ตอนที่ 261 ยอดของยอดคน
หลังจากทาวัตจากไปไม่กี่นาที เมื่อกวินแน่ใจว่าทาวัตออกไปจากวิลล่าแล้วจริง ๆ เขาก็เริ่มลงมือ
“เอ พวกเราก็ไปกันเถอะ” กวินเริ่มเก็บของ จับใส่กระเป๋าเป้ก่อนยกขึ้นสะพาย จากนั้นจึงเรียกเอออกมา
เอมองท่าทางอยาก ตามสืบรอยของกวินนั้นก่อนหลุดหัวเราะออกมา “กวิน ถ้าพ่อนายรู้ต้องตีก้นนายแน่ ๆ เลย”
กวินย่นจมูก ยืดอกอย่างมั่นอกมั่นใจ กล่าวว่า “ไม่มีทาง พวกเราแอบทำลับหลังพ่อ พ่อไม่มีทางรู้หรอก”
_
ทาวัตพาปกเกศมุ่งหน้าไปที่เกาะ และส่งคนจากค่ายฝึกไปทางทะเล เข้าประชิดเกาะ ทุกอย่างดำเนินอย่างเป็นความลับ
ธรรศกับนรชัยแยกกันนำทีมคนจากค่ายฝึกเป็นสองทีม เร็วพอ ๆ กับทาวัต
แต่ในพวกเขากลับไม่มีใครคาดคิดว่า เพื่อวรินทรแล้วทาวัตถึงกับใช้ไพ่ตายที่เป็นความลับอย่างค่ายฝึกนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ ย่อมต้องไปกระทบขั้วอำนาจอื่น
คนที่มาจากค่ายฝึกทุกคนล้วนแต่เป็นยอดของยอดคน ล้วนแต่ผ่านการฝึกพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือฝีมือ ล้วนแต่ไม่อาจดูถูกได้
ถ้ากองกำลังทีมนี้ออกมา ก็หมายความว่าจะใช้กำลังที่มีทั้งหมดจัดการอีกฝ่าย
ดังนั้นหลายปีนี้ทาวัตจึงทำทุกอย่างอย่างลับ ๆ มาโดยตลอด นอกจากธรรศและนรชัยแล้ว ก็แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้
แม้แต่วรินทรเองก็ไม่รู้
“เจ้านาย ข้างหน้าเป็นเกาะแล้ว” ปกเกศซึ่งขับเฮลิคอปเตอร์ เห็นเกาะอยู่เบื้องหน้า พูดขึ้น
ปกเกศเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของค่ายฝึก และเป็นหัวหน้าของกองกำลังทั้งหมดนี้ ฝีมือโดดเด่นและจงรักภักดี ไม่เหมือนสมาชิกในค่ายฝึกคนอื่น เขาอยู่ข้างกายทาวัตมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่ได้ฝึกฝนนับว่าน้อยกว่าคนอื่น แต่มีความตั้งใจมากกว่าคนอื่น ถึงได้มายืนอยู่ในจุดนี้ได้
“หยุดในระยะห้าสิบเมตร ดำน้ำ” ทาวัตมองไปเบื้องหน้า ริมฝีปากเม้มแน่น แววตาปรากฏความอ่อนโยน
วรินทร คุณไม่ต้องกลัว ผมมาช่วยคุณแล้ว
_
“ทาวัต!” ภายในห้อง วรินทรที่กำลังหลับอยู่บนเตียงลุกพรวดขึ้นนั่ง บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลไม่หยุด ใบหน้าซีดเผือด ขบกัดริมฝีปากไร้สีเลือด เหมือนเธอจะฝันร้าย
วรินทรไม่หลับตาลงอีก เธอไม่กล้าที่จะคิดถึงความฝันที่เพิ่งฝันไป แม้จะเป็นแค่ฝัน แต่กลิ่นอายความสิ้นหวัง ความตาย และความเจ็บปวดนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นจริง ๆ
เปลวไฟแดงฉานพวยพุ่ง ราวกับจะเผาผลาญทุกสิ่งให้สิ้นสลาย เธอเห็นตัวเองยืนอยู่ด้านนอกวิลล่าหลังนี้ เห็นร่างของทาวัตตกลงมาจากวิลล่าชั้นบน ร่วงหล่นลงสู่ทะเลเพลิง…
ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้!
นี่ไม่มีทางเป็นไปได้!
ทาวัตเป็นใครกัน เขาจะถูกเผากลางทะเลเพลิงได้ยังไง นี่เป็นแค่ฝันเท่านั้น ก็แค่ฝัน ไม่มีทางเป็นจริงไปได้หรอก!
วรินทรพยายามข่มหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งให้สงบลงอย่างสุดความสามารถ แต่กลับกลายเป็นยิ่งเต้นรัวหนักขึ้น หัวใจเต้นราวกับกลองรัว จนไม่สามารถควบคุมได้
เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ฝันแบบนี้ขึ้นมา แต่ว่า เธอไม่อาจรอต่อไปได้อีก ไม่อาจให้ทาวัตเข้าใกล้ที่นี่ได้ แม้จะเป็แค่ฝัน เธอก็ไม่อาจนั่งรอความตายอยู่ที่นี่ได้อีก
เธอต้อหาทางหนี!
ภายในหัวสับสนยุ่งเหยิง วรินทรคลึงดวงตา เม้มปากพลางสำรวจห้องห้องนี้
ภายในห้องไม่มีอาวุธอะไรทั้งนั้น มีเพียงแจกันลายครามที่งดงามประณีตไม่กี่ใบเท่านั้น ยังมีกระจกห้องน้ำ ถ้าเธอทำแจกันในห้องนี้แตก ต้องดังจนเรียกคนมาแน่ ๆ วรินทรจึงตัดสินใจจะลงมือกับกระจกบานนั้น
เธอแกล้งทำเป็นปวดท้อง แล้วเดินตัวงอเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็ปิดประตู
คนพวกนั้น ไม่มีทางติดกล้องวงจรปิดในห้องน้ำเพื่อดูเธอทำธุระหรืออาบน้ำหรอกน่า
อันที่จริงแล้ว โดยคาดไม่ถึง กล้องวงจรปิดพวกนั้น เมื่อเธอเปิดประตูห้องน้ำออก ก็จะสามารถจับภาพกระจกจากทางด้านนั้นได้ ไม่แตกต่างอะไรจากติดในห้องน้ำ
นี่แสดงให้เห็นว่าคนพวกนั้นไม่ได้โง่เง่านัก
วรินทรมองบานกระจก ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงให้มันแตกลงมาได้ ในสมองเธอมีอยู่แผนหนึ่ง แม้จะอันตราย แต่เธอจะไม่รออีกแล้ว และก็ไม่สามารถรอต่อไปได้อีก
เธอหยิบขวดครีมอาบน้ำก่อนทุบเบา ๆ ที่มุมกระจก ฐานขวดแข็งมาก ทุบอยู่ครู่เดียว มุมกระจกก็ถูกเธอทุบแตกลงมา เธอยื่นมือไปหยิบ แล้วเอาขวดครีมอาบน้ำกลับไปวางที่เดิม
จากนั้น เธอก็ขยับโฟมล้างหน้ากับขวดน้ำหอมไปวางหน้ากระจกในตำแหน่งนั้น เพื่อบังมุมที่แหว่งไป เมื่อเธอเห็นขวดน้ำหอมขวดนั้น อยู่ ๆ เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงหยิบขวดน้ำขวดเล็กขึ้น
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็ไปที่หน้ากระจก หยิบชิ้นส่วนกระจกที่แตกนั่นขึ้นมา กัดริมฝีปากล่าง แล้วกลั้นใจ ใช้มันกรีดเส้นเลือดดำที่ข้อมืออีกข้าง
เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลไปตามข้อมือขาวผ่อง ไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เธอนั่งบนพื้นอันเย็นเฉียบ มองดูเลือดจากข้อมือที่ไหลไม่หยุด พลางกัดริมฝีปาดแน่น
นี่ถ้าเธอตายเพราะเสียเลือดมากขึ้นมา ต่อให้เป็นผีก็จะไม่ละเว้นพวกสารเลวพวกนั้นเลย!
ถ้าคนพวกนั้นเฝ้าดูเธอจากกล้องวงจรปิดโดยตลอด ก็ต้องเห็นว่าเธอเข้าไปในห้องน้ำนานแล้วและยังไม่ออกมา จะต้องส่งคนมาดูเธอแน่ ถึงตอนนั้น โอกาสของเธอก็มาถึงแล้ว…
_
ที่ทะเล ร่างสองร่างว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว ระยะทางห้าสิบเมตร แต่ใช้เวลาแค่สองสามนาทีก็ถึงชายฝั่งแล้ว
“เจ้านายรอสักครู่ครับ ถ้าจะเดินไปต้องใช้เวลากว่าจะไปถึง คนของเรามาถึงแล้ว ตอนนี้กำลังมุ่งไปที่นั่น ขอให้เจ้านายรออีกสักครู่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยไป” ปกเกศพูด ยั้งทาวัตที่จะสาวเท้ามุ่งหน้าไป
ปกเกศพูดไม่ผิด จากที่นี่ไปถนนปะทิวค่อนข้างไกล ถ้าเดินไป อย่างน้อยต้องใช้เวลาสี่สิบนาทีจึงจะถึง
และเขาก็ไม่อยากเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว
ไม่ถึงครึ่งนาที ก็มีรถออฟโรดคันหนึ่งขับเข้ามา มีคนคนหนึ่งยื่นหัวออกมา โบกมือให้พวกเขา
หลังขึ้นรถ รถออฟโรดก็มุ่งหน้าสู่วิลล่าเลขที่ยี่สิบเจ็ด ถนนปะทิว
เกาะกับในเมืองไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมเงียบสงบและสะอาด แม้แต่อากาศก็ดีกว่าในเมือง
“เจ้านาย พวกเขาเข้าล้อมวิลล่านั่นไว้แล้ว ไม่ทราบว่าจะให้เข้าไปช่วยคุณวรินทรออกมาเลยมั้ยครับ?” ปกเกศได้รับรายงานที่ส่งมา จึงถามความเห็นทาวัต
ดวงตาที่ปิดสนิทค่อย ๆ ลืมขึ้น ยากจะปิดความคมปลาบที่สาดฉาย “ให้พวกเขารอก่อน รอฉันไปถึงค่อยตัดสินใจ ก่อนหน้านั้น ก็ให้เข้าไปดูแลความปลอดภัยของคุณวรินทร”
“ครับ”
_
ในวิลล่า คนพวกนั้นไม่รู้สักนิดว่าถูกจับตามองอยู่ เมื่อเขากลับถึงห้องควบคุม ก็พบว่า วรินทรยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ
หลังจากที่เธอเข้าไปในห้องน้ำจนถึงตอนนี้ ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
คนคนนั้นดูจออย่างเคร่งเครียด แม้จะรอไปอีกสักพัก วรินทรก็ยังไม่ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์