หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 263

บทที่ 263 หลงเป็นพิเศษ

“ได้ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” อวี๋ซือซือพูดจบก็กดวางสายอย่างเร่งรีบ จนทำให้ผู้ชายที่นอนอยู่ข้างๆตื่นขึ้นมา

ถังฉีตงวาดแขนออกไปจับเธอเอาไว้ “รีบร้อนไปไหน กลับมานอนกับผมนี่มา"

“ออกไป ไม่มีเวลามาสนใจนายหรอกนะ” อวี๋ซือซือกลั้นเขินจนใบหน้าดูดีแดงซ่าน ผลักเขาออกอย่างไม่อ่อนโยนนัก

ถังฉีตงจึงไม่กวนอีก ใช้มือข้างหนึ่งค้ำหัวไว้ มองดูเธอที่กำลังเร่งรีบ “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่าคุณเป็นคนตระกูลอวี๋จริงไหม”

ไม่รู้จะบรรยายระดับความสอดรู้นี่ยังไงดี

“นายยุ่งอะไรด้วย ฉันไปละ ถ้าจะไปก็อย่าลืมล็อกประตูให้ฉันด้วยนะ” อวี๋ซือซือเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว หยิบถุงเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้เป้ยฉ่ายเวยขึ้นมา จากนั้นก็ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วราวกับลม

เหลือไว้เพียงถังถีตงที่จนปัญญา นี่เขาชอบผู้หญิงแบบไหนเนี่ย ภายนอกดูเย็นชาไม่น่าเข้าใกล้ แต่พอได้รู้จักมักคุ้นก็พบว่าที่แท้มันก็เป็นแค่รูปลักษณ์ที่ตบตา คนรักความสนุกครื้นเครงต่างหากถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ

แต่ก็นะใครใช้ให้เขามาชอบเธอล่ะ

ตอนที่อวี๋ซือซือวาร์ปมาถึงโรงแรม บนตัวของเป้ยฉ่ายเวยก็ยังมีผ้าห่มคลุมไว้อยู่

“ให้ตายสิ เวยเวยนี่แกต้องมาเจอกับเรื่องอะไรเนี่ย”

อวี๋ซือกวาดตามองความยุ่งเหยิงภายในห้อง ตลอดทางเดินมีแต่เศษผ้า ดวงตาเป็นประกายคู่นั้นก็วาววับขึ้นราวกับไฟฉาย ใช้ทักษะการสแกนผ่านทางสายตาประเมินสถานการณ์ดุเดือดที่เกิดขึ้นเมื่อวานอย่างถี่ถ้วน

ดูๆแล้วเมื่อวานพวกเขาคงร้อนแรงกันน่าดู จิ๊ ไหนจะเสื้อ ไหนจะกางเกง ไหนจะกลิ่นคาวๆที่ยังไม่จางหายไปอีก เพื่อนตัวเล็กของเธอคงเสียหายมากจริงๆ ไม่รู้ว่าทำกันไปตั้งกี่ยก

“ยังมีหน้ามาพูดอีก รีบเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันได้แล้ว” เป้ยฉ่ายเวยขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดออกมา

ราวกับอวี๋ซือซือได้พบเรื่องให้สอดรู้ใหม่ ถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เวยเวย แกเสียงแหบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อวานดื่มเยอะมากเลยหรอ”

ไม่ใช่ว่าเป้ยฉ่ายเวยไม่เข้าใจคำพูดนัยๆที่เพื่อนสนิทจะสื่อ แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่เพื่อนสนิทก่อขึ้นมาไม่ใช่หรอ “เมื่อวานเธอทิ้งฉัน”

อวี๋ซือซือไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่นิด นั่งลงข้างกายเธออย่างสบายๆ “แหะๆ ก็ฉันคิดว่าฉูเจ๋อหยางจะไปส่งแกหนิ หรือว่าเขาไม่ได้ไปส่งแกหรอ?”

ถ้าเขาไปส่ง แล้วเธอจะมาอยู่นี่ได้หรอ อีกอย่างเมื่อวานเธอก็.....

ช่างเถอะ เรื่องแบบนี้ไม่พูดออกมาดีกว่า ถ้ายิ่งมีคนรู้ก็ยิ่งมีคนกังวลเพิ่มไปด้วย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เธอจึงฉวยเอาเสื้อผ้าในมือของเพื่อนมา จากนั้นก็สวมใส่อย่างไม่รีบร้อน

อวี๋ซือซือเขี่ยจมูก รู้ว่าตัวเองไม่ค่อยรักดีที่ปล่อยเพื่อนไว้ แต่เวยเวยคงยังไม่ได้เห็นนัยน์ตาที่ข่มขู่น่ากลัวของฉูเจ๋อหยางคู่นั้นแน่ๆ เธอมีใจสู้แต่พละกำลังเธอไม่พอ อีกทั้งยังไม่กล้ารับรองความปลอดภัยของร่างกายตัวเองด้วย ดังนั้นก็เลย เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นไป

ในขณะที่เพื่อนสนิทกำลังใส่เสื้อผ้า เธอก็รู้สึกเบื่อ จึงเริ่มสอดส่องสายตาไปทั่ว ก็เธอมีศักยภาพการเป็นนักข่าวสูงนี่นา ต้องคอยจับจุดเพื่อความแม่นยำสิ

อวี๋ซือซือมองเห็นตลับพลาสติกในผ้าห่ม จึงดึงออกมาดูด้วยความสงสัยก็พบว่ามันเป็นยาทา เมื่อตั้งใจอ่านตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนนั้นดีๆ ก็หัวเราะออกมาราวกับคนบ้าอาการกำเริบพร้อมทั้งตีมือลงบนเตียงอย่างแรง

“ฮ่าๆ เวยเวยนี่แกถึงกับต้องใช้ไอ้นี้เลยหรอ ฉูเจ๋อหยางคงซื้อมาสินะ ดูๆแล้วเขาก็อ่อนโยนกับแกนะเนี่ย”

ยาทาแผล ไม่ใช่ว่าเอาไว้ทาตรงนั้นหรอกหรอ นี่ฉูเจ๋อหยางรุนแรงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ถึงกับมีแผลกันเลยทีเดียว

อวี๋ซือซือมองเธอราวกับอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้า สุดท้ายก็ตบบ่าเธอเบาๆเชิงเข้าใจ ในใจเอาแต่สบถออกมาว่าบ้าอะไรเนี่ย

ฉูเจ๋อหยางนี่ก็ช่างกล้าเนอะ ถึงกับเอากระดาษเอสี่แข็งๆมาใช้รองรับน้ำกามของตัวเองเลยหรอ แบบนั้นมันจะไม่บาดจนเจ็บหรอ หรือว่าโรงแรมระดับห้าดาวขนาดนี้แม้แต่กล่องทิชชู่ก็หามาบริการไม่ได้

หรือว่ามันกระหายอยากจนทนรอไม่ไหว แต่ก็ไม่น่าถึงกับหยิบผิดหรือเปล่า

ฉูเจ๋อหยางนี่ไม่ปกติเหมือนคนอื่นจริงๆด้วย

เป้ยฉ่ายเวยใส่เสื้อผ้าเสร็จ ก็เก็บก้อนกระดาษให้พ้นจากสายตาไม่ไว้วางใจของอวี๋ซือซือ ตอนแรกก็ว่าจะโยนทิ้งถังขยะ แต่ก็กลัวคนสอดรู้สอดเห็นมาเก็บไปคลี่ดู แบบนั้นข้อตกลงของเธอกับฉูเจ๋อหยางก็ถูกเปิดเผยสิ เพื่อความมั่นใจ เธอจึงเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าของตัวเอง

มันเป็นภาพที่ดูปกติมาก แต่ในสายตาของอวี๋ซือซือกลับไม่ใช่อย่างนั้น เวยเวยลดค่าตัวเองลงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม้แต่ ‘กระดาษ’ ที่ใช้แล้วยังเก็บกลับไปด้วย

........เธอล่ะอยากรู้เหลือเกินว่าของแบบนั้นจะเก็บกลับไปทำไมกัน? กรองเอาน้ำกามนั้นไปบริจาคให้ธนาคารน้ำอสุจิหรอ?

เมื่อคิดถึงภาพนั้นอวี๋ซือซือก็ตัวสั่นบรื๋อขึ้นมา ภาพบาดตามาก ไม่กล้าจะจินตนาการเลย

“ซือซือ เป็นอะไรไป?” เป้ยฉ่ายเวยเห็นเพื่อนสนิททำท่าทางแปลกๆ จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

อวี๋ซือซือเห็นเป้ยฉ่ายเวยยื่นมือออกมาหา กลัวว่าจะหลบไม่ทัน จึงรีบพลิกตัวออกจากหัวเตียง รีบส่ายหน้าพูดขึ้นว่า “ฉันเปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ไปได้หรือยัง ฉันจะไปส่ง”

แอบปลอบตัวเองเงียบๆว่า ไม่เป็นไรๆ ใครๆก็มีความลุ่มหลงเป็นของตัวเองกันทั้งนั้นล่ะ และเธอก็ควรที่จะเคารพความลุ่มหลงที่พิเศษแบบนี้ของเพื่อนรักด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว