บทที่ 270 เริ่มเคลื่อนไหวในวันมะรืน
เมื่อฉูเจ๋อหยางกลับมาที่บริษัท ก็ได้รับสายจากเบอร์แปลก บอกว่ามีของขวัญวางอยู่ที่ลานจอดรถรอให้เขาไปดู
ตอนที่เดินออกไป ก็บังเอิญเจอเข้ากับถังฉีตงที่มาหาเขาเพราะมีธุระพอดี
ทั้งสองจึงเดินไปพร้อมกัน
ภายในลานจอดรถที่เงียบสงบ บริเวณข้างๆเสา ก็มีกระสอบถุงนึงวางอยู่ ปากกระสอบถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา กลิ่นคาวเลือดที่อยู่ข้างในเหม็นคาวจนแม้จะอยู่ไกลก็ยังได้กลิ่นชัดเจน
“อาเจ๋อ นายรู้ไหมว่าใครส่งข้อความมา” ถังฉีตงใช้เท้าเขี่ยกระสอบดู ก็คาดเดาได้คร่าวๆว่าข้างในนั้นบรรจุสิ่งของอะไรไว้
หรือไม่ควรเรียกว่าสิ่งของดี
“เปิดออก” ฉูเจ๋อหยางไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแค่พูดขึ้นอย่างเย็นชาเท่านั้น
ถังฉีตงยักไหล่ ราวกับว่าเคยชินกับความเย็นชาของฉูเจ๋อหยางแล้ว ยื่นมือออกไปดึงเอามีดสั้นที่เหน็บอยู่กับเอวด้านหลังออกมา จากนั้นก็ลงมือปาดอยู่สองครั้ง เชือกที่มัดปากกระสอบเอาไว้ก็คลายออกมา
สิ่งที่อยู่ข้างในก็หลุนๆตามออกมาบนพื้น เป็นหัวคนที่หลุดออกมาก่อน
ถังฉีตงใช้เท้าพลิกหน้าผากคนนั้นไปมา ใบหน้าแข็งๆไร้สีนั้นก็ปรากฏแก่สายตา พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “คนที่ชื่ออาเหมาวันนั้นหนิ”
นัยน์ตาเย็นเหยียบของฉูเจ๋อหยางกวาดมองใบหน้าของอาเหมา บนหน้ามีฟองสีขาวๆที่แห้งไปแล้วติดอยู่ ผสมปนเปไปกลับรอยเลือดสีแดง ราวกับว่าถูกทรมานอย่างสาหัสก่อนตาย ทั้งร่างเกร็งหดจนไม่สามารถยืดออกได้
“หูตาจมูกปากมีเลือดออกมาหมดเลย จะสื่ออะไรกันแน่ เสิ่นลั่งไม่น่าถึงกับต้องฆ่าคนของตัวเองเพื่อขอโทษหรอกนะ” ถังฉีตงยังไม่รู้เรื่องที่เป้ยฉ่ายเวยถูกวางยา เลยคิดว่าที่เสิ่นลั่งทำมันโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า
ฉูเจ๋อหยางเข้าใจว่าเสิ่นลั่งกำลังจะบอกอะไร เรื่องวางยาเมื่อวานคงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาสินะ เพื่อรักษาหน้า ถึงกับเอาชีวิตคนๆหนึ่งแก้ปัญหาเพื่อไว้หน้ากัน
คิดจะให้เขารับความกรุณาจากเสิ่นลั่งงั้นหรอ น่าขำสิ้นดี ถึงเสิ่นลั่งจะไม่ทำแบบนี้ เขาก็จะฆ่าคนๆนี้ให้ตายทั้งเป็นเหมือนกันนั่นแหละ
“อาเจ๋อ ทำไมไม่พูดอะไรเลย” ถังฉีตงมองนัยน์ตาเคร่งขรึมของฉูเจ๋อหยาง ถึงได้พบว่าสีหน้าของเพื่อนสนิทเย็นชาผิดปกติ ราวกับรู้เรื่องที่อาเหมาตายมาก่อนล่วงหน้าแล้ว
“เขามายุ่งนายหรอ?”
“มันสมควรตายแล้ว” ฉูเจ๋อหยางทิ้งไว้แค่คำที่แสนจะเย็นชา จากนั้นก็หันหลังเดินจากไปด้วยความหยิ่งเย็นชา
“นี่ แล้วเจ้านี้จะวางไว้ตรงนี้เฉยๆหรอ?” ถ้าให้คนอื่นมาเห็นมันจะดีหรอ
ฉูเจ๋อหยางกล่าวขึ้นโดยไม่ได้หันหน้ากลับมา “ไม่ต้องไปสนใจ เดี๋ยวก็มีคนมาเก็บ”
เมื่อถังฉีตงได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น จึงไม่ได้สนใจอะไรอีก ก้าวเท้าเดินตามไป มันต้องมีเรื่องที่เขายังไม่รู้แน่ๆ “ทำไมเสิ่นลั่งต้องฆ่าอาเหมาแล้วส่งมาให้นายดูด้วยล่ะ”
ฉูเจ๋อหยางชะงักฝีเท้า นัยน์ตาเย็นชาที่แทบจะแช่งแข็งคนได้เบนมาทางถังฉีตง ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ดูน่ากลัว “มันวางยายัยผู้หญิงทึ่มนั่น แล้วนายคิดว่ามันสมควรตายไหม”
“วางยา?” ถังฉีตงตะลึงไปนิด ทันใดนั้นก็เหมือนจะเข้าใจความหมายที่ฉูเจ๋อหยางพูด หรือว่าเมื่อวานอาเหมาวางยาเป้ยฉ่ายเวย อาเจ๋อเลยโกรธถึงเพียงนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ งั้นแบบนี้ก็สมควรแล้วล่ะ
ถังฉีตังยังมีคำถามอยากจะถามอีกสักหน่อย แต่ฉูเจ๋อหยางก็เดินไปไกลแล้ว เขาไม่มีทางเลือก จึงต้องเดินตามเพื่อนไปให้ทันก่อน แต่ว่านะคนหัวแหลมอย่างเสิ่นลั่ง ทำไมลงมือทำอะไรโง่เขลาอย่างนี้ หรือว่าเสิ่นลั่งจะเห็นด้วยกับการกระทำของอาเหมา
“เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบให้ถึงที่สุด”
เขาล่ะอยากเห็นหน้าไอ้คนเนรคุณที่กล้าทำเรื่องแบบนี้เสียจริง
ฉูเจ๋อหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับ เขาเชื่อว่าถังฉีตงจะจัดการมันได้ดี แต่เมื่อคิดไปถึงแววตาขมขื่นของเป้ยฉ่ายเวยเมื่อเช้า จนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกอึดอัดในใจอยู่เลย
เขายอมเดินจากมาก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมลามือง่ายๆ แค่ปล่อยให้ผู้หญิงทึ่มคนนั้น คิดได้ก็เท่านั้น
ฉูเจ๋อหยางไม่รู้เลย ว่าการกระทำใจดีที่ดูหายากของเขา มันจะทำให้เกือบจะเสียเป้ยฉ่ายเวยไป
“เออใช่ ลิ่วเอ่อร์นับวันก็ยิ่งสนิทกับเสิ่นชีชี ไปตระกูลเสิ่นก็บ่อยขึ้นมาก ดูเหมือนบาดแผลของมันน่าจะดีขึ้นเยอะเลย คาดว่าคงเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง” ถังฉีตงเกือบจะลืมจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ไปเลย
“เสิ่นลั่งไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของลิ่วเอ่อร์แน่ แต่กับเสิ่นชีชีแล้วคงไม่มีทางที่จะไม่ดูดำดูดี”
ฉูเจ๋อหยางเงียบไปพักหนึ่ง พูดขึ้นอย่างเรียบๆว่า “จับตามองลิ่วเอ่อร์เอาไว้ วันมะรืนจะมีสินค้าล็อตใหญ่เทียบท่าเรือ นายส่งคนไปจับตามองเอาไว้ให้ดี ถ้ามันสู้ ก็อย่าปล่อยสินค้าล็อตนั้นให้หลุดไปเด็ดขาด”
“เข้าใจแล้ว ถึงยังไงสินค้าล็อตนั้นก็เป็นของที่ยืมเขามา ถ้ามีอะไรพลาดพลั้งเสียหาย คงไม่มีคำอธิบายดีๆให้แก่เบื้องบนแน่”
แววตาของฉูเจ๋อหยางลุ่มลึก พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “พวกเขาอยากให้พวกเราทำอย่างนี้จะตาย”
“งั้นก็ดี ฉันขอตัวกลับไปจัดการกับหนูที่บ้านก่อนแล้วกัน เจอกันวันมะรืนนะ” เมื่อถังฉีตงได้รับคำตอบยืนยัน ก็ไม่คิดที่จะอยู่ต่อ
คิดไปถึงลูกน้องที่ได้เลื่อนตำแหน่งซึ่งอาจจะเป็นกบฏ เขาก็รู้สึกเสียหน้าแล้ว ถ้าให้เจี่ยงรองรู้เรื่องล่ะก็ เขาก็คงยิ่งโงหัวไม่ขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...