ตอนที่31 รุ่ยรุ่ยที่อ่อนไหว
เป้ยฉ่ายเวยรีบวิ่งเข้าไปในบ้านหลังเก่ามีหลายครั้งเกือบหกล้มเดินๆชนๆไม่กล้าหยุดจากนั้นก็ถึงที่
“คุณยายคะรุ่ยรุ่ยเป็นยังไงบ้าง”
หวางฉุ้ยออกมาจากห้องเห็นเป้ยฉ่ายเวยที่ผมยุ่งแถมยังหายใจแรงอยู่ก็พูดอย่างเป็นห่วง “เวยเวยตอนนี้รุ่ยรุ่ยนอนแล้วแต่ว่าไข้ยังสูงอยู่ฉันใช้ผ้าเช็ดตัวไข้ก็ไม่ลดสักที”
“ฉันรู้แล้วคุณยายขอบคุณนะคะเดียวให้ดูแลรุ่ยรุ่ยเอง”
เห็นคุณยายที่ผมเริ่มขาวในใจเป้ยฉ่ายเวยก็รู้สึกเจ็บใจคุณยายอายุใหญ่ขนาดนี้แล้วไม่ได้กินดีอยู่ดีไม่พอแถมยังต้องมาดูแลลูกเธออีก
“ฉันไม่เป็นไรแค่พวกเธอสองคนกินดีอยู่ดียายก็พอใจแล้ว รุ่ยรุ่ยยังอยู่ข้างใน” หวางฉุ้ยพูดอย่างมีเมตตา
เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าแล้วผลักประตูเข้าไปห้องที่เก่าและเรียบง่ายในนั้นก็ของวางแค่ไม่กี่อย่างผ้าปูที่เป็นสีขาวแสดงถึงความเรียบง่ายในห้องนี้บนแผ่นไม้ยังมีเด็กที่แก้มแดงนอนอยู่บนนั้น
เขาอายุแต่สามขวบแต่ต้องทนรับความเจ็บปวดที่ไม่เหมาะสมกับเขาทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะเธอไม่ละเอียดเอง
ถ้าตอนนั้นไปฝากครรภ์และตรวจสม่ำเสมอก็คงจะรู้เรื่องของเด็กก่อนล่วงหน้าและแน่นอนเธอไม่มีทางที่จะไม่เอาเด็กแต่ก็คงจะระมัดระวังกว่านี้ไม่ให้เขาออกก่อนกำเนิด
เป้ยฉ่ายเวยไม่กล้าคิดมากเอาผ้าห่มบนเตียงมาห่มแล้วอุ้มขึ้นมาน้ำหนักในมือเบามากเบาจนเธอรู้สึกเจ็บใจเธอในถานะคนเป็นแม่คือทำได้ไม่ดีมาก
ช่วงสามปีนี้เพื่อที่จะปิดบังแถมยังปิดบังฉูเจ๋อหยางไว้ต้องแอบกลับบ้านแล้วอยู่เป็นเพื่อนไม่กี่วันจากนั้นก็ต้องรีบกลับเพราะกลัวคนอื่นรู้
สายตาคู่นั้นของรุ่ยรุ่ยทำให้เธอรู้สึกผิดและเจ็บใจแต่เธอก็ทำไรไม่ได้
เป้ยฉ่ายเวยเห็นคุณยายที่จะมาส่งพวกเธอก็รีบห้าม “คุณยายไม่ต้องมาส่งแล้วเดียวฉันพารุ่ยรุ่ยไปโรงพยาบาลเองครั้งคืนคุณยายมองทางไม่ค่อยชัดอีกกลับไปก่อนเถอะรอให้รุ่ยรุ่ยหายดีเดียวโทรหา”
“ก็ได้เวยเวยระหว่างก็ระวังหน่อยนะ” ถึงแม้หวางฉุ้ยอยากตามไปด้วยแต่ว่าอายุเธอก็มากแล้วแถมทำอะไรก็ช้าถึงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้แถมอาจจะไปสร้างความลำบากให้เธออีกเลยไม่ได้บังคับ
“อือฉันรู้แล้วคุณยาย” เป้ยฉ่ายเวยดินออกไปไกลก็รู้สึกได้ถึงสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองตัวเองอยู่
วินาทีนั้นเป้ยฉ่ายเวยเกือบจะร้องไห้อีกครั้ง
คนขับรถเห็นเป้ยฉ่ายเวยอุ้มเด็กเดินมาก็รีบลงจากรถแล้วไปช่วยเปิดประตูแล้วถาม “หนูเด็กไม่สบายแล้วทำไมมีหนูแค่คนเดียวพ่อแม่เขาล่ะ”
เป้ยฉ่ายเวยชะงักจากนั้นพูดต่อ “ขอบคุณลุงนะคะเขาเป็นลูกชายหนูเอง รุ่ยรุ่ยเขาเป็นไข้ หนูก็เลยจะพาเขาไปโรงพยาบาล”
คนขับรถเห็นเป้ยฉ่ายเวยพูดหน้าตานิ่งเฉยก็รู้ว่าตัวเองพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเลยไม่ได้คุยต่อจากนั้นก็ปิดประตูนั่งลงที่คนขับสตาร์รถ
มานอกเมืองมารับลูกไปโรงพยาบาลคนเดียวแถมยังไม่มีพ่อคนขับรถก็ถอดหายใจในใจก็คิดว่านี่คงเป็นผู้หญิงที่โดนควาทรักบางตาอีกคน
เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าที่คนขับรถถอดหายใจเพราะอะไรแต่เธอก็ไม่มีความที่อยากอธิบายไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไงเธอก็อยากทำหน้าที่เลี้ยงลูกจนโต
“อือแม่สัญญา เชื่อฟังนะ นอนเถอะ” เป้ยฉ่ายเวยลูบหัวของรุ่ยรุ่ยเบาๆ
“อือ” รุ่ยรุ่ยได้คำสัญญาใบหน้าก็ยิ้มออกมามือของแม่ทั้งเย็นทั้งสบาย
แค่แป๊บเดียวรุ่ยรุ่ยก็หลับเพราะเป้ยฉ่ายเวยลูบหัว
ได้ยินเสียงหายใจในใจของรุ่ยรุ่ยก็นุ่มไปหมดรุ่ยรุ่ยหน้าตาไม่เหมือนเธอระหว่างคิ้วก็แสดงถึงความเอาแต่ใจเหมือนผู้ชายคนนั้นฉูเจ๋อหยาง
ไม่บอกไม่ได้แต่เชื้อของฉูเจ๋อหยางดีจริงรุ่ยรุ่ยได้ข้อดีของตัวเขามาหมดบางครั้งเป้ยฉ่ายเวยก็ชอบคิดว่าตัวเองอยู่ต่อหน้าฉูเจ๋อหยางฉบับมินิ
ไม่ว่าจะเป็นนิสัย หน้าตาหรือว่าท่าทางของการกระทำเหมือนเขาหมด
ก็เลยเป้ยฉ่ายเวยยิ่งห้ามไม่ให้ฉูเจ๋อหยางมาเจอเด็กคนนี้เด็ดขาดถ้าคนที่รู้จักกันมาเห็นก็จะรู้ว่าเป็นลูกเขา
ในอ้อมกอดมีลูกที่มีค่าใจของเป้ยฉ่ายเวยยังระแวงอยู่ทั้งสองปีก็ไม่เคยตกหล่นกลัวว่าวันไหนเรื่องจะแตกแต่ยังดีที่ทุกอย่างจะจบแล้ว
“แม่อย่าไป.......”
มือของเป้ยฉ่ายเวยที่ลูบอยู่ก็ชะงักน้ำตาก็ไหลลงมาคำพูดที่เด็กพูดออกมาไม่รู้ตัวจากฝันเป็นจุดสุดท้ายที่ทำให้น้ำตาไหล
ตอนรุ่ยรุ่ยยังเด็กก็เคยถามว่าพ่อไปไหนพอโตขึ้นเรื่อยๆเหมือนเขาก็รู้เรื่องขึ้นถึงแม้ไม่มีพ่ออยู่เคียงข้างเขาก็ยิ้มตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...