หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 52

ตอนที่ 52 ขอแต่งงาน

ในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟสวยๆ เมืองจิ่นอันที่หรูหราเปลี่ยนไปอีกด้าน

เป้ยฉ่ายเวยใส่ชุดธรรมดาแล้วตามหลี่จื่อเชียนจนถึงหน้าตึกใหญ่ เธอมีความรู้สึกอย่างแรงที่อยากจะหันหลังหนีไป

นอกจากตี้หาว ร้านอาหารโรงแรมที่แพงที่สุดในเมืองจิ่นอัน - ไหเฉียนวาน

แค่อาหารเรียกน้ำย่อยก็เปิดราคาอยู่ที่ศูนย์สี่หลัก อาหารหนึ่งมื้อก็เท่ากับเงินเดือนหนึ่งปีของเธอ โอ้ไม่ น่าจะเป็นเงินเดือนสามปีเลย

อย่าถามเธอว่าทำไมถึงรู้ราคาอาหารในนี้แพง แค่ในเวลาทำงาน เธอเผลอได้ยินเหล่าพนักงานที่อิจฉาพูดคุยกัน ทำให้คนอย่างเธอที่อับจนไม่กล้าที่จะคิด

เพราะว่าเธอไม่กล้าที่จะคิด ทำไมผักแค่นี้มันถึงแพงขนาดนี้

“จื่อเชียน ฉันว่าเราเปลี่ยนที่กันมั้ย” เธอแบกรับราคานี้ไม่ไหว และอีกอย่างเธอก็เพิ่งรู้ ว่าทำไมจื่อเชียนถึงใส่สูททางการแบบนี้

หลี่จื่อเชียนเห็นสีหน้าที่น่ารักของเป้ยฉ่ายเวย กลั้นหัวเราะไม่อยู่ “เวยเวย ฉันจองที่ไว้แล้ว ไม่เป็นไรฉันรู้จักเจ้าของร้าน ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงฉัน”

เป้ยฉ่ายเวยก้มหน้ามองดูเสื้อแขนสั่นและกางเกงธรรมที่ตัวเองใส่ไว้ แล้วปฏิเสธไป “จื่อเชียน เราเปลี่ยนร้านเถอะ ฉันใส่แบบนี้เข้าไปเขาจะไล่เอา”

ที่หรูหราแบบนี้ ปกติแล้วเขาไม่ให้ “คนแต่งตัวที่ไม่เหมาะสม”อย่างฉันเข้าไป

หลี่จื่อเชียนจับมือเธอที่เล็กอย่างอ่อนโยน แล้วเดินเข้าไป “ไม่เป็นไร วันนี้มีแค่เราสองคน”

ใช่แล้วๆ ถ้าในร้านอาหารมีแค่เขาสองคน ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่ว่า ประเด็นไม่ใช่ตรงนี้ มีแค่สองคน มันก็แสดงว่าจองห้อง?!

ความคิดของเป้ยฉ่ายเวยแตกต่างจากคนอื่น แถมไม่ได้สังเกตถึงประเด็นอะไรเลย “จื่อเชียน ตอนนี้ยังสามารถยกเลิกได้มั้ย จองสถานที่แพงเกินไป เราฉลองที่ได้ออกจากโรงบาล”

ไม่ใช่ฉลองเจ้ง แม้ว่าจื่อเชียนเป็นคนจ่ายเงิน แต่เธอก็ใจไม่นิ่งอยู่ดี

หลี่จื่อเชียนยักคิ้วแล้วถาม “วางใจแค่ข้าวมื้อเดียว ผมมีปัญญาจ่ายอยู่ หรือว่าเวยเวยไม่เชื่อในความสามารถหาเงินของผม”

“ไม่ใช่แน่นอน ฉันแค่รู้สึก......”ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ทำสะเหมือนอะไรก็ไม่รู้

“ร้านอาหารผมจองแล้ว จะยกเลิกเป็นไปไม่ได้ เธอจะให้ฉันเสียเงินตลอด แล้วยังเสียดายกับข้าวอีกคงไม่ดีมั้ง ไปเถอะ “หลี่จื่อเชียนแกล้งทำเหมือนน่าสงสารแล้วพูด

ครั้งแรกที่เป้ยฉ่ายเวยสังเกตได้ ผู้ชายที่อ่อนโยนเวลาอ้อนขึ้นมาก็รับไม่ไหว อีกอย่างจื่อเชียนก็บอกแล้วว่าเสียเงินแล้ว ยกเลิกไม่ได้ ถ้าไม่ไป ก็คงจะผิดไปอีก

ฉะนั้นสุดท้ายแล้วเป้ยฉ่ายเวยก็ถูกหลี่จื่อเชียนพูดสำเร็จ

ไฉเฉียนวานแพงใช่ว่าจะไม่ถูก แถมอยู่กลางเมือง เป็นตึกการสร้างที่ดียอดเยี่ยม ทุกรอบมุมเป็นกระจกใส ทำให้มองแล้วกว้าง บรรยากาศสวยงามทั้งหมดของเมืองจิ่นอันอยู่ในตาหมด

ในห้องอาหารที่เงียบ แสงไฟสวยงาม โต๊ะที่ติดหน้าต่างมีเทียนจุดไว้ พร้อมทั้งกุหลาบ ไวน์แดง

และยังมีพนักงานยืนอยู่ข้างๆ ช่วยจัดวางอาหาร

เป้ยฉ่ายเวยยืนขึ้นเพิ่งรู้สึกตัว เธอออกมาจากโรงบาลสมองก็ขึ้นสนิมด้วยเลย กำลังของจื่อเชียนไม่ง่ายขนาดนี้แน่นอน มันเหมือน เหมือนขอแต่งงานนิดๆ!!

เธอตกใจการสมมุติในสมองตัวเธอเอง ไม่จริง ไม่น่าจะใช่

“คุณผู้ชายคุณผู้หญิง อาหารของพวกคุณครบแล้ว” พอพนักงานพูดจบก็จากไป เหลือความเงียบสงบเก็บไว้ให้เขาสองคน

หลี่จื่อเชียนเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยไม่จับตะเกียบสักที เลยถามอย่างเป็นห่วงว่า “เวยเวย ทำไมไม่กิน หรือว่าไม่ชอบอาหารเหล่านี้”

“ไม่ ไม่ใช่นา แค่ว่าอาหารเหล่าแค่ดูก็สวยมาก ฉันไม่กล้ากินเสียดาย” เป้ยฉ่ายเวยตอบ หากว่าเป็นปกติที่กินข้าวแล้วล่ะก็ เธอคงจะมีอารมณ์กินเพราะยากที่เห็นอาหารสวยงาม

ตอนนี้แค่ในใจเธอคิดว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เธอก็ไม่สามารถจะมีความสุขอะไรได้เลย

หลี่จื่อเชียนหยุดสักแปปแล้วพูด “เวยเวย ฉันทำเธอตกใจใช่มั้ย”

เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัวอย่างแรงสองครั้ง แล้วก็พยักหน้าต่อ “ไม่ใช่หนิ เรารีบกินกันเถอะ เหมือนท้องฟ้ากำลังจะฝนตก”

หลี่จื่อเชียนมองดูดาวที่แปร่งประกายอยู่บนท้องฟ้า แล้วมองมาอีกที่เป้ยฉ่ายเวยที่เหมือนจะรู้สึกว่ารีบร้อน หรือว่าเวยเวยจะรู้แผนการของเขา?

รับรู้สายตาที่ลับๆล่อๆจองหลี่จื่อเชียนแล้ว เป้ยฉ่ายเวยรีบจับซ่อมขึ้นมากินอาหาร เหมือนคนหิวมากๆ ทุกคนกินข้าวก่อน อย่าคุยตอนกินข้าว

“กินช้าๆ ไม่ต้องรีบ ต่อให้ฝนตก ฉันก็จะส่งเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอน” อีกอย่างเขาเองก็ตรวจดูสภาพอากาศแล้วสามวันที่จะถึงนี้ไม่มีฝน

“อืมๆ จื่อเชียน นายก็กินเร็วๆ กับข้าวนี้รสชาติดีมาก” เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าตัวเองจะกินไม่ลง อะไรคิ้วกลืน กินไปไม่ได้รสชา นั้นมันไม่อยู่จริง

เชฟในไหเฉียนวานเป็นถึงเชฟมิสลินสามดาวทั้งนั้นแถมวัสดุก็ยอดเยี่ยม ราคาสูง รสชาติดีแน่นอน

หลี่จื่อเชียนเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยเหมือนจะหิว คำพูดที่มาถึงปากก็กลืนลงไป ช่างเถอะ ไม่รีบร้อน รอให้เธอกินเสร็จค่อยพูดก็ดี

เป้ยฉ่ายเวยแอบแฮปปี้อยู่คนเดียว ยังดีที่ด่านนี้เธอผ่านไปได้อย่างมั่ว เดียวรอกินข้าวเสร็จ เธอก็อ้างว่าเจ็บขา

หลังจากนั้นก็จะสามารถลบล้างความอึดอัดครั้งนี้ได้ หาเวลาแล้วคุยให้ชัดเจน เป้ยฉ่ายเวยคิดทุกอย่างไว้อย่างเพอร์เฟค

แต่เธอลืมว่าหลี่จื่อเชียนมีการเตรียมพร้อมมา

ผู้ชายที่ใส่เสื้อสเปนไว้เดินมา ตรงคองัดไวโอลินไว้ เล่นไปพร้อมกับค่อยๆเดินมา

ทันใดนั้นเป้ยฉ่ายเวยรู้สึกหัวใหญ่เท่าวัว

ณ ตอนนี้หลี่จื่อเชียนก็ลุกออกจากเก้าอี้ เดินมาตรงหน้าเป้ยฉ่ายเวย เอากล่องเล็กๆที่สวยงามออกจากกระเป๋ากางเกงเขา แล้วคุกเข่าลง

พูดกับเธออย่างจริงจังและยิ่งใหญ่ว่า “เวยเวย แต่งงานกับผมนะ”

ขอแต่งงานจริงๆด้วย! เป้ยฉ่ายเวยมีความรู้สึกอยากกระโดดออกจากหน้าต่าง แน่นอนถ้ากระโดดออกจากชั้นหกสิบหกแล้วไม่ตาย เธอก็จะลอง

“จื่อเชียน นี่นายทำอะไร ลุกขึ้นเร็วๆ มีเรื่องอะไรเรากลับไปคุยด้วยกัน?” เป้ยฉ่ายเวยติดอ่างขึ้นมา

เวยเวยฉันรู้ว่าระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันสั่น แต่ว่าฉันชอบเธอตั้งแต่เรียนมหาลัยแล้ว” สีหน้าที่จริงจังจ้องหลี่จื่อเชียนไม่เปลี่ยนแปลง พูดต่อ “ฉันรู้มันเร็วเกิน แต่ฉันคิดไตร่ตรองดีแล้ว”

“ฉันหวังว่าตลอดชีวิตนี่ฉันจะสามารถปกป้องเธอไม่ให้ถูกทำร้าย ฉันอยากเป็นที่พักพิงให้เธอ และหวังว่าฉันจะมีโอกาสที่จะสามารถเป็นที่ทุกอย่างให้กลับเธอ”

“เวยเวย ผมรักคุณ ผมหวังว่าคุณจะรับตกลงแต่งงานกับผม”

หลี่จื่อเชียนสารภาพตั้งใจอย่างนี้ ใช่ว่าเป้ยฉ่ายเวยจะไม่ซาบซึ้ง แต่เธอแค่รู้สึกเพียงซาบซึ้ง เธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้ และยิ่งไม่สามารถโกหกจื่อเชียนได้

ที่จริงแล้วเธอไม่สามารถที่จะลบลืมฉูเจ๋อหยางได้

แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะปฏิเสธจื่อเชียนยังไงให้ไม่โดนทำร้าย

ในขนาดที่เป้ยฉ่ายเวยกำลังเกาหลังหูอยู่ ก็ได้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ช่วยเธอไว้

เป้ยฉ่ายเวยไม่เคยรู้สึกว่าเสียงกลิ่งมือถือน่าฟังขนาดนี้มาก่อน เธอพูดอย่างรู้สึกผิด “จื่อเชียน ต้องขอโทษด้วย ฉันมีธุระที่สำคัญมากต้องไปจัดการ พรุ่งนี้ฉันค่อยโทรหานายนะ”

พูดเสร็จ เป้ยฉ่ายเวยก็เหมือนอย่างกับลมเปลี่ยวหายไป ถ้าหมอเห็นหมอก็คงไม่เชื่อว่านั้นคือผู้ป่วยอาการหนักเมื่อไม่นาน แต่ตอนนี้กลับวิ่งเร็วมากจนหายตัวไปเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว