หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 41

บทที่41 ต้าเผิง?ต้าเผิน

ถ้าหากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น ฉูเจ๋อหยางกับหนานฉิงอาจจะแต่งงานกันไปแล้วก็ได้

เสียงพูดที่เหลาะแหละพูดขึ้น “สาวสวยคนนี้ ดูเธอนั่งเหงาๆคนเดียว ไม่รู้ว่าคืนนี้ ฉันจะมีโอกาสอยู่เป็นเพื่อนมั้ย”

“ขอโทษที ฉันมีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้ว แล้วปฏิเสธอย่างมีมารยาท

“เป็นไปได้ไง ผู้ชายที่ไหนจะยอมให้ผู้หญิงสวยๆอยู่คนเดียว คุณผู้หญิงไม่ต้องอายหรอก” ชายคนนั้นแสดงออกให้เห็นรอยยิ้มที่คิดว่าหล่อ แล้วส่งไฟให้เป้ยฉ่ายเวยแบบไม่หยุด

ดวงตารูปสามเหลี่ยมคว่ำจมูกที่ยุบตัว และบวกกับขนจมูกที่ยื่นออกมานั้น

เป้ยฉ่ายเวยอดไม่ได้ที่จะดึงสายตา เขาเอาความกล้าหาญนี้มาจากไหน หรือว่าเหลียงจิ้งหรูเป็นคนให้เขาหรอ?

“ฉันมีแฟนแล้ว” ความหมายของคำนี้ก็คือใบใส่หัวไปได้แล้ว

แต่ชายคนนี้เหมือนจะฟังไม่รู้เรื่อง ยื่นมือไปจัดคอเสื้อตัวเอาแล้วแสดงออก ‘ความชั่วร้าย’ ทางสายตาออกมา และฟันใหญ่ในปากของเขาก็โผล่ออกมา

ฟันทองด้านหน้าอยู่ด้านล่างแสงเหมือนกำลังทักทายกันอยู่ เกือบทำให้ตาของเป้ยฉ่ายเวยบอด ถ้าตอนนั้นในปากเธอมีน้ำมันต้องพุ่งออกมาแน่ๆ

รสนิยมของชายคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ

“คุณผู้หญิง เธอทำแบบนี้เพื่ออะไรเธอสวยขนาดนี้ ใจดีขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ เหมาะกับผู้ชายที่หล่อกว่า”

อย่างเช่นเขา ในนามเจ้าชายน้อยในไนท์ครับ ใช้นามนี้ลองกี่ครั้งก็ได้กี่ครั้ง เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะจัดการกับสาวน้อยคนนี้ไม่ได้

คิดว่า คืนนี้จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับหญิงสาวที่สวยแบบนี้ คนทั้งคนของเขาก็เหมือนเริ่มลอยแล้ว

เป้ยฉ่ายเวยไม่ใช้แค่ดึงสายตาแล้ว ตอนนี้ของเริ่มเบ้ปาก เขานี้คงถูกผีเข้าสิงคิดว่าตัวเองคือชายขาหมูจริงๆแล้วมั้ง?

“ฉันมีแฟนแล้ว เขาไปช่วยฉันเอาน้ำแล้วเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

ผู้ชายเห็นเธอย้ำแล้วย้ำอีก ว่าตัวเองมีแฟนแล้ว แต่ตั้งนานแล้ว ก็ไม่เห็นผู้ชายแม้แต่คนเดียว คิดว่าเธอใช่กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ

พูดออกมาอย่างมั่นใจในตัวเอง “คุณผู้หญิง ฉันรู้ว่าคุณอาย ไม่เป็นไร ฉันลืมแนะนำตัวเองไป ฉันคือรองผู้จัดการบริษัทภาพยนตร์ว่านอวี่ว่านต้าเผิง”

พูดไปยังกระพริบตาให้เป้ยฉ่ายเวย “ถ้าเธออยากเข้าวงการบันเทิง แล้วฉันช่วยเธอ ก็จะสามารถอยู่ได้แบบไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย”

บริษัทภาพยนตร์ว่านอวี่? เป้ยฉ่ายเวยเหมือนเคยได้ยินเหมือนจะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากในวงการบันเทิง แต่ดูจากผู้ชายตรงหน้าที่สมองไม่ค่อยเต็มเป็นรองผู้จัดการก็คงเป็นลูกหลานคนรวย

เป้ยฉ่ายเวยก้าวเท้าถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างแล้วพูด “ขอบคุณแต่ฉันไม่สนใจ”

อีกด้านนึงเธอ ก็หวังให้จื่อเชียนมาเร็วๆจื่อเชียนไปเอาน้ำแก้วเดียวไม่น่าไปนานขนาดนี้

ว่านต้าเผิงเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยปฏิเสธตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ความไม่มีความสุขเขียนอยู่บนหน้า คิดว่าเขาเจ้าของบริษัทภาพยนตร์ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่ให้หน้าเขาเลย และเขาก็จำไม่ได้ว่าเธอคือคุณหนูบ้านไหน

คิดว่าเธอก็คงเป็นผู้หญิงที่อยากบินขึ้นที่สูง ยังกล้าให้สีหน้าเขาดูอีก ตอนนั้นโกรธแล้วพูดขึ้นทันที “คุณผู้หญิง เธออย่าให้หน้าไม่เอาหน้านะ”

เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้วแบบไม่มีความสุข ตอนนี้ในสมองโกรธจนเป็นไฟแล้ว เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากมีเรื่องกับเขาเลยเลือกที่จะเดินจากไป

แต่ว่านต้าเผิงเหมือนว่าไม่คิดที่จะปล่อยเธอไป ยื่นมือออกมาข้างหน้าก็จะจับโดนหลังของเป้ยฉ่ายเวยแล้ว

ผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนึงจับมือเลวๆของว่านต้าเผิงไว้อย่าง่ายดาย แล้วพูดออกมาอย่างน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณว่านคุณเตรียมตัวที่จะทำอะไร”

“นาย..นายคือนายฉูเจ๋อหยาง นายจะทำอะไรรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

ว่านต้าเผิงไม่คิดว่าจะมีคนโพล่ออกมาแซข้างทางแบบนี้ แล้วคนที่มาแซยังเป็นฉูเจ๋อหยางซึ่งเป็นคนที่มีบทบาทโหดร้าย ถึงไม่ใช่เจ้าของบริษัทใหญ่โตอะไร แต่เบื้องหลังของเขามีบริษัททนาย และบวกกับคนตระกูลหนาน

เขาไม่กล้าที่จะทำให้ฉูเจ๋อหยางโกรธง่ายง่าย บริษัทของใครจะไม่มีเรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ เวลาแบบนี้ก็ต้องให้ทนายช่วย และฉูเจ๋อหยางก็เป็นแม่ทัพที่รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

หัวหน้าของพวกเขาเมื่อเห็นฉูเจ๋อหยางยังเรียกแบบเกรงใจว่าคุณทนายฉู

แต่มือของเขาเจ็บมาก สามารถที่จะปล่อยเขาก่อนแล้วค่อยพูดไหม?

เป้ยฉ่ายเวยหันกลับมามองผู้ชายข้างๆด้วยความไม่เข้าใจ พอเห็นฉูเจ๋อหยางจับมือของว่านต้าเผิงไว้ เธอก็เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอไม่คิดว่าว่านต้าเผิงจะไม่ยอมตายใจ และคิดที่จะทำร้ายเธอ

ในใจรู้สึกขอบคุณและสงสัยเล็กน้อย เขาไม่ใช่กำลังคุยกับพ่อแม่ของหนานฉิงหรอ ทำไมถึงมาโผล่อยู่ข้างๆเธอ แล้วหนานฉิงละ?

ฉูเจ๋อหยางปล่อยมือของว่านต้าเผิงออกด้วยสีหน้าเย็นชา ถึงจะยืนอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร แต่ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกได้ถึงความอึดอัด

ว่านต้าเผิงรู้สึกไม่เต็มใจ แต่ต่อหน้าฉูเจ๋อหยางเขาไม่มีโอกาสชนะ ทำได้เพียงจ้องพวกเขาสองคนหนึ่งทีแล้วหันกลับไป ลูกผู้ชายแก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

เขาต้องหาฉูเจ๋อหยางคิดบัญชีครั้งนี้แน่นอน ผู้หญิงคนนั้น เขาไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน

ว่านต้าเผิงเดินไปข้างหน้าได้สองสามก้าว รู้สึกว่าขาลื่น คนทั้งคนชนเข้าที่มุมโต๊ะอย่างจังๆ โต๊ะที่ทำด้วยหินอ่อนไม่มีความเสียหายใดๆ

แต่ผู้ชายที่ชื่อว่านต้าเผิง เอะอะโวยวายแล้วจับเป้าตนเองกลิ้งไปกลิ้งมา ด้วยความเจ็บอยู่บนพื้นเสียงเหมือนเสียงฆ่าหมู ทำให้ผู้ชายทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตัวสั่น แล้วหนีบเป้าตัวเองไว้อย่างตั้งใจ

แม้แต่ฉูเจ๋อหยางที่หน้าไรอารมณ์ยังเม้มมุมปาก

“อ้า————เจ็บจะตายอยู่แล้ว——ฉัน——เสียแล้ว”

ตอนจากนี้ไป ว่านต้าเผิงสามารถเปลี่ยนชื่อเป็นว่าต้าเผินได้แล้ว

เป้ยฉ่ายเวยมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งตัวไม่ทันว่านต้าเผิงคนนี้ทำไหมเดินชนโต๊ะแบบขะตายแบบนั้น แล้วยังโดนจุดนั้นแบบเต็มๆ

ไม่ถูก ถึงจะไม่ชัดเจนแต่บนพื้นเหมือนมีคราบน้ำ

เป้ยฉ่ายเวยมองไปยังแก้วแชมเปญที่ดื่มไปกว่าครึ่งของฉูเจ๋อหยาง คงไม่ใช่……

ผู้ชายคนนี้ ใจเด็ดเกินไปละมั้ง แต่ทำไมเขาถึงต้องช่วยตนเองล่ะ

เป้ยฉ่ายเวยที่กำลังคิด ยังคิดไม่เข้าใจว่านต้าเผิงก็ถูกคนอื่นหามออกไปแล้ว คนรอบข้างรู้แต่เพียงว่านต้าเผิงลื่นล้ม ไม่รู้เรื่องที่มายุ่งวุ่นวายกับเป้ยฉ่ายเวย

ดังนั้น ทุกคนก็มองสถานการณ์นี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ

“เวยเวย เกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอไม่เป็นไรใช่ไหม” หลี่จื่อเชียนรีบเดินมาพูดขึ้นด้วยสีหน้าขอโทษที่จริง แล้วเขาแค่ไปเอาน้ำสองแก้วระหว่างทางกลับมาเจอเพื่อนนักธุรกิจเป็นโครงการที่ค่อนข้างสำคัญ

ไม่สามารถที่จะไม่อยู่พูดคุยได้ รอจนเขาหาข้ออ้างออกมาได้กลับมา ก็เห็นจุดที่เวยเวยยืนมีคนล้อมไว้มากมาย

เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากให้หลี่จื่อเชียนเป็นห่วง และฉูเจ๋อหยางก็ช่วยเธอจัดการเรียบร้อยแล้ว จึงพูออกมาว่า “ไม่เป็นไรก็แค่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อย”

“ทำไม พวกนายถึงได้ล้อมเข้าด้วยกัน?” หนานฉิงก็เดินเข้ามา เห็นฉูเจ๋อหยางก็อยู่ถามขึ้นแบบอ้อน “อาเจ๋อเกิดเรื่องอะไรขึ้นฉันได้ยินมาว่ามีคนเกิดเรื่อง”

“ไม่รู้” ฉูเจ๋อหยางตอบแบบสีหน้าไม่เปลี่ยน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว