หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 256

ตอนที่ 256 ในที่สุดก็เกิดเรื่องกับแม่จนได้

“อืม” ทาวัตขานรับเสียงเบา น้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

“งั้นฉันวางสายก่อนนะ ไว้กลับไปแล้วค่อยคุยกัน” วรินทรหัวเราะชอบใจ เธอรู้สึกได้ถึงความหึงหวงจากเจ้านายใหญ่

ลิฟท์กำลังมาถึงตึกห้องพักที่ประภาพพักรักษาตัวพอดี วรินทรเอามือถือใส่ลงไปในกระเป๋าแขนเสื้อด้วยความเคยชิน แขนเสื้อตัวใหญ่ดูด้านนอกจะมองไม่เห็นว่ามีกระเป๋าสามารถใส่ของได้ มือถือเธอค่อนข้างใหญ่ ไม่เคยชินที่จะใส่ในกระเป๋า มือถือไว้ก็ไม่ปลอดภัย ก็เลยชอบเก็บแบบนี้

เมื่อเธอเปิดประตูห้องผู้ป่วย ทันใดนั้นเธอก็พบเห็นประภาพที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นเย็นๆ หน้าอกมีแรงหายใจอย่างแผ่วเบา ดวงตาล้า หายใจแผ่วเบาเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจ

“วรินทร......หนี......” ประภาพมองเห็นร่างร่างหนึ่งอย่างพล่ามัว เขาพยายามดูว่าเป็นใครที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า และพูดออกมาอย่างยากลำบาก แต่วรินทรกลับเห็นแค่ริมฝีปากของเขาที่ขยับอยู่

“ประภาพ? คุณเป็นอะไร?” วรินทรอึ้งไปหลายวิ แล้วรีบก้าวเดินมาคุกเข่าอยู่ข้างกายประภาพ

“รีบหนีไป....ที่นี่อันตราย” ประภาพพูดด้วยเสียงแหบ หน้าอกหายใจอย่างแรงหลายครั้ง จับแขนเธอไว้แน่น แล้วผลักเธอ

“คุณเป็นอะไร? ใครทำร้ายเธอ? ฉันจะไปเรียกคนมาช่วยเดี๋ยวนี้.....” มือวรินทรเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงของประภาพ ภายในห้องมีกลิ่นอบอวลไปด้วยคาวเลือดจนเธอแทบขาดอากาศหายใจ

แววตาประภาพตกตลึง เหมือนกำลังมองเห็นสิ่งที่หน้ากลัว เขาผลักวรินทรที่กำลังจะไปเรียกคนมาช่วย ทันใดนั้นด้านหลังเขากลับโดนสิ่งของที่หนักทุบอย่างแรง เขาร้องด้วยเสียงที่เจ็บปวด

สีหน้าประภาพซีดเผือกยิ่งกว่าเมื่อกี้ เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาหล่นใส่หลังมือของวรินทรอย่างต่อเนื่อง

“ระ......ระวัง......” เมื่อพูดคำนี้ออกมา เขาก็สลบไป

วรินทรกำลังจะหันไปดูว่าใครลอบทำร้ายเธอ กลับโดนสิ่งของที่หนักโจบตีที่คอ ทั้งตัวอ่อนแรง และสลบไปเช่นกัน

ทาวัตที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิตกำลังเซ็นเอกสารที่เลขานิธูรเอามาให้ สีหน้าเคร่งขรึม สง่าสุขุม ท่าทีจับปากกายิ่งดูสง่าผ่าเผย

ขณะที่เขากำลังจะเขียนตัวสุดท้าย มือเขาก็หมดแรง ปลายปากกาหัก น้ำหมึกหกใส่กระดาษ

ทาวัตชะงัก คิ้วขมวด แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย มองดูปากกาที่พังอย่างเมอลอย

น่าแปลก วันนี้เขาเป็นอะไร? หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

สายตาหลักแหลมของเลขานิธูรมองเห็นปากกาหัก ก็รีบหยิบปากกาที่ใช้ประจำในกระเป๋าเสื้อยื่นให้ “ท่านประธานครับ นี่ครับ”

ทาวัตโยนปากกาที่เสียทิ้งไป ใช้ปากกาด้ามนี้เซ็นตัวสุดท้าย แต่จิตใจก็ยังไม่หายกระวนกระวาย

เหมือนกำลังจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดี

คืออะไรกัน?

“ช่วงนี้ที่บริษัทกำลังจะเกิดเรื่องอะไรหรอ?” เขาไม่ได้วางปากกาลง แต่ถือปากกาเล่นอยู่ เผื่อจะสามารถผ่อนคลายความกังวลในใจ

“ไม่มี ช่วงนี้บริษัทปกติดี” เลขานิธูรตอบ

คิ้วทาวัตยิ่งชนกัน นึกอะไรขึ้นได้แล้วรีบหยิบมือถือขึ้นมา กดสายด่วนโทรหาวรินทร

ในขณะเดียวกัน เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น ทาวัตวางมือถือแล้วรับสาย

“ท่านประธาน หน้าฟร้อนมีเด็กคนหนึ่งบอกว่าเป็นเพื่อนของท่านและต้องการพบท่าน ทำยังไงก็ไม่ยอมไป ก็เลยโทรมาเรียนถามค่ะ” เสียงพนักงานสาวหน้าฟร้อน

เด็ก?

ทาวัตนึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นใคร นอกจากกวินแล้วไม่มีใครอื่นอีกแน่ “อืม ผมรู้จัก ให้คนพาขึ้นมาเลย”

“ได้ค่ะ” หน้าฟร้อนวางสาย มองดูกวินที่แบกเป้ ใส่แว่นดำแล้วยิ้มว่า “เด็กน้อย พี่จะพาขึ้นไปนะ”

“ดีครับ ขอบคุณพี่สาวคนสวย” เสียงหวานๆของกวิน พูดออกมาแล้วทำให้คนฟังหวานไปถึงขั่วหัวใจเลยทีเดียว

สาวหน้าฟร้อนพากวินไปยังลิฟท์สำหรับท่านประธานใช้โดยเฉพาะ จึงถึงชั้นที่ต้องอย่างรวดเร็ว

กำลังเดินออกจากลิฟท์ กวินก็มองเห็นทาวัตที่เดินออกมาจากห้องทำงาน จึงเดินตรงไปหาเขา

“พ่อครับ” เสียงหวานใสของกวินดังขึ้น แล้วเดินไปหาทาวัตอย่างไม่สนใจสายตาตกตลึงของสาวหน้าฟร้อน ทาวัตอุ้มมากอดแนบอก แล้วเดินเข้าห้องทำงานไป

“ท่านประธาน....มีลูกแล้ว?” สาวหน้าฟร้อนมองเงาหลังร่างเล็กใหญ่ อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ถ้ารู้ตั้งแต่แรก เธอจะไม่เข้าไปห้ามเจ้านายน้อยเด็ดขาด

“ไม่ต้องไปเรียน? ทำไมกระทันหันแบบนี้?” ทาวัตถอดแว่นดำของกวิน วางไว้บนโซฟา หยิกแก้มน้อยๆด้วยความรักใคร่

“ลูกลาครูแล้วครับ” กวินพูดจริงจังราวกับผู้ใหญ่ มองทาวัตอย่างจริงจังแล้วใช้มือชี้ที่หน้าอก “ที่นี่ของลูกรู้สึกแปลกๆ”

แววตาทาวัตแฝงด้วยความกังวล “เป็นยังไง? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? พ่อจะเรียกหมอมา”

“ไม่ใช่ครับพ่อ” กวินส่ายหัว “ลูกมีความรู้สึก เหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่”

โดยปกติแล้วแม่ลูกจะมีความรู้สึกสื่อถึงกันได้ เขากับวรินทรก็ไม่ยกเว้น เมื่อไหร่ที่เกิดเรื่อง ก็จะรู้สึกได้ทุกครั้งเหมือนกัน

ครั้งนี้เขาก็รู้สึกกระวนกระวายใจ ก็เลยสั่งให้เอตามหาวรินทร กลับได้คำตอบว่าวรินทรไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิต ก็เลยต้องมาเอง

“วรินทร....แย่แล้ว” เสียงทาวัตดังขึ้น เหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้แล้วรีบลุกขึ้น เดินตรงไปยังโต๊ะทำงาน หยิบมือถือที่วางลงบนโต๊ะเมื่อกี้ขึ้นมา

มือถือไม่ได้ปิดเครื่อง แต่ไม่มีคนรับสาย

“คุณแม่ไม่ได้อยู่ที่บริษัท แล้วคุณแม่จะไปไหน?” กวินก็เริ่มกังวล ความรู้สึกของเขาไม่ผิดแน่ และเขาก็ทายไม่ผิด เกิดเรื่องกับคุณแม่แล้วจริงๆ

“ไปเยี่ยมประภาพที่โรงพยาบาล” ทาวัตพูดจบ อุ้มกวินแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ในห้องผู้ป่วยที่โรงพยาบาล บนพื้นเปื้อนไปด้วยคราบเลือดที่แห้งแล้ว และกระเป๋าหนังที่วรินทรสะพายไปหานิสิตา เป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่กวินสะพายอยู่ ก็เลยแค่มองก็ดูออกเลย

กวินเดินข้ามกองเลือดไปหยิบกระเป๋าสะพาย หันมามองทาวัต “นี่เป็นกระเป๋าของคุณแม่จริงๆ เหมือนกับของลูกเลย”

แววตาทาวัตหม่นหมองเต็มไปด้วยความกังวล มองรอยเลือดบนพื้น แล้วกำมัดแน่น ทั้งตัวแข็งเหมือนตกอยู่บนกองไฟ ท่าทางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“พ่อครับ นี่อาจจะไม่ใช่เลือดของคุณแม่ พวกเขาน่าจะตีแม่ที่เข้ามาในห้องผู้ป่วยทีหลังให้สลบแล้วพาไปกับคุณลุงประภาพ” กวินมองคราบเลือด ในใจถึงแม้จะกังวล แต่ความรู้สึกนึกคิดยังมีสติ จึงมองเรื่องราวออกอย่างรวดเร็ว

“พ่อรู้ เป้าหมายของคนพวกนั้นอาจจะเป็นประภาพ วรินทรแค่บังเอิญมาเจอ ก็เลยถูกจับไปด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้น ตอนนี้เธอก็น่าจะปลอดภัยอยู่” ทาวัตครุ่นคิด ใช้สมองทบทวนดูว่าน่าจะเป็นฝีมือใคร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์