บทที่42 คืนนี้ไปที่ฉัน
เป้ยฉ่ายเวยตะโกนในใจว่าจิ้งจอกแก่ แต่สีหน้าเหมือนเดิม “หนานฉิงมีอะไรหรอ”
“อ้อ เมื่อกี้ฉันได้ยินคนอื่นพูดเหมือนว่านต้าเผิงของว่านอวี่ ได้รับบาดเจ็บถูกส่งไปโรงพยาบาลก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” หนานฉิงเล่าเรื่องที่ได้ยินมาจากคนอื่นให้พวกเขาฟัง
เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าแสดงให้เห็นว่าเข้าใจแล้ว เธอไม่ใช้คนขี้สงสัยอะไร ดังนั้นหนานฉิงก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร
แต่ สายตาที่หลี่จื่อเชียนมองฉูเจ๋อหยางเหมือนมีอะไรแอบแฝง
“พวกคุณสามคนเป็นอะไรไป ทำไมเป็นใบ้ไปพร้อมกันหมดเลย?” หนานฉิงประท้วงแบบไม่พอใจ ทำไมคืนนี้ทุกคนถึงแปลกไป อาเจ๋อเป็นแบบนี้ เวยเวยก็เป็น แม้แต่หลี่จื่อเชียนก็เหมือนกินยาผิด
ความรู้สึกที่ถูกคนอื่นทิ้งไว้ข้างนอกทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งทั้งที่งานคืนนี้เธอเป็นตัวหลัก
โคมไฟแก้วเหนือหัวค่อยๆมืดลง เปลี่ยนเป็นแสงสีเหลืองอ่อนที่ดูอบอุ่น จึงทำให้ทั้งสามคนไม่ต้องอธิบายอะไร ผู้จัดงานบนเวทีก็ประกาศขึ้น
งานเลี้ยงเข้าสู่ช่วงสุดท้าย และคือช่วงที่หนานฉิงรอคอยมากที่สุด นั้นคืองานเต้น
ในขณะที่เสียงเพลงดังขึ้น หนานฉิงก็ไม่สนใจเรื่องโกรธไม่โกรธแล้ว จับมือของฉูเจ๋อหนาง แล้วพูดขึ้นแบบตื่นเต้น “อาเจ๋องานเต้นรำเริ่มแล้วพวกเราไปเต้นรำกัน”
“อืม” ฉูเจ๋อหยางไม่ได้คัดค้าน เดินตามหนานฉิงไป
ตอนที่หนานฉิงเดินไป ก็ไม่ลืมที่จะกระตุ้น “เวยเวย เธอรีบพาหลี่จื่อเชียนตามมานะ ไม่งั้นเจ้าแม่ขาแดนซ์ของคืนนี้ ก็คือฉันแล้วนะ”
หลี่จื่อเชียนก้มตัว แล้วยื่นมืออกไปทำท่าทางสุภาพบุรุษ แล้วพูดแบบอ่อนโยน “องค์หญิงของฉัน ฉันจะได้รับเกียรติเต้นรำกับคุณมั้ย?”
เป้ยฉ่ายเวยยื่นมือให้หลี่จื่อเชียน แล้วพูดเล่นกับเขาว่า “จื่อเชียน ฉันยิ่งชอบถ้าหากนายเรียกฉันว่า แม่เลี้ยงซินดร้า”
หลี่จื่อเชียนอึ้งไปแป๊บนึง แล้วยิ้มกว้างที่มุมปาก คนที่เขาชอบนี้ไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ ผู้หญิงส่วนมาก อยากเป็นองค์หญิง แต่เธออยากเป็นแม่เลี้ยงน่ารักจริงๆ
ทั้งสองคนเดินตามผู้คนเข้าสนามเต้นรำ เพราะแสงไฟมันมืด เลยไม่รู้ว่าคนข้างคือใคร เห็นเพียงคู่เต้นที่อยู่ใกล้ๆตัวเอง
เสียงเพลงที่ไพเราะ อยู่ในสถานการณ์ที่คลุมเครือแบบนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนมีอาการแปลกๆบางอย่าง
พูดถึงเรื่องเต้นก็เป็นท่าเต้นเรียบง่าย เต้นแล้วหมุนไปมา ถึงบางช่วงก็อาจมีการเปลี่ยนคู่เต้นรำ นี้ก็คือเสน่ห์ของการเต้นรำนี้
“เวยเวย เธอบอกว่าตัวเองเต้นไม่เก่ง ถ่อมตัวไปแล้วมั้ง” หลี่จื่อเชียนเต้นไปกับเป้ยฉ่ายเวยสักพัก ก็เริ่มรู้ว่าเป้ยฉ่ายเวยเต้นแม่นมาก แม่นกว่าตัวเองมาก
เพื่อคัดค้านคำพูดของหลี่จื่อเชียน เป้ยฉ่านเวยก็เหยียบขาของหลี่ตื้อเขียน “โอ๊ยขอโทษทีที่เหยียบขานายจื่อเชียน”
“ไม่เป็นไร แค่เธอรักษาจังหวะเมื่อกี้ไว้ก็พอ” หลี่จื่อเชียนตอบแบบนิสัยดี เขาคงคิดมากไปเอง เพราะหลังจากที่เขาพูดคำนี้เสร็จ เวยเวยก็เหยียบขาเขาไปหลายครั้ง
เป้ยฉ่ายเวยก็ขอโทษอยู่ทุกครั้ง ในใจรู้สึกโล่งอกไปมาก เกือบแสดงท่าแท้ของตัวเองออกมาแล้ว
จริงๆแล้วเธอคือคนที่มีพรสวรรค์มาก ในด้านการเต้น แค่เธอมีสาเหตุบางอย่าง จึงไปได้เลือกสิ่งที่ตัวเองชอบ
ยังดี ที่จื่อเชียนยังจับพิรุธไม่ได้ แต่จะให้เหยียบต่อไปก็ทำไม่ลง จึงพูดขึ้นแบบเกรงใจว่า “จื่อเชียน ฉันโง่มากไปนายหาคนอื่นมาเต้นกับนายจะดีกว่า ฉันไม่ถือสาอะไรหรอก ฉันหาที่ที่หนึ่งรอนาย”
หลี่จื่อเชียนมาพูดข้างๆหูของเป้ยฉ่ายเวย แบบเบาๆว่า “ไม่เป็นไร เวยเวยเธอเหยียบไม่เจ็บเลย แต่ถึงเจ็บนี้ฉันก็สุขใจ”
เป้ยฉ่ายเวยหน้าร้อนเผ่า ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
ขณะนั้นทำนองเพลงเปลี่ยนพอดี จากเพลงช้ากลายเป็นเพลงเร็ว คือให้สัญญาณว่าถึงเวลาเปลี่ยนคู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...