ตอน ตอนที่223 น้องหมาที่พัดปลิว จาก หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่223 น้องหมาที่พัดปลิว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่223 น้องหมาที่พัดปลิว
“หม่ามี๊ น้ำลายๆ”กวินทำหน้าแหยๆ เหลือบมองวรินทรอย่างโกรธๆ
“ลูกบ้า โตขนาดนี้แล้วยังใส่ใจกับเรื่องพวกนี้อยู่อีกหรอ” วรินทรเอามือแตะไปที่หน้าผากของเขาอย่างเหนือยๆ หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าบนขาตัวเองมีอะไรมาสะบัดอยู่
อะไรเนี่ย
เธอรีบก้มลงมองก็เห็นน้องหมาที่หน้าตาน่ารัก
“นี่คือ ....หมีขาว?” ตาของวรินทรเบิกกว้างทันที
เธอรีบวางกวินลงทันที หลังจากนั้นก็อุ้มชาลีขึ้นสีหน้านั้นดีใจระคนแปลกใจ
กวินไม่ได้มีความไม่พอใจใดๆ เห็นวรินทรอุ้มชาลีขึ้นมาด้วยท่าทางทื่นชอบ สายตาก็ยิ้มดูมีความสุข เขารู้ว่าหม่ามี๊ต้องชอบแน่ๆ แต่ก่อนหม่ามี๊เคยพูดว่าจะต้องเลี้ยงน้องหมาแต่ว่าไม่มีทั้งโอกาสและเวลาแต่ว่าตอนนี้เหมือนจะสมประสงค์แล้ว
แดดดี๊คงไม่ได้ใจตั้งใจใช่ไหม กวินมองชาลีในใจก็คิด
“ลูก น้องหมานี้พัดปลิวมาจากไหน หน้าตาน่ารักดี” วรินทรอุ้มชาลีที่น้ำหนักตัวนั้นก็หนักอยู่ ยื่นมือหนึ่งออกมาลูบขนของชาลีแล้วพลางถาม
กวินมอง “หม่ามี๊ เรียกว่าพัดปลิวมาอะไรกันเหล่า? นี่คือสิ่งที่แดดดี๊ส่งให้ผม มันฉลาดมาก ผมพูดอะไรมันทำตามหมด”
“จริงหรอ?” วรินทรกระดกคิ้วขึ้นทาวัตให้น้องหมากับลูกทำไมกันล่ะ “แม่เลี้ยงลูกตัวนี้มาก็หมดแรงแล้วเนี่ย ยังจะเอาน้องหมามาเพิ่มอีกหรอ”
หมดแรง กวินเชิดปากขึ้น หม่ามี๊หมดแรงตรงไหนกันล่ะ
“ผมดูแลชาลีเองก็พอแล้ว หลังจากนี้ชาลีจะเป็นเพื่อนลูก ผมกินอะไรชาลีก็จะได้กินด้วย”กวินยิ้มพร้อมเอาชาลีมาจากอ้อมกอดของวรินทร
ชาลีเหมือนจะฟังกวินรุ้เรื่อง แลบลิ้นยื่นมาเลียใบหน้าน้อยๆของเขา
ดวงตาของวรินทรนั้นมีความประหลาดใจอยู่แล้วจึงหัวเราะออกมา “ลูกบ้า” หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปในบ้านกับกวิน
คำพูดของกวินทำให้เธอคิดถึงเรื่องน่าขำคือว่าคนที่เลี้ยงสุนัขนั้นต้นเดือนคนกินอะไรสุนัขได้กินอันนั้น ปลายเดือนสุนัขได้กินอะไรคนก็ได้กินแบบนั้น
แต่ว่าทาวัตมีเงินเยอะขนาดนี้ แม้ว่าสุนัขทั้งสวนเขาก็เลี้ยงได้สบายๆ ดังนั้นตรงนี้ไม่ต้องกังวล
อีกทั้งชาลีก็ดูเหมืออนไม่ใช่หมาทั่วไป ทาวัตเอาชาลีให้กวินต้องมีเจตนาของเขาอยู่เป็นแน่
“คุณวรินทร คุณกวินกลับมาแล้ว”พอเดินเข้ามาในลานบ้านก็เห็นธารีนั่งระหว่างที่วางต้นไม้ มือหนึ่งที่กรรไกร อีกมือหนึ่งก็ถือดอกกุหลาบสีชมพูกำลังตัดใบที่แตกแยกออกมาจากยอดด้านบนเห็นวรินทรกับกวินเดินเข้ามาก็ยิ้มให้
ถึงแม้ว่าเธอจะนั่งบนรถเข็น แต่ว่าสิ่งแรกที่ทำให้คนสนใจนั้นคือ หน้าตาที่สละสลวยของเธอ
สายตาของธารีมาหยุดอยู่ที่วรินทรแล้วก็มาหยุดอยู่ที่กวิน สายตานั้นแฝงไว้ด้วยเจตนาที่ไม่ดีอยู่
เด็กคนนี้คือส่วนสำคัญของเรื่องทั้งหมด
“อืม” วรินทรพยักหน้าเบาๆ ในใจแอบคิดว่าธารีนั้นไม่เคยคิดว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคนนอก ยังอาศัยอยู่ที่นี่ไม่ยอมไป
คิดๆแล้วสายตาก็มองไปรอบๆไม่ได้เห็นเงานั้นก็รู้สึกหดหู่ใจ
ขณะที่เธอกำลังคิดว่าถ้าเขาออกมาแล้วจะพูดอะไรนั้น กลิ่นหอมจางก็พัดเข้าจมูกเธอ ขณะที่หายใจในกลิ่นนั้นก็ยังคงอยู่เหมือนจะโอบอุ้มเธอไม่ให้มีทางหนีไปไหนได้
วรินทรเงยหน้าขึ้นทันที พอมองก็แทบจะไม่มีลมหายใจออกมา
มือหนึ่งของทาวัตนั้นกำลังถือผ้าเช็ดตัวกำลงัเช็ดผมอยู่ ปลายผมนั้นยังมีน้ำไหลออกมาลงผ่านมาตามคอของเขาแล้วลงไปในเสื้อคลุมอาบน้ำสีน้ำเงิน
รู้สึกว่าจมูกตัวเองนั้นร้อน วรินทรใช้มือปิดจมูกของตัวเอง หน้าเริ่มแดงหน่อยๆ ดวงตาเพ่งมองไปที่หน้าอกของทาวัตที่เผยออกมา
“เธอเอามือปิดจมูกทำไม” คิ้วทั้งสองของทาวัตผนวกเข้าหากัน มือนั้นยังคงเช็ดผมอยู่ เห็นวรินทรเอามือปิดจมูกก็รู้สึกแปลกใจ
สติของวรินทรถูกดึงกลับมา เม้มปาก สายตาพลางมองไปทางอื่นแล้วพูดว่า “ที่นี่มีกลิ่นแปลกๆ....”
กลิ่น? ทาวัตทำท่าหายใจเข้าออก แต่ว่านอกจากกลิ่นสบุ่อาบน้ำที่อยู่บนตัวเขากับกลิ่นหอมลางๆที่อยู่บนตัวของวรินทรนั้นก็ไม่มีกลิ่นแปลกอะไรนิ
เขาหันกลับไปมองที่วรินทรที่ใบหน้าแคงๆสักพักหนึ่ง ยิ้มอย่างจางๆ แล้วจึงเดินไปที่โซฟาที่หน้าโทรทัศน์ “มานี่”
วรินทรเดินเข้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร มองหลังศรีษะของเขาถามว่า “มีอะไร”
“ช่วยเช็ดผมหน่อย.” ทาวัตยื่นผ้าขนหนูให้จากด้านหลัง วรินทรรีบเอามือที่ปิดจมูกตัวเองนั้นออกแล้วรับผ้าขนหนูมา
ในใจของเธอนั้นรู้สึกหวั่นไหวนิดๆ เธอคิดถึงเส้นผมของทาวัต เส้นผมของเขามีน้ำหนักพอๆกับเธอเลยสีดำขลับและนุ่มลื่นแต่ก่อนเธอถือโอกาสที่เขาหลับสัมผัสผมของเขาครั้งหนึ่ง ทำให้เธอนั้นอิจฉา
ตอนนี้เธอสามารถทำอะไรก็ได้บนศรีษะของเขาแล้ว จะไม่ให้หวั่นไหวได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...