บทที่ 476 ใครกันที่กวนบาทา
ณ หน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ เป้ยฉ่ายเวยยืนอยู่ข้างหลังเจี่ยงเสี่ยวเล่อ กรอบตาแดงชื้นมองอวี๋ซือซือที่กำลังถูกจับเอาไว้อยู่ตรงหน้า เผยอปากเตรียมจะพูด แต่กลับพูดอะไรไม่ออก
อวี๋ซือซือถูกผู้ชายชุดดำจับกุมเอาไว้ ข้อมือก็ถูกจับมัดไขว้หลัง
ในมือของผู้ชายคนนั้นถือมีดอยู่เล่มหนึ่ง สีหน้าท่าทางโหดเหี้ยมอำมหิต
“คุณเป้ย ยอมไปกับผมซะดีๆ” คนๆนั้นมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มแสยะที่ดูมุ่งร้าย
เจี่ยงเสี่ยวเล่อแค่นยิ้มเย็น “กล้ามาอาละวาดในถิ่นฉันหรอ ฉันว่านายชักจะกวนบาทาแล้วนะ!”
ชายหนุ่มคนนั้นยังมีสีหน้าเย็นยะเยือก ปรายตามองบอดี้การ์ดไม่กี่คนข้างหลังเจี่ยงเสี่ยวเล่อ จากนั้นก็เสตามองอย่างดูแคลน
เพียงแค่โบกมือเพียงนิด ก็มีคนกลุ่มเดินออกมาจากรถตู้ที่จอดอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว
จากนั้นคนเหล่านั้นก็เข้าล้อมบริเวณหน้าทางเข้าเอาไว้เป็นวงกว้าง
ใจของเป้ยฉ่ายเวยหนักอึ้งขึ้นมาอีกขั้น
ผู้ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ดูเอาเองเถอะเจี่ยงเสี่ยวเล่อ ว่าใครกันที่กวนบาทา?”
“เหอะ ก็แค่ฝูงตั๊กแตนกระโดดขึ้นพื้นโต๊ะยังไม่ได้ก็ยังจะกล้าเรียกออกมาขู่อีกเนอะ งั้นวันนี้ฉันจะให้นายได้เห็นละกันว่าของจริงมันเป็นยังไง” เจี่ยงเสี่ยวเล่อหัวเราะเสียงดัง จากนั้นคนรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ไม่กี่คนก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว
ผู้ชายคนนั้นคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะใจกล้าขนาดนี้ ขนาดเขามีตัวประกันยังไม่วางมืออีก ช่างกล้าได้กล้าเสียจริงๆ
เขากัดฟัน ขยับมีดในมือให้เข้าใกล้อวี๋ซือซือขึ้นอีกสามเท่าอย่างป่าเถื่อน
เป้ยฉ่ายเวยเบิกตากว้างด้วยความตกใจกลัว
ทันใดนั้น ก็มีเสียง “ปัง” ดังขึ้นมาหนึ่งนัด เป็นเจี่ยงเสี่ยวเล่อที่ยิงลูกกระสุนฝังลงบริเวณข้อมือของชายหนุ่มคนนั้น
แกร็ง
มีดในมือของเขาร่วงลงสู่พื้น
เลือดสีแดงกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศ
“ซือซือ!”
เพราะในปากของอวี๋ซือซือมีผ้าอุดเอาไว้ จึงส่งเสียงอู้อี้ออกมา ทั้งหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
เป้ยฉ่ายเวยรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างร้อนรน จากนั้นก็โอบซือซือเอาไว้ พยายามประคองเธอให้ออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
ผู้ชายคนที่โดนยิงข้อมือ เจ็บจนต้องกัดฟัน แต่ทว่าก็ยังถลึงตาโพลง มุ่งมั่นที่จะเอาตัวเป้ยฉ่ายเวยไปให้ได้ แต่ไม่พ้นเจียงเสี่ยวเล่อเตะซัดเข้าให้จนหงายหลัง
ในระหว่างที่เหตุการณ์เริ่มชุลมุน
เป้ยฉ่ายเวยก็ใช้โอกาสนี้ช่วยอวี๋ซือซือแก้มัด
ทันทีที่เธอช่วยดึงผ้าที่อุดปากอวี๋ซือซือออกให้ อวี๋ซือซือก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา “เวยเวย...ฮือๆ....”
“ชู่ เอาล่ะๆ ไม่เป็นอะไรแล้วนะ อย่าร้องๆ ฮึบ!” เป้ยฉ่ายเวยกอดปลอบอวี๋ซือซือ ในใจรู้ดีว่าเธอกลัวคงมากแค่ไหน
ก็เหมือนเธอครั้งก่อน
อวี๋ซือซือไม่คาดคิดเลยว่าแค่จะไปกินข้าวเที่ยง แต่กลับถูกจับปิดปากลากขึ้นรถ จากนั้นก็ถูกมัดไขว้หลังแล้วถูกคนพวกนั้นนำมาโยนเอาไว้หน้าคฤหาสน์เพื่อที่จะขู่เป้ยฉ่ายเวย
ฝีมือของเจี่ยงเสี่ยวเล่อก็ดีพอใช้ได้ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้รับความไว้วางใจจากฉูเจ๋อหยางหรอก
แม้ว่าคนของเขาจะไม่เยอะ แต่ไม่นานก็สามารถล้มคนของฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งหมด
เจี่ยงเสี่ยวเล่อผ่อนลมหายใจออกมา
เจี่ยงเสี่ยวเล่อวิงเวียนศีรษะ ลงจากรถมาได้เพราะได้เฉียวเจิ้นหลีช่วยประคอง
เมื่อสายตาเผลอไปสบกับดวงตาของฉูเจ๋อหยางที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก็สั่นเทิ้มขึ้นมาทันที
“อา...อาเจ๋อ....” เจี่ยงเสี่ยวเล่อมีสีหน้ารู้สึกผิด
นิ้วมือของฉูเจ๋อหยางสั่นไหวเบาๆ แต่ทว่าแววตากลับเรียบนิ่งราวกับไม่มีความผิดปกติใดๆ จากนั้นก็ถามขึ้นด้วยเสียงหนักๆ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“พี่สะใภ้....เป้ยฉ่ายเวย....เป้ยฉ่ายเวยถูกจับตัวไป” เจี่ยงเสี่ยวเล่อแทบจะร้องไห้ออกมา
ฉูเจ๋อหยางไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แม้แต่อาการอะไรก็ไม่มีให้เห็น แต่ร่างกายกลับแผ่ไอเย็นๆออกมาในชั่ววินาที จนทำให้บรรยากาศดูหนาวเหน็บเหมือนเดินอยู่บนพื้นน้ำแข็งจนต้องกัดฟันกรักๆ
ถังฉีตงจับแขนของเขาเอาไว้ “น่าจะเป็นเหมือนที่เราเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้ หนานฉิงกับเป้ยฉ่ายเวยน่าจะถูกคนเดียวกันจับตัวไป ในเมื่ออาลี่ไม่ใช่คนของหนานเทียนหยาง งั้นก็มีแค่ความเป็นไปได้เดียวแล้วล่ะ พวกเธอคงเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่เสิ่นลั่งเก็บเอาไว้ป้องกันตัว และเพื่อเอาตัวรอด เสิ่นลั่งคงไม่ทำอะไรไพ่ใบสุดท้ายอย่างพวกเธอหรอก นายวางใจเถอะ”
เจี่ยงเสี่ยวเล่อจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าหาเรื่องซวยให้ตัวเองในเวลานี้ จึงทำได้แค่ส่งสายตาถามเฉียวเจิ้นหลี
เฉียวเจิ้นหลีส่ายหน้า ยื่นมือออกไปโอบไหล่ของเขาเอาไว้ แล้วค่อยๆลูบปลอบ
ผ่านไปนานพอสมควร ฉูเจ๋อหยางถึงได้เอ่ยพูดขึ้นว่า “กลับกัน!”
ด้วยเหตุนี้ รถจึงมุ่งไปยังคฤหาสน์อีกครั้งตามแผนเดิมที่วางเอาไว้
แต่ในเวลานี้อารมณ์กลับต่างไปจากเมื่อครู่
ฉูเจ๋อหยางเอนกายไปข้างหลังแล้วเงยหน้าหลับตาเพื่อทำสมาธิ ทั้งหน้าปกคลุมไปด้วยไอเย็นๆ คนที่เหลือต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่กล้าส่งเสียงใดๆออกมา เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนเขา
ถังฉีตงพูดถูก ถ้าคนที่จับสองคนนั้นไปเป็นคนของเสิ่นลั่ง คงไม่ทำอะไรสองคนนั้นแน่ๆ ที่รู้ตอนนี้ก็มีแค่นี้ ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นจริงหรือไม่ก็อีกเรื่อง
ตอนที่ถังฉีตงพูดให้ฉูเจ๋อหยางใจเย็นก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง แต่เมื่อมาถึงคฤหาสน์แล้วเห็นสภาพน่าเวทนาของอวี๋ซือซือ ก็อยากจะวกกลับไปที่ตระกูลเสิ่นเพื่อฉีกเสิ่นลั่งเป็นชิ้นๆมันซะตอนนี้
แต่สุดท้าย ก็ถูกฉูเจ๋อหยางห้ามเอาไว้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...