ในเวลาเดียวกันนั้น หนิงอวิ้นหยูวก็จามออกมายกใหญ่
"แปลกจัง ทำไมวันนี้จามบ่อยอย่างนี้ มีใครบ่นคิดถึงข้าหรือเปล่า?"
นางถูจมูก นั่งลงตรงหน้ากระจก พินิจมองใบหน้าของตนเองอย่างละเอียด
รอยแผลเป็นที่อยู่กับเจ้าของร่างเดิมมามากกว่าสิบปี ในตอนนี้หายไปไม่มีเหลือ หลังจากนี้แค่ยาทาให้ตรงเวลา ระมัดระวังเรื่องอาหารการกินและพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้แผลเดิมก็จะไม่ฟื้นคืนกลับมาแล้ว
นางในยุคปัจจุบันมีหน้าตาธรรมดา ไม่ได้ดูดีเหมือนในตอนนี้แม้แต่ครึ่งเดียว
คิดไม่ถึงเลยว่าการทะลุมิติมาในครั้งนี้ จะเหมือนได้แปลงโฉมทั้งหน้า รูปลักษณ์หน้าตาดีขึ้นอย่างพุ่งพรวด หนิงอวิ้นหยูวรู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบมาก ถึงจะเป็นแค่ความฝันก็ยังเป็นฝันหวาน
ขณะที่นางกำลังยิ้มโง่ ๆ อยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีคนผลักประตูเข้ามาอย่างไร้มารยาท
ตามมาด้วย แม่นมหลิวที่เดินเข้ามาอย่างถือดี เมื่อเห็นหนิงอวิ้นหยูวก็ไม่คิดที่จะทำความเคารพ เอ่ยพูดอย่างเสียดสีว่า "ท่านอ๋องมีรับสั่งให้เจ้าไปรับใช้ดูแลแผลของฮูหยินมู่ รีบเก็บของแล้วตามข้ามา"
"ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? ข้าต่างหากที่เป็นนายหญิงของจวนแห่งนี้ จะให้ข้าไปรับใช้สนมเนี่ยนะ?" หนิงอวิ้นหยูวเริ่มสงสัยว่าหูตัวเองมีปัญหาเรื่องการได้ยินหรือเปล่า
แม่นมหลิวยิ้มออกมาอย่างดูแคลน "ที่นี่คือจวนจ้านอ๋อง คำพูดของท่านอ๋องยิ่งใหญ่ที่สุด คนในจวนไม่มีสิทธิ์สงสัย"
อีกความหมายก็คือ ไม่ว่าเรื่องอะไรหนิงอวิ้นหยูวก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเองทั้งนั้น
พูดตามตรง หนิงอวิ้นหยูวก็ไม่ต่างอะไรกับนกในกรงทองตัวหนึ่งของจ้วนจ้านอ๋องเท่านั้น หากซือจ้านเหยียนพอใจที่จะปล่อยนางโบยบินสู่ท้องฟ้า ก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไรอยู่ดี
แต่ซือจ้านเหยียนกลับเกลียดนาง จนแทบอยากเหยียบย่ำให้นางอับอายอยู่ใต้ฝ่าเท้า
ในฐานะที่เป็นคนยุคสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 22 หนิงอวิ้นหยูว จึงเคารพความเท่าเทียมของทุกคน นางรับไม่ได้ที่แม่นมหลิวมองนางราวกับไม่ใช่คน
นางตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ "ขนาดฟ้ายังมีวันล่มสลาย ต่อให้พวกเจ้ายึดถือคำพูดของเขาว่าศักดิ์สิทธิ์เพียงใด แต่ข้าไม่! เจ้ากลับไปบอกซือจ้านเหยียนเลยนะ ในจวนมีคนรับใช้เยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องเป็นข้า"
"เจ้าไปบอกท่านอ๋องเองดีกว่า" แม่นมหลิวมองมาที่นางด้วยสายตาแหลมคม
"เจ้ายังเอาคำพูดของท่านอ๋องมาบอกข้าได้เลย แต่ทีกับข้าเจ้ากลับไม่ยอมเอาไปบอกท่านอ๋องให้ หรือว่าเจ้าไม่เห็นหวางเฟยเช่นข้าอยู่ในสายตา? " ตอนที่หนิงอวิ้นหยูวพูดคำเหล่านี้ออกมา นางก็เผยแพร่กลิ่นอายดุดันชวนหวาดหวั่นออกมา
ชั่วขณะนั้นแม่นมหลิวก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดัน
นางฝืนพูดต่อ "หวางเฟยเช่นเจ้าก็คงใกล้ถึงจุดจบแล้วล่ะ วันนี้ท่านอ๋องพูดเองกับปาก ว่าในจวนจะมีแค่ฮูหยินมู่คนเดียว นางต่างหากคือนายหญิงที่แท้จริงของจวนแห่งนี้ ส่วนหวางเฟยเช่นเจ้าก็คงเป็นได้แค่ในนาม"
แม่นมหลิวจงรักภักดีต่อท่านอ๋อง คนที่ท่านอ๋องดูถูกเหยียดหยาม นางก็ต้องดูถูกเหยียดหยามด้วยตามประสาหมารับใช้ที่ชอบเลียแข้งเลียขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงอวิ้นหยูวก็กัดริมฝีปาก ความรู้สึกน้อยใจแปลกประหลาดพลันตีรวนอยู่ในใจ
ตอนนี้แม้แต่นายหญิงนมแก่ ๆ คนหนึ่งก็ยังเล่นหัวนางได้ ในภายภาคหน้าจวนแห่งนี้จะยังมีที่ให้นางยืนหรือไม่?
วันเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในจวนจ้านอ๋องยังอีกยาวไกล ต่อให้วันนี้นางไม่ไปเผชิญหน้า วันต่อ ๆ ไปเรื่องอะไรแบบนี้ก็คงมาหาเรื่องนางถึงที่อยู่ดี
การหลบหนีไม่สามารถแก้ปัญหาได้.....
ดังนั้นหนิงอวิ้นหยูวจึงลุกขึ้นยืนอย่างเงียบ ๆ
เมื่อแม่นมหลิวเห็นท่าทางกล้ำกลืนของนาง พลันรู้สึกลำพองใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงยอดดวงใจของท่านอ๋องเจ้าเล่ห์
ไมม่อัพเดทตอนเพิ่มแล้วเหรอค่ะ 🥺🥺...