บทที่97 คดีพลิก
เหมือนเธอจะมองทะลุสิ่งที่หนานฉิงคิด ซือซืองอปากและพูดขึ้นอีกประโยคว่า “ถ้าไม่เชื่อก็ลองกลับไปถามดู”
ฝูงชนร้องออกมา ที่แท้คดีพลิก
ตอนแรกคิดว่าผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บนั้นคือมือที่สาม ที่ไหนได้พ่อแม่ของผู้หญิงคนที่ลงมือกลับเป็นคนบีบบังคับผู้ชายคนนั้น และตอนนั้นพวกเขาก็ได้เลิกกันไปแล้ว
ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เจ็บตัวฟรีน่ะสิ
ฝูงชนเริ่มฮือฮาขึ้นอีกครั้ง “จริงๆเลยนะ ถ้าไม่ดูให้ถึงที่สุดก็ไม่รู้เลยนะว่าความจริงมันคืออะไร”
“ถ้าเป็นฉันนะ คงอดด่าไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ผู้หญิงคนนั้นโง่จริงๆ ยอมให้คนตบตีเอาฟรีๆ”
“พวกเธอดูไม่ออกหรือยังไง ผู้หญิงคนที่ลงมือคนนั้นทำกันโดยไม่เห็นถึงความเป็นเพื่อนเลยสักนิด ฉันว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องแย่งแฟนธรรมดาแน่ๆ อาจจะเพราะอาฆาตแค้นหรือว่าอิจฉา ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ล่ะ”
“เฮ้เฮ้ พวกเธอพูดพล่ามอะไร เป็นผู้หญิงคนนั้นกันหรือยังไง”
หนานฉิงไม่รู้เพราะโดนว่าเลยอารมณ์ไม่ปกติหรือเพราะว่าไม่เชื่อคำพูดของซือซือกันแน่ เธอหันหลังกลับออกไปจากฝูงชน และเดินจากไปอย่างงุ่นง่าน
หล่อนจะต้องกลับไปถามให้ชัดเจนอย่างแน่นอน ถ้าหาเรื่องเหล่านี้ไม่เป็นความจริง หล่อนจะต้องกลับไปเอาคืนกับซือซือเป็นสองเท่า
“พวกเขาวงแตกกันแล้ว ไปกันเถอะ”
ตอนที่หนานฉิงจากไป หลิวเหม่ยฉีก็แอบเดินหนีไปด้วยเช่นกัน
ฝูงชนค่อยๆแยกย้ายกันไป เหลือแค่ซือซือที่คอยพยุงร่างอันบอบช้ำของเป้ยฉ่ายเวยเอาไว้
“ฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลก่อน” เมื่อครู่ซือซือมัวแต่โมโหจึงไม่ได้มีเวลาสังเกตอาการบาดเจ็บของเป้ยฉ่ายเวย ยิ่งผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงไปหมดยิ่งมองเห็นไม่ชัดเท่าใด
เมื่อเธอก้มศีรษะลงดูถึงได้เห็นใบหน้าของหล่อนบวมแดงไปหมด และยังมีรอยขีดข่วนที่คอ เธอตกตะลึงอีกครั้ง “แม่ง นังสารเลวนั่นเล่นหนักมาก ไปฆ่าแม่งให้ตายเลยดีกว่า”
เป้ยฉ่ายเวยพูดเบาๆ “ซือซือ ฉันอยากกลับบ้าน”
เธอเหนื่อยมาก ไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจ ถึงขีดจำกัดแล้ว
“ไม่ได้ เธอเป็นอย่างนี้จะกลับไปได้อย่างไร ไปให้ที่โรงพยาบาลดูก่อนค่อยกลับ” ซือซือไม่ยอม เวยเวยได้แต่กลืนลมหายใจเข้าไป ถ้าหล่อนเป็นอะไรล่ะก็ คอยดูแล้วกัน เธอจะต้องไปเอาเรื่องกับตระกูลหนาน
แน่นอนว่าตัวร้ายคือไอ้บ้าฉูเจ๋อหยางนั่น เขาได้เจอเป็นคนแรกแน่
“ฉันไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บทางผิวหนังเท่านั้นพักผ่อนสองสามวันก็หาย ซือซือรบกวนพรุ่งนี้ช่วยลาพักร้อนให้ฉันหน่อย” ใบหน้าเธอบวมขนาดนี้จะพักแค่สองสามวันได้อย่างไร
“เธอโง่รึเปล่าเวลานี้ยังจะคิดถึงแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้าหากว่าตอนนี้เธอไม่ได้เจ็บอยู่ล่ะก็ ฉันนี่แหละจะจัดการเธอเอง”
ขณะที่ซือซือพยุงเป้ยฉ่ายเวยอย่างระมัดระวัง พลางเธอก็โมโหไปด้วย “บอกเธอกี่รอบแล้วว่าเธอไม่ได้ติดหนี้อะไรผู้หญิงคนนั้น ทำไปไปยอมโดนเขาซ้อมเอาแบบนี้”
“ไม่เป็นไรน่าซือซือ ถือเสียว่าฉันใช้ให้เขาแล้วกัน” เป้ยฉ่ายเวยพูดอย่างจริงใจ แต่ว่าคำพูดนั้นก็ต้องสะดุดที่มุมปากเพราะความเจ็บปวด
“ดูสิ อย่ามาทำตัวเป็นนางเอกหน่อยเลย” ทำไมถึงเป็นคนมีทิฐิขนาดนี้ ยึดมั่นกับความคิดของตัวเอง คนอื่นพูดอย่างไรก็ฟังไม่เข้าหู
ซือซือรู้สึกว่าหนานฉิงสุนัขตัวเมียสารเลวตัวนั้นทำให้เธอโมโหมาก ที่ต้องอดกลั้นเพื่อเวยเวยยิ่งทำให้เธอยิ่งโมโหแทบบ้า
“ซือซือ อย่าลืมลาให้ฉัน…” เป้ยฉ่ายเวยไม่ลืมที่จะเตือนเธอ
“รู้แล้วรู้แล้ว” ซือซือเริ่มกระวนกระวายใจ ถ้าไม่ได้ผู้ช่วยตัวน้อยนี้แล้วจะทำอย่างไร
เป้ยฉ่ายเวยได้แต่ยิ้มแล้วยิ้มอีกไม่ได้พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...