หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 474

บทที่ 474 ท่าเรืออวี๋เหริน

เพราะคำพูดของเสิ่นย่าว ทำให้ความคิดยุ่งเหยิงกับความลังเลของเสิ่นชีชีค่อยๆหายไป เธอส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “ไม่ใช่ฉันไม่อยากบอกนาย แต่ฉันแค่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง พี่ใหญ่เขา.....คำพูดของเขาทำให้ฉันจับต้นชนปลายไม่ถูกซักเท่าไหร่”

เสิ่นย่าวตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ

จากนั้นเสิ่นชีชีก็นำเอาเรื่องที่เสิ่นลั่งเพิ่งพูดกับเธอมาเมื่อครู่บอกต่อกับเสิ่นย่าวในเวลาอันรวดเร็ว

สุดท้ายก็มองเสิ่นย่าวอย่างขอร้องเอาคำตอบ “นายว่า ที่พี่ใหญ่พูดมาใช่เรื่องจริงไหม? ตระกูลเสิ่นทำธุรกิจ....มืดจริงหรอ?”

นัยน์ตาของเสิ่นย่าวกวาดมองเสิ่นชีชีผ่านๆ แอบรู้สึกสงสารในใจ

“ชีชี เอาจริงๆบางทีฉันก็อิจฉาเธอนะ” เขาพูดอย่างไม่เสแสร้ง

เสิ่นชีชีอ้าปาก รู้สึกงุนงงไม่เข้าใจที่เขาพูด

ต่อมา เธอก็ได้ยินเขาพูดว่า “ในตระกูลเสิ่นคนที่ใสซื่อไม่รู้เรื่องราวสกปรกๆเหล่านี้ ก็มีแค่เธอ”

เสมือนมีฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ซัดเปรี้ยงลงกลางใจของเธอ

เสิ่นย่าวปล่อยให้เธอได้คิดอะไรคนเดียว

เขาเดินมาเข้าห้องน้ำ แล้วต่อสายหาฉูเจ๋อหยาง

“ท่าเรื่ออวี๋เหริน คาดว่าเวลาในการโอนถ่ายของจนเสร็จ คงประมาณเที่ยงครึ่ง ด่านสับเปลี่ยนด่านแรกอยู่ที่บริเวณถนนเรียบชายฝั่งและคลังสินค้าที่อยู่บริเวณหัวมุมติดถนนฮวาหยวน” พูดทิ้งไว้แค่นี้ เขาก็กดวางสาย

ฉูเจ๋อหยางยกยิ้มมุมปาก

เสิ่นย่าวนี่พึ่งพาได้จริงๆด้วย!

จากนั้นรถยนต์จึงขับมุ่งไปยังท่าเรื่ออวี๋เหรินในทันที

ในขณะเดียวกัน ลิ่วเอ่อร์ก็หาของบางอย่างเจอได้อย่างราบรื่นจากนั้นก็รีบมุ่งไปยังท่าเรืออวี๋เหรินเช่นเดียวกัน

สถานที่ที่เสิ่นลั่งนัดแนะให้เขาไปส่งของก็คือท่าเรืออวี๋เหริน ถ้าวันนี้เขานำสมุดบัญชีของหนานเทียนหยางส่งให้คนของเสิ่นลั่งได้ เสิ่นลั่งก็จะสั่งให้คนพาเขาออกทะเลไปกับเรือขนส่งสินค้า เพื่อหนีไปจากเมืองแห่งนี้

ส่วนหนานฉิง เขาไม่พอซักเท่าไหร่ที่ไม่สามารถแก้แค้นด้วยตัวเองแล้วส่งให้ฉูเจ๋อหยางเป็นของขวัญ

น่าเสียดาย ถ้าเวลาเป็นใจมากกว่านี้ เขาก็ว่าจะเล่นงานลูกของฉูเจ๋อหยางกับเป้ยฉ่ายเวยอยู่เหมือนกัน

ผ่านไปสิบนาที จางซานเริ่มปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบริเวณหน้าผาก แต่เมื่อเห็นสินค้าล็อตสุดท้ายถูกบรรจุลงในรถ เขาก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“เฮียจาง ใกล้จะเสร็จแล้ว!การสับเปลี่ยนสินค้าทางฝั่งนั้นก็เรียบร้อยดีครับ” ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับจางซานด้วยใบหน้ายินดี

สินค้าแค่ล็อตหนึ่งปกติมันก็ไม่เยอะซักเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าจะให้ผ่านด่านตรวจสอบและซักถามมาได้อย่างราบรื่น ก็ต้องเก็บของปะปนไว้กับสินค้าอื่นๆให้แนบเนียน ดังนั้นบริเวณนี้จึงมีรถบรรทุกจอดเรียงกันอยู่หลายคัน

ที่ต้องลงตราประทับเครื่องหมายการค้าจะเป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้า

จางซานพยักหน้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงได้เอาแต่รู้สึกใจไม่ดีเลย

แต่พอนึกได้ว่าพวกเขาได้เตรียมระเบิดควันไว้ล่วงหน้าเยอะพอสมควร จึงเบาใจลงบ้าง

ลิ่วเอ่อร์มาถึงก่อนที่ของล็อตสุดท้ายจะถูกขนขึ้นรถ

“ไงลิ่วเอ่อร์สบายดีไหม” จางซานยิ้ม รู้เรื่องจากเสิ่นลั่งตั้งแต่แรกแล้ว

ลิ่วเอ่อร์ไม่ได้มีสีหน้าอะไร เขามองไปรอบๆ จนเมื่อเห็นว่าคนงานกำลังเร่งรีบขนย้ายสินค้าลงจากเรือ สายตาก็ปรากฏเงื่อนงำบางอย่าง ยังไม่ทันได้คิดไปถึงเรื่องอะไร แววตานั้นก็พลันหายไป

ในขณะที่รู้สึกร้อนอกร้อนใจ ก็เอ่ยเสียงแข็งว่า “นายคงจำคำสั่งของประธานเสิ่นได้ ฉันต้องนั่งเรือลำไหนไปหรอ?”

“แผนยังไงก็ต้องเป็นไปตามที่วางไว้นั่นแหละ นายไม่ต้องใจร้อนหรอกน่า นายมีของบางอย่างมาแลกไม่ใช่หรือไง? ของอยู่ไหนล่ะ?” จางซานแสยะยิ้ม

ลิ่วเอ่อร์หรี่ตาลง ลังเลอยู่ชั่วครู่

สุดท้าย ก็ควักเอาสมุดเล่มเล็กๆเล่มหนึ่งที่พกมาด้วยออกมา เป็นสมุดที่ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือเท่านั้น แต่ในนั้นกลับมีตัวหนังสือเขียนอยู่เต็มไปหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว