่ยรุ่ยเข้าไปทางห้องทานอาหารแล้ว เดินไปพร้อมกับพูดไปว่า “หิวจะตายแล้ว กินข้าวกันๆ”

เป้ยฉ่ายเวยเวยมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทอย่างงงงวย ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนซือซือจะหลบตาเธอตอนพูดนะ ไม่ใช่ว่าก่อเรื่องอะไรอีกนะ

เมื่อได้กินข้าว เรื่องหนักใจของอวีซือซือก็ค่อยๆหายไป เป้ยฉ่ายเวยจะเก็บจานแต่ก็ถูกหลี่จื่อเชียนห้ามเอาไว้ “เธอทำอาหารแล้ว ที่เหลือให้คนใช้จัดการเถอะ”

เป้ยฉ่ายเวยก้มมองรุ่ยรุ่ยที่เริ่มจะง่วงนอนแล้ว เธอก็ไม่ดึงดันที่จะทำต่อ พยักหน้าพูดขึ้นว่า “งั้นก็คงต้องรบกวนพวกเขาแล้วล่ะ วันนี้รุ่ยรุ่ยคงจะเล่นจนเหนื่อย เดี๋ยวฉันพาลูกไปนอนก่อนนะ”

“อืม” หลี่จื่อเชียนตอบกลับเสียงอบอุ่น สายตาอ่อนโยนมองตามร่างของเป้ยฉ่ายเวยที่อุ้มรุ่ยรุ่ยขึ้นไปข้างบน

อันที่จริงชีวิตที่มีความสุขแสนเรียบง่ายแบบนี้ก็ไม่เลวเลย มันทำให้หัวใจที่ระเหเร่ร่อนของเขาได้มีที่ยึดเหนี่ยว เขาอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับเธอเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามทุกข์ยาก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบนี้ด้วยกันตลอดไป

ฟากเป้ยฉ่ายเวยก็ไม่ได้รู้เลยว่าลี่จื่อเชียนคิดไปไกลถึงขนาดนี้แล้ว เธอกำลังเฝ้ากล่อมรุ่ยรุ่ยให้หลับอยู่

เพื่อหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วน เธอจึงล้างหน้าแปรงฟันอยู่ชั้นบน นอนกับรุ่ยรุ่ยในห้องเล็กๆนี้

คืนนี้ถือเป็นวันแรกที่เธอมาค้างที่บ้านของจื่อเชียน

เช้าวันถัดมา หลี่จื่อเชียนออกไปที่บริษัทแล้ว ข้าวเช้าคนใช้ก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อย เป้ยฉ่ายเวยพารุ่ยรุ่ยมากินข้าวจากนั้นก็มานั่งเล่นในห้องนั่งเล่นโดยที่ไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี

ตอนนี้เธอไม่ต้องไปทำงานแล้ว เธอดันรู้สึกใจหาย เพราะจู่ๆก็มีเวลาว่าง จึงไม่ค่อยจะชินเท่าไหร่

ในทีวีถ่ายทอดข่าวที่ต่อเนื่องมาจากเมื่อวาน จางเจิ้งกวางที่อยู่บนหน้าจอทีวีราวกับอายุเพิ่มไปสิบปีภายในชั่วข้ามคืน เขานั่งสลดอยู่บนเก้าอี้ บนข้อมือมีกุญแจมือ มีตำรวจคอยรายงานข้อเท็จจริงที่เขาได้กระทำผิดอยู่ข้างๆ

ข้างๆเหาเสว่ฉินมีคนแก่ที่ยังดูมีอำนาจบารมียืนอยู่ด้วย ด้านขวามือยังมีผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายๆเหาเสว่ฉินยืนอยู่ด้วย คงจะเป็นแม่ของจางเจิ้งกวาง

เมื่อวานเธอก็ได้ยินมาจากซือซือคร่าวๆ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเหาหรือตระกูลไหนๆก็ไม่สามารถช่วยอะไรจางเจิ้งกวางได้แล้ว ร้องหาความช่วยเหลือจากทั่วทุกแห่ง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำปฏิเสธ

จางเจิ้งกวางติดคุกแน่ๆแล้ว แค่รอให้กฎหมายตัดสินต่อไป

นี่ถือเป็นการขจัดความหายนะให้แก่สังคมจนหมดสิ้น

รุ่ยรุ่ยเงยหน้าขึ้นมองเป้ยฉ่ายเวยที่ดูเหม่อลอย “แม่ครับ พวกเราต้องอยู่ที่บ้านคุณลุงหลี่อีกนานแค่ไหนหรอ”

“รุ่ยรุ่ยไม่อยากอยู่ที่นี่หรอ?” เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าลูกต้องไม่คุ้นชินกับการอาศัยอยู่บ้านคนอื่นแน่ๆ

รุ่ยรุ่ยก้มหน้าลงมองปลายเท้าตัวเอง มือป้อมๆทั้งสองข้างกำเข้าหากันอยู่ตลอด ราวกับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างไรอย่างนั้น “ไม่ใช่ครับ ก็แค่ไม่ชอบที่เห็นแม่ต้องเป็นแบบนี้”

“รุ่ยรุ่ยวางใจเถอะ เราคงไม่รบกวนคุณลุงหลี่นานเท่าไหร่หรอก รออีกสักพัก เดี๋ยวเราก็ต้องไปแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยก็อยากจะถามหลี่จื่อเชียนเหมือนกันว่าเมื่อไหร่ถึงจะช่วยทำหนังสือรับรองให้เธอเสร็จ ทั้งกังวลว่าที่ตัวเองดูเร่งรีบจะเป็นการรบกวนเขาหรือเปล่า

ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งจะรับปากเธอได้ไม่นาน ถ้ายิ่งไปเร่งเขามันก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่

เธอเองก็อยากจะรีบหนีไปเหมือนกัน

“ครับ ตอนนี้คุณแม่ก็ไม่ได้ทำงานแล้ว งั้นพวกเราไปให้อาหารนกพิราบที่สวนสาธารณะดีไหมครับ” เขาไม่อยากอยู่เฉยๆในบ้าน อยากออกไปเดินเล่นข้างนอกกับคุณแม่

เป้ยฉ่ายเวยลูบแก้มซาลาเปาของลูก พูดยิ้มๆด้วยเสียงนุ่มๆว่า “ได้สิ เดี๋ยวแม่พาไป”

“เยี่ยมไปเลย” รุ่ยรุ่ยร้องขึ้นด้วยความดีใจ

ความใส่ใจของหลี่จื่อเชียนมีให้เห็นในทุกๆด้าน อย่างเช่นเป้ยฉ่ายเวยจะพารุ่ยรุ่ยออกไปข้างนอก คนใช้ก็บอกกับเธอประมาณว่า หลี่จื่อเชียนสั่งคนขับรถให้รอรับส่งเธออยู่ทุกเมื่อ เพื่อให้พวกเธอเข้าออกบ้านได้อย่างสะดวกสบาย

ถึงอย่างไรที่นี่ก็ถือเป็นบริเวณที่คนมีระดับอาศัยอยู่ เรื่องความปลอดภัยจึงค่อนข้างจะเข้มงวด ถ้าคนนอกอยากเข้ามา แต่ไม่มีคนในพาเข้ามา ก็ก้าวเท้าเข้ามาในบริเวณนี่ได้ยาก การอาศัยอยู่ที่นี่เลยปลอดภัยเอามากๆ

เป้ยฉ่ายเวยจึงไม่สามารถปฏิเสธความหวังดีของหลี่จื่อเชียนได้ คนขับรถพาสองแม่ลูกไปยังสวนสาธารณะ

อากาศแจ่มใส ลมพัดเย็นสบาย ในช่วงเวลาสุดสัปดาห์อย่างนี้ คนมาเดินเล่นที่นี่จึงไม่น้อยเลย

เป้ยฉ่ายเวยพารุ่ยรุ่ยลงจากรถ เด็กน้อยมองโน่นมองนี่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ถึงแม้ตอนปกติรุ่ยรุ่ยจะดูเข้าใจอะไรเหมือนผู้ใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง มีความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งแปลกใหม่ อีกทั้งเขายังอยู่ที่ชนบทตลอดจึงไม่ค่อยได้สัมผัสกับบรรยากาศอะไรแบบนี้ การแสดงออกที่ดูตื่นเต้นจึงเป็นเรื่องปกติมาก

แต่ในสายตาเธอ เธอกลับรู้สึกสงสาร แม้หลายปีมานี้เธอจะทำงานหนักเพื่อค่ารักษาพยาบาลของลูก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอก็ละเลยลูกไปเยอะอยู่เหมือนกัน

“รุ่ยรุ่ย ไปกันเถอะ เดี๋ยวแม่พาไปซื้ออาหารนกพิราบ” เป้ยฉ่ายเวยจูงมือเล็กนุ่มๆของลูกเดินตรงไปทางซุ้มขายของ

นานพอสมควร ที่เด็กตัวเล็กข้างกายไม่ส่งเสียงอะไรออกมา เป้ยฉ่ายเวยมองลูกอย่างสงสัย ก็พบว่าสายตาของลูกกำลังจ้องมองบนหัวของเด็กคนหนึ่ง สายตาเธอก็ทอแววรู้เห็นแจ่มแจ้งขึ้นมาในทันที

ที่แท้รุ่ยรุ่ยก็ชอบหมวกลูกโป่งทรงผลไม้นี่เอง

“รุ่ยรุ่ย ชอบหมวกนั่นไหม?”

รุ่ยรุ่ยเพิ่งรู้ตัวว่าถูกเป้ยฉ่ายเวยเห็นมุมเด็กๆของเขาเข้าให้แล้ว หน้าจึงแดงด้วยความเคอะเขิน แกล้งทำเป็นไม่สนใจพูดว่า “อ่า ไม่ ไม่ชอบครับ แม่ครับพวกเราไปกันเถอะ”

เขารู้ดีว่าแม่ทำงานมาเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ถึงแม้จะเห็นสิ่งของที่อยากได้ แต่ก็พูดไปว่าไม่อยากได้จนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว

เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกละอายใจที่รุ่ยรุ่ยรู้จักความในอายุแค่เท่านี้ เมื่อลองนึกๆดูก็พบว่าน้อยครั้งมากที่รุ่ยรุ่ยร้องขออะไรกับเธอ หรือทุกครั้งที่เธอจะซื้ออะไรให้เขาก็จะหัวเราะสดใสแล้วบอกเธอว่าไม่อยากได้

ตอนนั้นเธอไม่มีเงิน เงินเก็บก็เป็นเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ดังนั้นเธอเลยไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของลูก ตอนนี้เมื่อมาลองนึกดู เธอก็รู้สึกอยากจะตีตัวเองขึ้นมาจริงๆ

เธอช่างเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเสียจริง

เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้พูดอะไรออกมา พารุ่ยรุ่ยเดินไปซื้ออาหานกพิราบรกับคนขายที่ซุ้มขายของเล็กๆ จากนั้นก็จูงมือพาเขาเดินไปยังสวนสาธารณะ

ลานกว้างใหญ่รูปวงกลมปรากฏสู่สายตา รอบๆขั้นบันไดมีดอกไม้ล้อมไว้อยู่ บนฟ้ามีนกพิราบบินว่อน บนพื้นก็มีนกพิราบบินโฉบลงมาพักเมื่อย ส่งเสียงร้องกันเซ็งแซ่ ทังยังมีผู้ปกครองพาเด็กมาให้อาหารนกพิราบอยู่ด้วย

คนเร่ขายของก็จัดแผงรอยอยู่ตามที่ราบขั้นบันได ขายของเล่นหลากหลายชนิด ยังมีหมวกลูกโป่งที่รุ่ยรุ่ยเห็นเมื่อตอนเข้ามาด้วย มีมากมายหลายแบบ ลูกโป่งหลากสีสันทำให้อากาศสดชื่นเย็นสบายยิ่งดูมีสีสันขึ้นไปอีก

เป้ยฉ่ายเวยจูงมือรุ่ยรุ่ยไปที่แผงลอยนั้น ชี้ไปยังหมวกลูกโป่งที่วางอยู่เต็มแผงลอยพูดขึ้นว่า “รุ่ยรุ่ยชอบแบบไหน”

“แม่ครับ ผมไม่ได้อยากได้” ถึงในใจของรุ่ยรุ่ยจะชอบมาก แต่ก็บอกออกไปว่าไม่อยากได้อยู่ดี แม่หาเงินมายากลำบาก เขาไม่อยากทำตัวเป็นอุปสรรค

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว