บทที่ 503 การเตรียมการของคุณท่าน
ฉูเจ๋อหยางยิ้มเยาะเย้ย: “ฉูเจ๋อหมิง เรื่องของอาเหยี่ยนอย่าบอกว่านายไม่รู้? หรือว่านายคิดว่าฉันเหมือนเขา มองคนรักของตัวเองร่างกายนองเลือดแล้วจากโลกนี้ไปเหรอ?”
ฉูเจ๋อหมิงรู้สึกหวาดกลัว และส่ายหน้าสุดแรง: “ไม่ใช่ พี่ใหญ่ เรื่องนั้นคุณปู่ไม่ได้ตั้งใจ เขาก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณปู่ได้วางแนวทางของคุณเป้ยไว้แล้ว”
“วางแนวทาง? น่าขัน!” ฉูเจ๋อหยางหัวเราะเบาๆ
เมื่อฉูเจ๋อหมิงเห็นอย่างนี้ ทำได้เพียงถอนหายใจ และพูดไป: “คุณท่านพาลูกสาวของเพื่อนร่วมงานมา เดิมอยากใช้โอกาสในวันนี้ เพื่อประกาศในภายหลังว่างานเลี้ยงวันนี้คืองานหมั้นของพี่และคุณคนนั้น แล้วก็จะให้รางวัลคุณเป้ย และให้เธอเซ็นสัญญาเพื่อตัดขาดความสัมพันธ์กับรุ่ยรุ่ย เพียงแต่ไม่คิดว่า...”
ฉูเจ๋อหยางหรี่สายตา: “ฉูเจ๋อหมิง อย่าเป็นกระบอกเสียงให้เขาอีกเลย ฉันไม่อยากให้ถึงวันที่ฉันเป็นศัตรูกับทุกคนในครอบครัว!”
ฉูเจ๋อหมิงตกใจกลัว
เป้ยฉายเวยกลายเป็นคนสำคัญในใจของเขาแล้วเหรอ?
ฉูเจ๋อหยางเดินจากไปด้วยความโกรธ ฉูเจ๋อหมิงลังเลเพียงครู่ แล้วไปรายงานสถานการณ์ให้คุณท่าน
ขณะนี้ เป้ยฉายเวยได้รับสายจากมือถือ
เสียงของคนในสายไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันลืม
“เสิ่นสั่ง!” เธอจับมือถือแน่น ตื่นเต้นเล็กน้อย
เธอรู้ดีว่าตอนนี้เสิ่นลั่งเป็นอาชญากรตัวยง
และยังเป็นคนที่ฉูเจ๋อหยางใช้เวลาและพลังงานนานมากแต่ก็หาไม่เจอ
เป้ยฉายเวยกัดริมฝีปาก: “นาย...นายมีธุระอะไร?”
“ไม่มีธุระอะไร มีเรื่องน่าสนใจอยากจะบอก ไม่รู้ว่าคุณเป้ยสนใจอยากจะรู้ไหม” ตอนนั้น น้ำเสียงของเสิ่นลั่งพูดอย่างสบายๆ
เป้ยฉายเวยหรี่ดวงตา พูดด้วยน้ำเสียงลงต่ำ: “ไม่รู้ว่าคุณเสิ่นต้องการพูดอะไร?”
“ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด ตอนนี้เธอน่าจะอยู่ในงานเลี้ยงที่สำคัญ? ไม่รู้ว่าได้เจอคนคุ้นเคยของเธอรึเปล่า เพื่อนสนิทล่ะ?” เสิ่นลั่งทำทีพูดแล้วก็ไม่พูด
เป้ยฉายเวยใจเต้นแรงขึ้นมาทันที
นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา!
หนานฉิง!
หลังจากเสียงของเสิ่นลั่งหายไป ก็ไม่มีเสียงจากเธอเช่นกัน
เดิมทีเธอยังรู้สึกว่าเพราะถูกฉูเจ๋อหยางซ่อนไว้อย่างดี แต่เวลานี้ฉูเจ๋อหยางไม่ได้ไปสำนักงาน อยู่ข้างเธอตลอด
ก็เป็นแบบนี้ ถึงได้ทำให้เธอรู้สึกว่าบางทีฉูเจ๋อหยางอาจมีความปรารถนาที่อยากจะแต่งงานกับเธออย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากได้พูดคุยในครั้งนั้น ฉูเจ๋อหยางก็ได้รับประกันแล้ว ว่าจะทำให้เธอมั่นใจในการแต่งงานและจะซื่อสัตย์ต่อเธอ
ถ้าหากไม่ใช่ประโยคนี้ เธอก็จะไม่มอบความไว้ใจให้ และก็ไม่ยอมรับเรื่องของการแต่งงาน
ท้ายที่สุด แม้ว่าฉูเจ๋อหยางจะทำอะไรได้ไม่ค่อยดี แต่การหลอกลวงคนนั้นไม่ได้มากนัก
ดูเหมือนตอนนี้...
เธอเชื่อใจมากเกินไปเหรอ?
หรือว่าหนานฉิงถูกเขานำตัวมาที่เมืองจิงแต่แรกแล้ว?
เป้ยฉายเวยในใจรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยากถูกใครบางคนหลอกเพราะคำพูดเพียงสองคำในเวลานี้
สูดหายใจเข้าลึกๆ: “ขอบคุณคุณเสิ่นที่บอกเรื่องนี้กับฉัน ตอนนี้ฉันยังมีธุระ ไว้มีเวลาค่อยคุยกับคุณเสิ่นอีกครั้ง”
เสิ่นลั่งแสดงท่าทีขี้เล่น: “ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เชื่อคำพูดของฉัน”
เป้ยฉายเวยกัดริมฝีปากของเธออย่างเงียบๆ แน่นอนว่าเธอไม่เต็มใจที่จะเป็นคนที่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของเหนือใต้ออกตกได้โดยคำพูดของคนอื่นเพียงไม่กี่คำ
“อาเจ๋อ รอก่อน!” หนานฉิงไม่คิดว่าที่เธอต้องลงทุนแต่งตัวแบบนี้ แต่เขาไม่แม้แต่จะมอง
เธอไม่ง่ายกว่าที่จะเบียดเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ได้ จะยอมแพ้ไม่ได้
โดยเฉพาะยังมีแผนอื่นๆ
ฉูเจ๋อหยางขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
ได้หยุดมองไปยังหนานฉิง: “ยังมีธุระอีกไหม?”
หนานฉิงกัดริมฝีปาก ดวงตานั้นคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางเหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา หากผู้ชายธรรมดาทั่วไปมาเจอเข้า กลัวว่าจะเดินจากไปไม่ได้
“อาเจ๋อ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” เธอกระซิบ พร้อมกับเดินไปข้างหน้าไปสองก้าว และคว้าข้อมือของเขาไว้
ไว้คุณหนูที่เคยอยู่ค้ำฟ้าตอนนี้ต้องลดตัวลงมาช่างน่าสงสาร
ดวงตาของฉูเจ๋อหยางสั่นไหว แต่ก็รีบสะบัดออก: “มีธุระอะไร?”
ดูเหมือนว่าหนานฉิงจะเจ็บปวดกับการเคลื่อนไหวแบบนี้ของเขา ก้มหน้าลง น้ำเสียงสะอื้น: “ตั้งแต่หลังจากคุณพ่อของฉันเกิดอุบัติเหตุ คนส่งถ่านท่ามกลางหิมะนั้นน้อย คนที่ตกลงจากหินนั้นมีมาก ฉันและคุณแม่ไม่ง่ายเลยที่จะมีสถานที่มั่นคงในเมืองจิง แต่ก็ยังมีคนเข้ามาหาเรื่อง สาดสีกรีดบานหน้าต่างยังถือว่าเบา ตำรวจก็ทำลวกๆทุกครั้ง อาเจ๋อ ตอนนี้ฉันก็แค่อยากใช้ชีวิตให้ดีเท่านั้นเอง”
สายตาของฉูเจ๋อหยางมองอย่างเสียดสี: “คุณลุงคนนั้นของเธอเรื่องเล็กแบบนี้ยัช่วยเธอไม่ได้? หนานฉิง ฉันยังคิดว่าเธอเปลี่ยนไปแล้ว ไม่คิดว่าความสามารถในการโกหกก็ยังด้อย”
พูดแล้ว ก็กำลังเดินจากไป
หนานฉิงรีบก้าวไปข้างหน้าคว้าเอวของเขาไว้ ร้องไห้แล้วพูด: “อาเจ๋อ มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้หลอกคุณ ฉันไม่ได้หลอกคุณจริงๆ ฉันไม่สนิทกับเขา คุณน้าก็ไม่ได้ชอบฉัน ฉันก็ไม่ควรรบกวนแต่พวกเขา ดังนั้นฉันทำได้เพียง...”
“ขอโทษ ฉันก็ไม่สนิทกับเธอ เธอก็ไม่ควรมารบกวนฉัน” ฉูเจ๋อหยางอดทนที่จะโยนเธอออกไป เลยดันออกไป
สีหน้าของหนานฉิงโศกเศร้า กอดเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย: “อาเจ๋อ หรือแม้แต่ความเป็นเพื่อนก็ไม่นับแล้วเหรอ? แม้คุณจะใช้ฉันเป็นเครื่องมือมานาน ฉันก็ไม่เคยตำหนิคุณไม่ใช่เหรอ?”
ฉูเจ๋อหยางร่างกายนิ่ง
เป้ยฉายเวยเงียบ เธอไม่ได้สงสัยฉูเจ๋อหยางจริงๆ เพียงแค่อยากมาชมวิวเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...