ย่างเข้ายามสนธยา แสงอาทิตย์อัสดงส่องข้ามกำแพงวังหลวง
ราชินีแม่มดนั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างสง่างาม สายตาจับจ้องไปยังตำหนักกลาง
โดยรอบเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม แต่นางกลับไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง สาวกหญิงชายรีบร้อนหอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระผ่านหน้านางไป แต่นางก็คล้ายกับมองไม่เห็น
นางสวมอาภรณ์ที่หรูหราที่สุด ผ้าไหมสีดำแกมสีทอง แขนเสื้อกว้าง ชายกระโปรงระกับพื้น ประทินโฉมอย่างละเมียดละไม นางสวมมงกุฎหงส์ทอง ดูราวกับเป็นราชินีของเหล่าปีศาจแห่งอันธการ
ทันใดนั้นเอง หลีชั่วก็เข้ามาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย นางรีบร้อนจนไม่ทันได้ระวังขณะก้าวข้ามธรณีประตู จึงสะดุดและล้มลง น้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บปวด
แต่หลีชั่วกลับมิได้ใส่ใจความเจ็บปวดที่หัวเข่าและฝ่ามือ นางรีบคลานเข้าไปเบื้องหน้าราชินีแม่มด แล้วพูดด้วยความร้อนรนว่า “ราชินีแม่มดเพคะ! แย่แล้วเพคะ! ผู้อาวุโสสามนำคนก่อกบฏ! ตอนนี้สภาอาวุโสถูกเขาควบคุมแล้ว! วังหลวงไม่ปลอดภัยแล้ว! ท่าน…ท่านรีบหนีเถอะเพคะ!”
ราชินีแม่มดไม่ตอบ ดวงตามิได้มองหลีชั่วเสียด้วยซ้ำไป นางยังคงจับจ้องไปเบื้องหน้า
“ราชินีแม่มดเพคะ!” หลีชั่วเร่งเร้า “องครักษ์ของวังหลวงหนีไปแล้ว! อีกไม่นานผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสองก็จะพาคนบุกเข้ามาที่นี่! หากท่านยังไม่ไป ก็จะไม่ทันการณ์แล้วนะเพคะ!”
“ข้าไม่ไป” ราชินีแม่มดพูดด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน “ข้าเป็นราชินีของที่นี่ จะให้ข้าไปได้อย่างไร?”
หลีชั่วจึงบอกว่า “ท่านเป็นราชินี แต่ท่านเป็นราชินีที่เคยจองจำราชาพ่อมดนะเจ้าคะ! ข้าได้ยินว่าราชาพ่อมดหายดีแล้ว ลูกชายของเขากลายเป็นราชาพ่อมดคนใหม่! หลัวช่าวิญญาณก็ถูกคนเผ่าศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นจัดการ! ราชินีแม่มดเพคะ! พวกเราไม่มีทางชนะหรอก!”
ถ้าหากหลัวช่าวิญญาณยังอยู่ ต่อให้ทุกคนจะลุกขึ้นก่อกบฏนางก็ไม่กลัว ทว่าในบัดนี้หลัวช่าวิญญาณไม่อยู่แล้ว ไม่มีสิ่งใดรับประกันชีวิตของพวกเขาได้
การตายของหลัวช่าวิญญาณนั้นเสียงดังกัมปนาทจนทุกคนรับรู้ได้ ไม่จำเป็นต้องรายงาน คนในวังหลวงล้วนรู้ว่ากลิ่นอายของมันหายไป ส่วนเรื่องที่โจวจิ่นกลายเป็นราชาพ่อมดคนใหม่ และราชาพ่อมดหายดีแล้วนั้น กลับเป็นผู้อาวุโสสามที่นำไปแจ้งแก่สภาอาวุโส
มิเช่นนั้นคนของผู้อาวุโสใหญ่ซึ่งคอยสนับสนุนราชินีแม่มดมีหรือจะกล้าตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับนาง?
เดิมที หากมีเพียงผู้อาวุโสสาม พวกเขาอาจเหมารวมเขาเข้ากับคนเผ่าปีศาจ กล่าวหาว่าเขาสมคบคิดกับสายลับจากเผ่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อล้มล้างอำนาจของราชินีแม่มด ทว่าบัดนี้ราชาพ่อมดหายดีแล้ว เมื่อได้ยินว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกับผู้อาวุโสสาม ครานี้ไม่ว่าอยากไรก็คงยัดเยียดความผิดให้ไม่ได้แล้ว
หลีชั่วพยายามหว่านล้อมอย่างสุดความสามารถ “ราชินีแม่มดเพคะ! บ่าวขอร้อง! หนีไปจากที่นี่ด้วยกัน
เถอะเพคะ! เรื่องอื่นค่อยวางแผนกันใหม่! แม้จะไร้ตำแหน่งราชินี! แต่อำนาจยังคงอยู่นะเพคะ! อำนาจของท่านไม่ได้หายไป! ท่านปล่อยไว้ก่อนเถิดเพคะ วันข้างหน้าท่านกลับมามีอำนาจ…”
“เยี่ยยางเล่า?” นางยังพูดไม่ทันจบ ราชินีแม่มดก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
หลีชั่วชะงักไป จากนั้นก็ตอบทันควันว่า “หงหลวนไปหาองค์ชายอยู่เพคะ นางจะพาองค์ชายหนีไป ท่านก็รีบไปเถอะเพคะ!”
“ปล่อยข้า! ข้าจะหาท่านแม่! ข้าจะหาท่านแม่!”
เยี่ยยางสะบัดแขนจากหงหลวน แล้ววิ่งเข้ามา!
“ท่านแม่!” เยี่ยยางพุ่งไปยังบัลลังก์ของราชินีแม่มด
ราชินีแม่มดมีสีหน้าประหลาดใจอยู่บ้าง นางกอดบุตรชายที่โผเข้ามาหา พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“ท่านแม่! พวกเขาจะให้ข้าหนีไปจากที่นี่! วังหลวงเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือขอรับ ทำไมข้าต้องหนีไปด้วย ข้าไม่ได้เป็น
องค์ชายของเผ่าพ่อมดหรอกหรือ? ท่านพ่อข้าเป็นราชาพ่อมด ท่านแม่ข้าเป็นราชินีแม่มด!”
ราชินีแม่มดลูบใบหน้าอ่อนเยาว์ของเขา แล้วพึมพำว่า “ถูกต้องแล้ว ท่านพ่อของเจ้าเป็นราชาพ่อมด แม่ของเจ้าเป็นราชินีแม่มด เจ้าไม่จำเป็นต้องหนี!”
“ราชินีแม่มดเพคะ!” หลีชั่วร้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]