ตอนที่144 เธอกำลังทำอะไร
เดิมทีเขาก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยหรอก แต่ว่าพอได้ยินคำว่า วริน แล้วเขากลับหยุดเดิน
ชนุตรพยักหน้า มองเขาอย่างตื่นตัวกลับรู้สึกว่าเขานั้นจะยื่นขอเสนอเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่แบบนั้น
มุมปากของทาวัตค่อยๆยกขึ้น พูดอย่างไม่ร้อนรนและไม่ใจเย็นว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นก็รบกวนคุณชนุตรเอาค่าเสียหายให้วรินด้วย ส่วนจะเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่คุณจะเห็นชอบก็แล้วกัน”
พูดจบก็หันหลังกลับไปยังห้องคนไข้ที่วรินทรนั้นอยู่
ชนุตรอึ้ง เป็นครั้งแรกที่เขาพบว่ามีคนแผนสูงที่ต้องการได้ค่าเสียหายอย่างนี้อยู่
ถ้าแบ่งให้น้อยไปแสดงว่าเขาบริสทธิ์ใจไม่พอ แต่ว่าถ้าแบ่งมากก็จะดูเหมือนเขาไม่มีอะไรที่ต้องเสียหาย แต่ฝ่ายที่ต้องเสียหายกลับเป็นบริษัทดาวรุ่ง
เช่นนี้ แล้วชนุตรก็ผ่ายไหล่ เดินจากไปอย่างไม่สนใจ
ทาวัตอุ้มวรินทรมาที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล เปิดที่นั่งเบาะเสริมเพื่อให้วรินทรได้เข้าไปนั่ง หลังจากนั้นก็กลับไปยังที่นั่งคนขับแล้วสตาร์ทรถขับออกไป
วรินทรใบหน้าขื่มขม จากมาได้แล้วแต่ว่าเพียงไม่นานก็ถูกลากกลับไป
บวกกับที่ร่างกายของเธอนั้นได้รับบาดเจ็บยังไม่ถึงอาทิตย์ไม่ต้องคิดว่าจะฟื้นคืนให้หายเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่ว่าไม่ได้ยินดีนักก็ถูกจับกลับไปอย่างนี้
วรินทรถอนหายใจเบาๆ หันหน้าออกไปมองที่หน้าต่าง แต่ว่าสายตาที่จ้องอยู่นั้นกลับไม่ใช่บรรยากาศภายนอกหน้าต่างแต่กลับเป็นมุมสะท้อนของหน้าต่างรถเป็นใบหน้าของทาวัต
ทุกครั้งที่มองนั้นใจสั่นถึงขั้นหายใจไม่ออก แม้ว่าวรินทรจะปกปิดไว้สุดกำลังแต่ว่าเธอต้องยอมรับว่าทาวัตนั้นเป็นคนที่เกิดมาแล้วน่าดึงดูด
ผู้ชายทุกคนที่วรินทรเคยพบนั้นรวมไปถึงพี่ชายที่หน้าตาเธอั้นก็ไม่เท่าทาวัตที่น่าดึงดูด
นั่นไม่เหมือนกันอยู่ที่ว่าความดึงดูดนั้นพบกันครั้งแรกที่จะมีอาการนี้ แต่เมื่อไม่ว่าคุณจะมองยังไงมองเมื่อไหร่ก็ดึงดูดสายตาของคุณทุกเมื่อ
วรินทรไม่ได้บ้าผู้ชายแต่ว่ามองเขาอย่างนี้หัวใจก็เต้นระส่ำระสาย
เธอยื่นมืออกมาโดยไม่รู้ตัว วางไว้หน้าต่างรถร่างกายนั้นขัดขวางทัศนะในการมองของเขา นิ้วมือที่อยู่บนหน้าต่างค่อยๆวาดภาพสเกตของเขา
วาดระเอียดจนขนตาก็ไม่เว้น
“เธอกำลังทำอะไร”เสียงของเขาค่อนข้างดังขึ้นในความเงียบอย่างกระทันหัน ทำให้วรินทรตกใจเก็บมือไม่ทัน
ทาวัตแค่เห็นว่าเธออิงหลังนั้นไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่สงสัยเลยถามขึ้นมา
ร่างกายของวรินทรกลับมาขึงตึงโดยเร็ว แอบคิดเงียบๆว่าเมื่อกี้นี้เขาคงไม่เห็นกริยาท่าทางและความคิดของตัวเอง เก็บความโชคนี้นั้นไว้ในใจนิ้วมือนั้นก็เช็ดบนหน้าต่าง “ไม่มีอะไร เห็นว่ากระจกรถมันเปลื้อนเลยเช็ดให้”
ท่าทางที่ไร้เดียงสาอย่างนี้ ไม่ว่าวรินทรจะตายไปก็ไม่สามารถบอกให้ทาวัตฟังได้
ทาวัตไม่ได้พูดอะไรต่ออีก สายตาทอดมองไปข้างหน้า ฟ้ามืดลงแล้ว เห็นรถเมล์สวนทางเปิดกระพริบแสงไฟ แสงเข้ามาในรถแล้วไม่นานก็มืดต่อ
เป็นอย่างนี้ด้วยแสงไฟที่วนเวียนไปมา
“เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่โรงพยาบาล” วรินทรไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบๆก็เลยพูดขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...