หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 260

ตอนที่ 260 ทำตามแผนเดิม

“ขังไว้อีกห้องหนึ่ง ยังไม่ฟื้นเลย” เสียงผู้หญิงตอบ

“อืม ทำตามแผนเดิม และไม่ต้องวางยาในน้ำ และอาหารเธอแล้ว เธอหนีไม่พ้นหรอก” คนคนนั้นหันมามองใบหน้าด้านข้างของวรินทรในเครื่องฉาย สีหน้าแฝงไปด้วยความเอ็นดูและสงสาร

_

ผ่านไปสองวัน นอกจากมีคนคอยส่งน้ำและอาหารแล้ว วรินทรไม่เคยพบเจอใครอีก

เด็กผู้หญิงที่เข้ามาส่งอาหารเมื่อวานบอกเธอว่า เจ้านายสั่งให้บอกว่าน้ำและอาหารปลอดภัยดี ขอให้คุณผู้หญิงไม่ต้องกลัว รับประทานอย่างวางใจได้

วรินทรไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะในห้องนี้ต้องมีกล้องซ่อนอยู่ อากัปกิริยาของเธอทุกอย่างคนพวกนั้นต้องรับรู้ทุกอย่าง

แต่ดูจากการกระทำของคนพวกนั้น ดูเหมือนจะไม่ต้องการทำร้ายเธอ เป็นใครกันแน่ ที่ลงทุนทำขนาดนี้ เพื่ออะไร?

วรินทรกินไปด้วย ครุ่นคิดไปด้วย ในตัวเธอไม่ได้มีสิ่งของมีค่าใดๆ ถ้าหากมี แล้วคืออะไร....แหวนลับ

หรือว่าคนพวกนั้นทำเพื่อแหวนลับ?

แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เป้าหมายของคนพวกนั้นน่าจะคือประภาพต่างหาก เธอแค่บังเอิญไปเจอเข้า ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่โดนจับมาด้วย

น่าสงสัย น่าสงสัยจริงๆ

วรินทรใช้ส้อมตักเนื้อในจานอย่างขุ่นเคือง เปรียบดั่งเนื้อเป็นคนพวกนั้น

ทาวัตจะต้องรู้ว่าเธอหายไป ตอนนี้ยังหาไม่เจอ เสดงว่าที่นี่หายากมาก เธอต้องคิดหาทางติดต่อพวกเขาให้ได้

แต่.....อุปกรณ์ติดต่อสิ่งเดียวที่เธอติดตัวมา โดนยึดไปแล้ว เธอจะติดต่อทาวัตได้อย่างไร?

ในหัวบังเกิดแผนการหนึ่งขึ้นมา วรินทรทานข้าวเรียบร้อยแล้วก็วางช้อนส้อม เดินไปมาในห้อง เพื่อย่อยอาหารในท้อง

_

พวกคนของทาวัตที่ตามหาติดต่อกันมาก็สองวันแล้วยังไม่พบเบาะแสอะไรเพิ่ม ก็เลยต้องตัดสินใจมุ่งเป้าไปที่นอกพื้นที่เมืองA แต่เมืองในประเทศCมีตั้งมากมาย จะหาคนคนหนึ่งจากเมืองมากมายขนาดนี้ ยากเหมือนงมเข็มในทะเล

“เจ้านายครับ ผมสั่งคนไปค้นในประเทศBกับประเทศC ตอนนี้ยังไม่พบตำแหน่งที่อยู่ของคุณวรินทรเลยครับ” คนหนึ่งเดินมาก้มหน้ารายงานต่อทาวัต

ทาวัตกำมัดแน่น สองวันแล้ว ผ่านไปสองวันเต็มๆแล้ว ยังไม่พบแม้แต่เงาวรินทร กระทั่งเบาะแสสักนิดก็ไม่มี

ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเศร้าหมอง คิ้วเข้มขมวดอย่างกังวล ในตาฉายแววเป็นเส้นเลือด ดวงตาหมองคล้ำ เขาไม่ได้พักผ่อนมาสองวันแล้ว ตอนนี้ที่ยังอดทนได้อยู่ก็เพราะยังมีความหวังลึกๆที่มีอยู่เท่านั้น

“พ่อครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ในเมื่อพวกเขาจับแม่ไปก็เพื่อแหวนลับ เพราะฉะนั้นแม่ต้องยังปลอดภัยดีครับ” กวินอุ้มโน๊ตบุ๊คเดินเข้ามา มือข้างหนึ่งอุ้มโน๊ตบุ๊ค มืออีกข้างสัมผัสแป้นพิมพ์อย่างคล่องแคล่ว

เมื่อมองเห็นกวินแววตาทาวัตก็ผ่อนคลายลง ขยี้ศรีษะน้อยๆของเขา มองดูแผนที่ที่ปรากฎบนหน้าจอ “นี่คือ?”

“พ่อครับ พ่อจำสร้อยที่ให้แม่ได้ไหม?” กวินขยายรูปแผนที่ เลื่อนเมาส์ไปที่สร้อยบนแผนที่แล้วพูดขึ้น

โลก?

ทาวัตครุ่นคิด พยักหน้า “จำได้”

“สร้อยเส้นนั้นนอกจากภายนอกจะมีความสวยงามแบบธรรมชาติแล้ว ข้างในยังมีGPSขนาดเล็ก สามารถหาตำแหน่งได้ ก้อนหินก้อนนั้นไม่ได้ถูกดัดแปลง ก็เพราะข้างในมีของสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่เจ้าของเดิมยังคงรักษาไว้” กวินขยายแผนที่เพิ่มขึ้นอีก ใบหน้าน่าเอ็นดูฉายแววความตั้งใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะเอบอกเขา พวกเขาอาจจะต้องเสียเวลาค้นหาตำแหน่งของวรินทรอีกนาน

ที่จริงสร้อยเส้นนั้นไม่ใช่สร้อยจากธรรมชาติทั้งหมด แต่แบ่งเป็นสองส่วนประกบกัน GPSจึงถูกฝังไว้ตรงกลางระหว่างสองชิ้น และสีของหินออบซิเดียนค่อนข้างเข้ม จึงตรวจพบยาก

กวินรู้สึกดีที่คนคนนั้นคิดวางแผนหาวิธีใส่GPSไว้ในสร้อย คงเป็นเพราะต้องการปกป้องใครสักคน ทำไห้คิดหาวิธีทำถึงขนาดนี้ คงอยากจะรู้และหาตำแหน่งของคนคนหนึ่งได้ตลอดเวลา

“รู้ละเอียดขนาดนี้เชียว” ทาวัตยิ้มที่มุมปาก มือที่ลูบหัวกวินยิ่งลูบยิ่งอ่อนโยน เหมือนคิดอะไรได้แล้วหลับตาหายใจเข้าลึกๆ

“แน่นอน พี่เอเป็นคนบอกเอง” กวินหัวเราะชอบใจ ที่พ่อตัวเองชื่นชมตน

ทาวัตไม่พูดอะไรต่อ แต่ก็เดาได้ว่าผู้หญิงคนที่เจอวันนั้นต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับกวินแน่ ในเมื่อลูกไม่คิดจะบอก เขาก็จะไม่บังคับ

“ซวยแล้ว.....สถานที่นั้นไม่มีสัญญาณแสดงตำแหน่ง หาตำแหน่งที่แน่นอนของแม่ไม่ได้” นิ้วน้อยๆของกวินใช้แรงเคาะแป้นพิมพ์หลายที แต่ก็ไม่สามารถปลดล็อครหัสสัญญานที่ถูกล็อคไว้

ตัวล็อคสัญญาณแสดงตำแหน่งนี้น่าแปลกมาก เหมือนทำไว้เพื่อป้องกันพวกเขาโดยเฉพาะ กวินแก้ระหัสไม่ได้

“ให้พ่อดูหน่อย” ทาวัตหยิบโน๊ตบุ๊คมา พิมพ์โค้ด แต่หน้าจอกลับปรากฎโค้ดเพิ่มมากขึ้น

กวินขยับมามองดูทาวัต มองด้วยสายตากระพริบไปมา สักพัก บนหน้าจอก็ปรากฎแผนที่ขึ้นมา

“พ่อเก่งมากเลย” ดวงตากวินเป็นประกาย ที่แท้พ่อก็มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ไม่น้อย แม้แต่ระหัสที่เขาถอดไม่ได้กลับสามารถถอดได้อย่างง่ายดาย

“อืม” ทาวัตขานรับเสียงเบา แล้วคลิกเข้าไปในตำแหน่งนั้น

ที่แท้วรินทรไม่ได้อยู่ในประเทศใดๆ แต่อยู่ตรงกลางทะเลระหว่างเมืองAกับเมืองD ในทะเลมีหมู่บ้านอยู่บนเกาะเกาะหนึ่ง ผู้คนที่อาศัยอยู่เป็นพลเมืองของเมืองD ที่นั่นค่อนข้างกันดาร กฎการปกครองเข้มงวด และสัญญาณต่างๆก็ค่อนข้างที่จะเข้าถึงยาก

“สองวันมานี้ พวกเขามุ่งเป้าไปที่เมืองต่างๆ คิดไม่ถึงว่าคนพวกนั้นจะเจ้าเล่ห์ พาคนไปซ่อนไว้บนเกาะ”

และยังแอบซ่อนไว้มิดชิดขนาดนี้ แม้แต่สัญญาณตำแหน่งยังใส่ระหัสไว้

“แม่อยู่ในทาวน์โฮมหนึ่งบนเกาะ เป็นทาวน์โฮมที่ไหน?” กวินเบียดเข้ามาดูใกล้ๆเพื่อบันทึกจดจำตำแหน่งที่ตั้งไว้

ทันใดนั้น ไฟสัญญาณตำแหน่งนั้นก็ดับลง แม้แต่แผนที่สถานที่นั้นก็หายไปไม่เจอแล้ว

“อ้า เร็วรีบหาออกมา” กวินหมดความอดทน ตะโกนใส่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค ใบหน้าน้อยๆโกรธยิ่งนัก

“อยู่ที่ถนนปะทิว ทาวน์โฮมเลขที่27” เมื่อกี้ทาวัตมองเห็นแวบหนึ่งก็จำได้แล้ว เห็นหน้ากวินที่โกรธเคืองอยู่ก็นึกขำ

ดวงตากวินเป็นประกาย มองทาวัตด้วยความยิ่งศัทธา “พ่อครับ งั้นเราไปกันเลยไหม?”

“ไม่ได้ การปฏิบัติการในครั้งนี้อันตรายมาก หากไม่ระวัง อาจไม่มีชีวิตรอดกลับมา ลูกจะไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้ รออยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายนะ” ทาวัตยืนขึ้น ปฏิเสธกวินอย่างไม่ลังเล

“ใบหน้าน่าเอ็นดูของกวินรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที มองทาวัตอย่างตำหนิ แต่ก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย ด้วยแววตามีแผน มองทาวัตกับปกเกศจากไป ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์