หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 236

ตอนที่ 236 กวินเหมาทำงานบ้านเองทั้งหมดเลย

ความโมโหเดือดดาลของทีนาร์ค่อยๆทุเลาลง เเล้วก็วางสายไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

เฮอะ คิดว่าฉันยืมมือเธอเพื่อมาแก้เเค้นอย่างงั้นเหรอ ?ฉันจะจัดการเอง !

พอวางสายได้ ธารีก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันออกมา เด็กอ่อนหัดอย่างยัยทีนาร์ คิดจะมาต่อกรกับฉันยังงั้นรึ ?

เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทาวัตที่เพียบพร้อมด้วยสติปัญญาเเละความเฉลียวฉลาดดุจดั่งเทพบุตร ไฉนเลยถึงได้มีน้องสาวโง่ๆติงต๊องแบบยัยทีนาร์ได้นะ ?

ในตอนนั้นเอง จันทร์ทราเดินออกมาจากระเบียงทางเดิน มุ่งตรงมาทางเธอด้วยใบหน้านิ่งสงบ

" คุณธารี " จันทร์ทราทักทายธารี ก่อนจะเดินผ่านไป

เพราะช่วงหลายวันมานี้ธารีต้องอยู่พักฟื้นภายในคฤหาสน์ ทาวัตเลยบอกให้จันทร์ทราไม่ต้องติดตามเธอชั่วคราว

ธารีเห็นท่าทางของจันทร์ทราที่ดูสงบนิ่งเฉยอย่างนั้น ก็อดที่จะดูถูกดูเเคลนเธอไม่ได้ ก็เเค่คนใช้คนนึง จะมีปัญญาทำอะไรได้

……

วรินทรตื่นเเล้ว หน้าของเธอยังคงดูซีดเซียวเหมือนคนป่วย ริมฝีปากแห้งขาวซีด ตาเลื่อนลอยไร้ชีวิตชีวาค่อยๆกระพริบอย่างช้าๆ ก่อนจะหันไปมองกวินตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆเตียงของเธอ

ตอนที่กวินหลับเขาช่างดูเหมือนเทวดาตัวน้อยๆ ใบหน้านุ่มนวลละเอียดอ่อน อ้วนกลมดูชุ่มชื่นอิ่มน้ำ จนดูเหมือนกับว่าถ้าบีบก็คงมีน้ำไหลจากออกมาจากแก้มอูมๆนั้น ดูท่าเเล้วในคฤหาสน์คงจะมีแต่อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงทั้งนั้น ถึงทำให้หน้าเค้าอ้วนกลมป๊อกกะปุ๊กลุ๊กได้แบบนี้ ทว่าก็ยังมีเค้าความหล่อเหลาอยู่เสมอ

ขนตาเขายาวหนา จนทำให้วรินทรเองยังแอบอิจฉาเขาเลย ช่างเหมือนทาวัตไม่มีผิด ขนตาทั้งยาวทั้งงอน

วรินทรยื่นมือไปลูบที่ใต้ตาของเขาเบาๆ ตรงใต้ตาออกสีเขียวคล้ำหน่อยๆ ดูเหมือนจะเป็นร่องรอยจากการอดนอน

เธอทำให้พวกเขาต้องเป็นห่วงอีกแล้ว

ดวงตาเปล่งปลั่งแวววาวคู่นั้นของวรินทร ก็รู้สึกถึงความรุนเเรงที่แวบผ่านเข้ามา ตัวเธอเองก็อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่เคยคิดไปแก่งแย่งชิงดีกับใคร เเล้วก็แทบไม่เคยไปมีปัญหาขัดแย้งกับใคร เธอก็อยู่ในโลกของเธอไม่คิดไปวุ่นวายกับใคร

หรือเธอจะพักนานเกินไปแล้ว ปล่อยให้คนพวกนั้นทำอะไรตามอำเภอใจไปไหนต่อไหนเเล้วก็ไม่รู้ ?

วรินทรนะวรินทร ถ้าขืนยังยอมจำนนอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เเล้วรอให้วันนึงพวกมันลงมืออีก เเล้วถ้าเป้าหมายไม่ใช่เธอล่ะ ?

ดวงตาของเธอหรี่เล็กลง หันไปมองที่กวินที่กำลังหลับตาพริ้ม คิ้วค่อยๆขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ใช่เเล้ว ประเทศ C ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับประเทศอังกฤษ ตอนอยู่อังกฤษวันๆเธอต้องคอยกังวลอยู่กับการมีชีวิตอยู่รอด เเต่ที่นี่ ภายใต้ปีกที่คอยกางปกป้องของทาวัต ทำให้เธอเริ่มรู้สึกโชคดีขึ้นอีกครั้ง

วรินทร นี่เธอยิ่งเดินไปไกล ก็กลับเหมือนยิ่งถอยหลังไปเรื่อยเลยนะ !เธอลืมภารกิจและความเเค้นของเธอไปแล้วเหรอ ?จะมัวเเต่มาสนุกเพลิดเพลินอยู่แบบนี้ได้ยังไงกัน ?

วรินทรฝืนข่มใจหลับตา ปลายนิ้วสั่นอย่างบังคับไม่ได้ ขณะที่กวินเพิ่งจะตื่นขึ้นมา

ความดีใจปรากฎออกมาจากดวงตากลมโตของเขา " หม่ามี๊ ตื่นเเล้วหรอออ !" จังหวะที่กำลังคิดจะกระโจนเข้าไปหาอ้อมกอดของวรินทร เขาก็นึกขึ้นได้ว่าหม่ามี๊บาดเจ็บตรงที่หน้าอก ก็เลยต้องหยุดตัวเองไว้

" อืมม ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องล่ะ ?" วรินทรลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู พลางมองดูหัวเขาอย่างเจ็บปวดหัวใจ

เธอแอบตัดสินใจเเล้วว่า จะไม่ยอมนิ่งเฉยอีกต่อไป เพื่อกวิน เเละก็เพื่อ …… ทาวัตด้วย !

กวินไม่รู้ว่าหรอกว่าหม่ามี๊ของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ได้แต่ส่งยิ้มหวานมองหน้าเธออย่างน่าเอ็นดู ดวงตาเขาเป็นประกาย " หม่ามี๊หิวมั๊ย หนูทำโจ๊กไว้ให้ หม่ามี๊กินหน่อยมั๊ยฮะ ?"

" เอาสิลูก " วรินทรส่งยิ้มให้ก่อนจะหันไปมองรอบๆ " ป่ะป๊าลูกไปไหนล่ะ ทำไมไม่เห็นเลย ?"

" ป่ะป๊าอออกไปข้างนอก อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้วฮะ " พอนึกขึ้นได้ว่าทาวัตออกไปทำอะไร ในใจของกวินก็ถอนหายใจเบาๆ เฮ้อออ

ใครจะไปรู้ว่าคนที่บงการอยู่เบื้องหลังกลับเป็นทีนาร์ อาแท้ๆของตัวเอง ป่ะป๊าคงรู้สึกอีนุงตุงนังยุ่งเหยิงไปหมด ฝั่งหนึ่งก็คนรักและลูกชาย อีกฝั่งหนึ่งก็น้องสาวแท้ๆ คนที่อยู่ตรงกลางก็คงจะรู้สึกอึดอัดแย่

กวินออกมาจากห้องนั้น เเล้วเดินลงมาที่ห้องครัวชั้นล่าง

เอเอาเก้าอี้มาให้กวินตัวนึง ให้เขาปืนเหยียบขึ้นไปทำโจ๊ก

" กวินกำลังสงสัยอะไรอยู่รึเปล่า ?" เอมองดูกวินที่กำลังทำโจ๊กด้วยหน้าตาจริงจัง สีหน้าของเขาทำให้เอ อดสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

กวินพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะปิดเตาที่เปิดไฟอุ่นเอาไว้อ่อนๆ มือก็ตักโจ๊กไป ปากก็คุยไปด้วย " ใช่แล้ว หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้มันดูแปลกๆ "

เอยืนฟังกวินเงียบๆอยู่ที่มุมมืดในห้องครัว

" ทีนาร์ถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนูผู้มีเกียรติ ทรัพย์สินเงินทองมั่งคั่ง จิตใจของเธอก็ไม่น่าคิดร้ายจับหม่ามี๊ไปเป็นตัวประกัน มิหนำซ้ำยังสั่งให้คนมาถ่ายรูปทำลายหม่ามี๊ให้เสียชื่อเสียงแบบนั้นได้หรอก เเล้วหลายวันมานี้ก็ไม่เห็นเธอมาที่นี่เลย หม่ามี๊ก็ไม่ได้ไปทำอะไรผิดใจกับทีนาร์ ถ้าไม่มีคนมาชักใยคอยผสมโรงล่ะก็ มันยากนะที่คนอย่างทีนาร์จะคิดทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง " กวินก้มหน้า ในใจก็ครุ่นคิดไตร่ตรองในสิ่งที่อาจจะมีความเป็นไปได้

เป็นการตัดสินสติปัญญาของทีนาร์ไปซะดื้อๆ

เอรู้สึกประหลาดใจอยู่หน่อยๆ ถ้าไม่ได้ฟังที่กวินวิเคราะห์ เธอเองก็คงจะคิดไม่ถึงแน่นอน ตั้งแต่เด็กจนโตปลาซักตัวเธอยังไม่เคยฆ่าเลย เรื่องคิดที่จะทำลายชื่อเสียงใครแบบนั้น คนอย่างเธอไม่น่าจะทำได้

แต่ว่า ……

" เเต่ว่าจิตใจของผู้หญิงยากแท้หยั่งถึง ถ้าเธอเกิดอิจฉาหม่ามี๊ของคุณหนูขึ้นมา มันก็ดูมีเหตุผลที่เธอจะคิดทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ ไม่ใช่เหรอ ?" เอพูดพลางมองไปที่กวิน

ดูเอาเหอะ หลังจากทีนาร์เข้าไปเอี่ยวกับเรื่องนี้ กวินเลยเปลี่ยนสรรพนามเรียกอาของตัวเองไปแล้ว จาก " คุณอา " เหลือแค่ชื่อ " ทีนาร์ " ห้วนๆซะอย่างงั้น มันคือช่องว่างระหว่างอาหลาน

แต่กวินก็พนักหน้าหงึกๆ อย่างไม่ค่อยใส่ใจประเด็นนี้เท่าไหร่ " ต่อให้เธอจะเกลียดหม่ามี๊ขนาดไหน ก็ไม่น่าทำสิ่งที่จะทำลายชื่อเสียงของหม่ามี๊แบบนี้ได้หรอก "

" ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้นคะ ?เรื่องระหว่างคุณทีนาร์กับหม่ามี๊ของคุณหนูเมื่อห้าปีก่อน คุณหนูคงไม่รู้ใช่มั๊ยล่ะคะ ?"

" เรื่องอะไรเหรอ ?" กวินวางถ้วยโจ๊กลงบนถาด เเล้วตักอาหารรสอ่อนๆลงไปบนโจ๊ก ก่อนจะหันไปมองเอแวบหนึ่ง

เอกำลังจะเอ่ยปากพูดอยู่พอดี เเต่ก็ดันได้ยินกรอบแกรบ เหมือนมีคนกำลังเปลี่ยนรองเท้าอยู่ที่ประตู เธอหันไปขยิบตาส่งซิกให้กวิน ก่อนจะทำเป็นกลบเกลื่อนเหมือนไม่มีอะไร

กวินเดินถือถาดออกมาจากครัว ก็เลยเห็นทาวัตที่เปลี่ยนเป็นรองเท้าเดินในบ้านเรียบร้อย กำลังจะขึ้นไปบนบ้าน

" ป่ะป๊า " กวินแรงเยอะ ถือถาดได้อย่างไม่รู้สึกหนัก

เขาก้าวเท้าอวบๆสั้นๆไปหา เเล้วก็เดินตามเขาขึ้นไป เดินขึ้นมาจนถึงหัวบันได ทาวัตก็หันหลังเดินกลับลงมาสองสามก้าว ก่อนจะก้มลงดูถาดอาหารที่อยู่ในมือของกวิน อาหารที่อยู่บนโจ๊กนั้นถึงแม้สีสันจะดูอ่อนจืดชืด ทว่าละเอียดปราณีต " นี่ลูกทำเหรอ ?"

" ใช่เเล้วฮะ " กวินพยักหน้า ส่งยิ้มกว้างให้ทาวัต

ทาวัตรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย ลูกชายเขาเพิ่งจะกี่ขวบเอง วรินทรบีบบังคับให้ลูกต้องทำอะไรเเบบนี้เลยเหรอ ?

" แล้วนี่ไปหัดทำกับข้าวเป็นตั้งเเต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย ?" ทาวัตพูดพลางลุกขึ้น หยิบถาดในมือของลูกชายไปถือไว้ ก่อนจะจูงเขาเดินขึ้นบันไดไปด้วยกัน

กวินเอานิ้วชี้มาแตะไว้ที่ริมฝีปากทำท่าครุ่นคิด " จำไม่ได้แล้วฮะ คล้ายๆว่าเมื่อก่อนเคยเห็นหม่ามี๊ต้องลำบากทำงานบ้านอยู่คนเดียว หนูก็เลยไปช่วย เเล้วจากนั้นก็ …… "

เเล้วจากนั้นกลายเป็นว่า กวินเหมาทำงานบ้านเองทั้งหมดเลย

เเต่ว่ากวินมีความสุขที่ได้ทำงานบ้าน สมัยที่อยู่อังกฤษชีวิตของเขานอกเหนือจากการไม่มีป่ะป๊าอยู่ด้วย ก็มีหม่ามี๊ที่มอบความรักทั้งหมดให้กับเขา หม่ามี๊พยายามที่จะชดเชยความอบอุ่นที่ขาดหายไป เขาก็เลยกลายเป็นเด็กมีเหตุมีผลเเละเข้าใจโลกตั้งเเต่อายุยังน้อยๆ

" หม่ามี๊ก็ทำอาหารอร่อยน๊า " กวินพูดย้ำประโยคนี้มาก เขาได้มาหัดทำอาหารก็เพราะว่าหม่ามี๊ของเขาเป็นนักกินตัวยง เเต่ว่าขี้เกียจ ชอบกินแต่ขนมปังไม่ยอมกินข้าว เขาก็เลยได้ฝึกหัดทำกับข้าว

หัวใจของทาวัตเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เขาก้มหน้ามองดูลูกชายที่ได้รับการดูเเลเป็นอย่างดี เนื้อตัวสะอาดสอ้าน เส้นผมนุ่มลื่นเงางาม " อดีตมันผ่านไปแล้วนะ ตอนนี้ป่ะป๊าอยู่นี่แล้ว "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์