หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 169

สรุปบท ตอนที่169 โทษตัวเอง: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์

สรุปเนื้อหา ตอนที่169 โทษตัวเอง – หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ โดย เมียวเมียว

บท ตอนที่169 โทษตัวเอง ของ หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่169 โทษตัวเอง

ที่แท้ก็มีคนอยู่เบื้องหลังนี้เอง กวินคิดในใจ เขาก็ว่า คนอย่างเขาที่ใครเห็นใครก็รักจะมีคนจะลงมือกับเขาได้ไง หรือว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

กวินรู้ว่าเอฟอยู่แถวนี้ บวกกับความใจกล้าอยู่แล้ว เลยไม่ได้ตกใจกลัวเท่าไร รู้สึกว่าคนพวกนี้เอาเชือกมัดตัวเขาอยู่หลายรอบ กวินขยับตัวโดยไม่มีเสียง ในใจรู้สึกดูถูก มันหลวมขนาดนี้ไม่กลัวเขาหนีไปหรือไง?

ตอนที่พวกเขามัดเสร็จ กวินทำท่าลืมตาขึ้นเหมือนเพิ่งได้สติ มองชายชุดดำทั้งสองด้วยสายตาดูงงงวยและไร้เดียงสา พูดด้วยอาการช็อกว่า “พวกคุณเป็นใคร? ทำไมต้องมัดผมไว้?”

หน้าตาที่ดูบ๊องแบ๊วบอกกับสายตาที่ดูไร้เดียงสา คนปกติธรรมดาเห็นแล้วคงใจอ่อนหมด

แต่ว่าชายชุดดำสองคนนี้รู้เลยว่าผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างดี ไม่รู้สึกอะไรเลย แค่นั่งอยู่ข้างๆ ล้อมกวินไว้ตรงกลาง ปิดตาพัก

พวกเขารอให้คนคนนั้นโอนเงินมา ได้เงินปุ๊บก็ฆ่าตัวประกันเลย!

ทำไมกวินจะไม่รู้พวกเขาคิดอะไรอยู่ ดวงตาดวงโตๆหมุนไปมา บอกใบ้ให้เอฟที่แอบอยู่ยังไม่ต้องเคลื่อนไหว เขาจะรอดู แดดดี้กับหม่ามี้จะรู้ตัวเหมือนไหร่ว่าเขาหายตัวไป…...

ตอนที่วรินทรกับทาวัตถึงโรงเรียน ก็ได้ยินจากลุงยามแล้วว่ากวินโดนจับตัวไป ใจของวรินทรไม่เพียงแค่ยังไม่เย็นลง กลับยิ่งอยู่ยิ่งร้อนขึ้น เหมือนว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น ให้ทาวัตโทรกลับบ้านเพื่อยืนยันอีกที

“แน่ใจนะว่าคุณหนูยังไม่ถึงบ้าน?” น้ำเสียงของทาวัตมีความเยือกเย็น นัยน์ตาอึมครึม จับโทรแน่น

ไม่รู้ว่าทางนั้นว่าไงบ้าง ทาวัตวางสายไปแล้ว เดินเข้าห้องยาม แล้วถามยามว่า “ขอภาพกล้องวงจรปิดเมื่อกี้หน่อย เดี๋ยวนี้!”

ลุงยามตกในกับอำนาจแบบนี้ของเขา แต่ก็ไม่ได้คิดมาก รีบไปเอาข้อมูลกล้องวงจรออกมาให้เขา

หลังจากดูกล้องวงจรจบ สีหน้าทาวัตหม่นหมองมากขึ้น วรินทรมองเขาด้วยความกระวนกระวาย กระวนกระวายจนน้ำตาจะไหลออกมา

“คุณผู้ชายครับ เครื่องส่งสัญญาณพิกัดตำแหน่งของคุณหนูส่งสัญญาณมา” ปกเกศเดินมาหน้าทาวัต แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เขา

ทาวัตรับโทรศัพท์มาดู มีจุดสีแดงแสดงอยู่บนแผนที่ ไม่ขยับเลย เหมือนว่าหยุดอยู่ตรงนี้นานแล้ว

เขาสังเกตดูตำแหน่งที่แน่นอน ดึงวรินทรที่ยังโทษตัวเองอยู่เดินขึ้นรถไป

ขึ้นรถแล้ว ทาวัตสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที เหยียบคันเร่งจนมิด รถวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

สัหน้าของวรินทรนิ่งมาก ริมฝีปากสีชมพูยังห่ออยู่ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ดวงตาที่ขยับไปมาไม่หยุดกลับแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของเธอตอนนี้ มือที่วางไว้ตรงหน้าขาสั่นคลอน ทั้งตัวมีแต่กลิ่นอายของความรู้สึกผิดแพร่กระจายออกมา ไม่รู้จะทำอย่างไร

ทาวัตเรียกเบาๆ ดวงตาสีดำมีความอาฆาตแค้น ยื่นมือไป จับมือของวรินทรไว้ในมือตัวเอง ปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นหรอก ปกเกศให้คนไปตามหาแล้ว คุณอย่าโทษตัวเองเลย ผมก็มีส่วนผิด”

เขาและวรินทรต่างก็มีส่วนผิด ไม่ควรให้กวินรอนานขนาดนี้

แต่ความกังวลของทาวัตไม่มากเท่าวรินทร เพราะวรินทรไม่รู้ว่าข้างกายกวินยังมีเอฟอีกคน ที่ไม่เคยห่างไปไหนไกล กวินไม่เป็นไรแน่ๆ

ตึกข้างถนนที่ใกล้จะสร้างเสร็จถล่มกะทันหัน ทำให้ถนนขาด เลยเกินปัญหาจราจรติดขัดหนักมาก

ถึงแม้ว่าตำรวจจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์แล้ว แต่กว่าจากเก็บกวาดสิ่งกีดขวางออกไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เห็นได้ชัดว่า ครั้งนี้การจราจรติดขัดมากเป็นพิเศษ อย่างน้อยต้องใช้เวลาครึ่งวันการจารจรถึงจะดีขึ้น

แต่ว่า นรินทรกับทาวัตรอนานขนาดนั้นไม่ได้ กวินก็คงรอนานขนาดนั้นไม่ได้เหมือนกัน

คนเบื้องหลังชายชุดดำพวกนั้นสามารถทำให้การจราจรติดขัดได้ขนาดนี้ ถ่วงเวลาทาวัตสำเร็จ นี้บ่งชี้ว่า คนคนนั้นค่อยสังเกตทาวัตและวรินทรมาตลอด

ไม่แน่ รอบนี้กวิน อาจตกอยู่ในอันตรายจริงๆ

ทาวัตยื่นหัวออกไปดูสถานการณ์ถนนข้างหน้า ขมวดคิ้ว แล้วกลับมานั่งที่เดิม ปลดสายรัดเข็มขัดไปด้วย พูดกับวรินทรไปด้วย “ลงรถ ไม่มีเวลาแล้ว”

วรินทรไม่กล้าชักช้า รีบปลดเข็มขัดทันที แล้วเปิดประตูลงไป

“ไปทางนั้น” ทาวัตมองไปรอบๆ แล้วสายตาหยุดอยู่ที่พื้นที่วางเปล่าข้างถนน จับมือวรินทรเดินไปทางนั้น

“ตอนนี้เอาไง?” วรินทรมองไปรอบๆ ไม่ดูก็ไม่รู้เลย ว่ารถจะติดร้ายแรงขนาดนี้ อย่าว่าแต่รถยนต์พวกนั้นเลย แม้แต่สกู๊ตเตอร์ยังผ่านไม่ได้เลย วุ่นวายมาก ขนาดตำรวจจารจรยังควบคุมไม่ได้

“ผมให้ปกเกศตามคนมาแล้ว ใกล้ละ” พูดไป เขาก็เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ดำมืด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์