หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 210

ตอนที่ 210 เหมือนสายลมที่พลิ้วไสว

พนักงานช่วยเธอรวบกระโปรงขึ้น แล้วให้เธอเดินข้นบันไดไปยังขอบดาดฟ้า ได้จัดฉากไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เขาเท่าคนเดียว

ดาดฟ้าของพิพิธภัณฑ์คริสตัลที่จริงไปได้เปิดโล่ง แต่มีกระจกชั้นหนึ่งลักษณะทรงกลมปิดไว้ ปกติแล้วจะปิดไว้ แต่วันนี้จะเปิดมันออกมา

ที่จริงแล้วที่นี่ยังเป็นสวนดอกไม้ลอยฟ้าด้วย เมื่อวรินทรเดินจากตรงนี้ไปยังจุดสิ้นสุด ก็จะต้องเดินลงไป เดินไปถึงสวนดอกไม้นั้น จากนั้นเปลี่ยนชุดกระโปรงใหม่

แต่ว่าวรินทรกว่าจะเหยียบขึ้นบันไดสักคั้นยังต้องใช้ความกล้าหาญอย่างสูงมาก นี่ยังไม่พูดถึงว่าจะต้องเดินจากตรงนี้ไปตรงนั้นนะ

เธอกัดฟัน ความไม่สบายใจยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เหยียบลงไป แต่ในใจรู้สึกว่าข้ามไปแล้วหลายครั้ง “ฉันจะตกไปหรือเปล่าน่ะ” “ถ้าหากฉันตกลงไปข้างล่างจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยฉันไหมน่ะ” “โอ้แม่เจ้าสูงขนาดนี้จะกินแทนข้าวได้ไหมเนี่ย” รอก่อนคิดสิคิด

เหงื่อเล็กๆเม็ดใสๆผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเธอ ใบหน้าอันเข้มแข็งของเธอ เหงื่อค่อยๆไหลลงมา ตกลงมายังกระโปรงสีฟ้าสดใสของเธอ ไหลลงมาจนเป็นรอยด่าง

ในใจเธอถึงกับสวดมนต์ถึงพระเจ้า ถึงพระเยซู ถึงพระยูไร ที่จริงแล้วเธอไม่ได้เชื่อในสิ่งนี้ แต่ในเวลานี้ แทบจะอยากอันเชิญพระเจ้าทั้งหลายเหล่านี้มาอยู่ใกล้ๆ

ยิ่งคิด ในใจก็ยิ่งสั่นระรัว

ประภาพเป็นห่วงวรินทรจนแทบจะจ่องมองทุกฝีก้าวที่เธอเดินขึ้นบันได ขมวดคิ้วจนเหมือนจะหนีบแมลงวันตายเป็นตัวได้เลย เห็นการเดินของวรินทรแล้วแค่วินาทีเดียวก็ยังไม่กล้าปล่อยว่าง คอยระวังตัวไว้เผื่อเธอเกิดวิงเวียนศีรษะแล้วตกลงมาโดยไม่ได้ตั้งตัว ก็จะได้วิ่งไปรับได้ทันท่วงที

ในที่สุด วรินทรก็ได้เดินไปถึงขอบดาดฟ้า ที่นี่มีความกว้างประมาณหนึ่งเมตร ฟื้นเป็นลายหินอ่อน เหยียบลงไปรู้สึกเย็นเท้า

วรินทรเขย่งเท้าเยียบลงไป ก่อนหน้านี้อยู่ด้านล่างยังหาความสงบได้เพียงนิดเดียว เกือบจะแพ้ใจตัวเองแล้ว

เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองลงมา

ดูเหมือนด้านล่างเป็นเหวอย่างงัยอย่างงั้น ถ้าหากมองลงไปเหมือนจะมีปีศาจขึ้นจากเหวแล้วดึงขาอันเรียวเล็กของเธอลงไป

ความกลัวขึ้นมาจากความเยือกเย็นจากเท้าขึ้นสู่ร่างการ ขณะนี้เธอสั่นไปทั้งตัวแล้ว อย่าไปพูดถึงว่าจะเดินจากที่นี่เข้าไปถึงข้างในเลย แม่แต่จะยกขาเธอยังจะยกไม่ไหวแล้ว

เธออยากลงไปแล้ว ไม่ควรเสี่ยงตายอวดเก่งจริงๆ แต่ถ้าไม่ได้ถ่ายทำต่อโฆษณาเรื่องนี้ก็ไม่ได้เจอะเจอกับเรื่องเลวร้ายพวกนี้

ความคิดพวกนี้เหมือนน้ำในทะเลสาบมันไหลเข้าสมองของวรินทรหมดแล้ว

เธอหายใจเข้าลึกๆ ตั้งใจทำให้จิตใจตัวเองสงบลง บอกกับตัวเองว่า แค่เดินไปเท่านั้น ก็เหมือนกับถนนที่เดินปกติ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว

“แอคชั่น” เสียงขานของผู้กำกับดังขึ้น การถ่ายทำเริ่มขึ้น

วรินทรกัดริมฝีปากของเธออย่างจัง ด้วยความเจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกระวังตัวมากขึ้น ในเวลานี้แสงแดดไม่ค่อยร้อนมาก แสงส่องมากยังตัวเธอรู้สึกอุ่นๆ แต่ว่าวรินทรยังรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่ท่วมไปทั้งตัว

เธอเลือบตามอง วัดระยะด้วยสายตาจากที่นี่ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง มันไม่ใกล้เลย แต่ก็ไม่ไกลมาก ที่เอวของเธอยังคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ด้วย ถ้าหากเกิดอันตรายใดๆ เธอก็ไม่ตกลงไปข้างล้าง

กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ความกล้าของเธอก็เพิ่มขึ้นมากบ้าง ให้กำลังใจตัวเอง จากนั้นค่อยๆเดินก้าวออกไปก้าวแรก

เธอเยียบลงบนพื้นอันเย็นยะเยือก เสมือนกับเยียบก้อนเมฆลบนกลางหาว ลมพัดมาเบาๆแต่ไรซึ่งความรู้สึก มันเวียนหัวมากๆ

“ยื่นมือทั้งสองข้างออกมา มองดูข้างหน้า ทำท่าทางเสมือนลมกำลังพลิ้วไหว” ผู้กำกับทั้งดูที่หน้าจอและพูดออกเครื่องกระจายเสียงด้วย

ในเวลาที่วรินทรตื่นเต้น สีหน้าเธอถึงแม้จะฝืนยิ้ม แต่ก็ฝืนได้ไม่เหมือน “ลักษณะของสายลมที่กำลังพลิ้วไหว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์