หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 262

ตอนที่ 262 อย่าโง่ไปหน่อยเลย

“ไม่ดีแล้ว” เขาหมุนตัวตั้งใจจะไปที่ห้องนั้น กลับถูกคนคนหนึ่งหยุดไว้

“อย่าโง่ไปหน่อยเลย นายออกไปตอนนี้ถ้าถูกเธอเห็นจะทำยังไง?” คนคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ขวางหน้าเขาไว้

“ฉันไม่สนหรอก แต่เธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้” เขาอยากผลักคนคนนั้นออกไป แต่อีกฝ่ายกลับไม่ขยับเขยื้อนสักนิด ไม่ยอมให้เขาไป

“เดี๋ยวนายท่านก็มาแล้ว อย่าบอกนะว่านายคิดจะออกไปในเวลาแบบนี้? นายอยู่นี่ เดี๋ยวฉันไปดูเอง” เมื่อคนคนนั้นพูดจบ ก็มองเขาอยู่อึดใจ ก่อนจากไป

เขาถอยกลับไปสองสามก้าวอย่างห่อเหี่ยวใจ สายตาจ้องมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในห้อง จนถึงประตูห้องน้ำ เคาะประตูสองสามครั้ง แต่กลับไม่มีเสียงใด ๆ กลับมา

ผู้หญิงคนนั้นไม่อดทนรอ สุดท้ายก็ยกขาขึ้นมา เตะเข้าไปที่ประตู เตะไปหลายครั้ง ประตูถึงจะเปิดออก

บนหน้าจอปรากฏสถานการณ์ในห้องน้ำ

วรินทรล้มอยู่กลางกองเลือด เลือดจากบาดแผลที่ข้อมือของเธอยังไหลไม่หยุด บนพื้นสีขาวเย็นเยียบ สีเลือดดูแสบตาเป็นพิเศษ 

ผู้หญิงคนนั้นผงะถอยด้วยความตกใจ ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่ารวินทรจะทำแบบนี้ ไม่คิดว่าจะกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย!

คนที่ซึ่งยืนอยู่หน้าจอกำมือทั้งสองแน่น บังคับตัวเองไม่ให้ไปพุ่งไปหาเธอ

เขาลงไปไม่ได้ ถ้าลงไป ทุกอย่างก็จบ

ผู้หญิงคนนั้นเรียกคนทันที จากนั้นก็อุ้มวรินทรขึ้นจากกองเลือดด้วยตัวเอง พาออกไปด้านนอก

บาดแผลนั้นวริทรเป็นคนกรีดเอง เธอลงมืออย่างรู้หนักเบา ดังนั้นแม้เลือดที่ไหลออกมาจะเยอะมาก แต่เธอก็ยังมีสติอยู่ 

ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นอุ้มเธอขึ้นมา เธอลืมตาทั้งคู่ขึ้นมองผู้หญิงคนนั้นอยู่เสี้ยวพริบตา

หัวใจของวรินทรถูกบีบแน่น ราวกับไม่กล้าเชื่อ จึงหลับตาลงอย่างหวาดกลัว

เป็นมษยา ไม่นึกเลยว่าจะเป็นมษยา!

เจอกันครั้งแรกก็ทะเลาะกับธารี เป็นมษยาที่คอยเรียกเธอว่า “พี่วรินทร” อย่างสนิทสนมมาตลอด น้องสาวของชนุตร์!

ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้? อย่าบอกนะ ว่าเธอเป็นคนพาเธอมาที่นี่?

งั้นใครเป็นคนบงการ? ชนุตร์งั้นเหรอ?

แน่นอนว่า ถ้าเป็นชนุตร์ก็มีปัญหาแล้ว

เนื่องจากเสียเลือดมาก สมองของวรินทรจึงค่อนข้างเลอะเลือน แต่ยังบังคับให้ตัวเองไม่สลบไปซะก่อน

มีแค่โอกาสนี้เท่านั้น ถ้าไม่คว้าไว้ให้ดี ก็จบแล้ว!

เธอไม่รู้ว่าชนุตร์กับมษยาพี่น้องคู่นี้ต้องการทำอะไร แต่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

ไม่แปลกที่เธอมักรู้สึกว่าทุกครั้งที่ชนุตร์ปรากฏตัวรอบตัวเธอมักเกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้น เป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้ามาก่อนแล้วนี่เอง!

มษยาแข็งแรงกว่าที่วรินทรคิด เธออุ้มวรินทรอย่างไม่เปลืองแรงมาที่โรงรถ วางวรินทรลง

แม้ว่าพวกเขาจะมีหมออยู่ที่นี่แต่กลับไม่สามารถให้เเลือดได้ วรินทรเองก็เดาไว้ว่ากรีดข้อมือแบบนี้ไม่ถึงชีวิต

แต่เธอก็ไม่มั่นใจนัก เธอไม่เคยกรีดข้อมือมาก่อนนี่

แต่ว่าครั้งนี้ เป็นการเดิมพัน เดิมพันเป็นตาย

ถ้าเธอไม่เดิมพัน ก็ได้แต่ต้องรอความตาย ถ้าเดิมพัน บางทีก็อาจถึงขั้นต้องสู้กันสักตั้ง แต่ไม่ลองก็ไม่มีทางรู้ได้ตลอดกาลว่าทำได้หรือไม่ได้

โชคดี ที่เธอวางเดิมพันถูกข้าง

โรงรถเป็นโรงรถใต้ดิน มษยาจึงพาเธอลงมาจากห้องด้วยทางลัดตรงมาที่โรงรถ

วิลล่าหลังนี้กับหลังอื่นใกล้กัน ต้องระวังไม่เคลื่อนไหวอะไรที่น่าผิดสังเกต ดังนั้นมษยาจึงไม่กล้าพาคนไปเยอะ อีกทั้งฝีมือเธอก็ไม่เลว วรินทรเป็นหญิงสาวที่ไม่มีแรงมัดไก่ เธอยิ่งไม่สนใจ จึงพาเธอไปโรงพยาบาลด้วยตัวคนเดียว

ตอนนั้นเองสมาชิกทีมของค่ายฝึกที่เฝ้าอยู่โดยรอบวิลล่า ก็รายงานเรื่องนี้ให้ทาวัตที่อยู่อีกด้านทราบ แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า วรินทรก็อยู่ในรถคันนั้นด้วย

วรินทรถูกวางบนที่นั่งด้านหลัง ที่ข้อมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้แล้ว เลือดไม่ไหลออกมาแล้ว เธอกรีดข้อมือซ้าย ดังนั้นมือขวาจึงยังเคลื่อนไหวได้อยู่ ในมือขวาของเธอ ถือขวดน้ำหอมที่หยิบมาจากห้องน้ำขวดนั้น

มษยาทุ่มสมาธิไปกับการขับรถ ไม่ได้ระวังเธอที่อยู่ตรงนี้ วรินทรเห็นโอกาสมาแล้วจึงพลิกตัวขึ้นนั่งกะทันหัน ยื่นขวดน้ำหอมออกไปแล้วฉีดเข้าที่ตาของมษยา

  มษยายังไม่ทันมีปฏิกิริยา ก็รู้สึกปวดแสบขึ้นมาฉับพลัน เมื่อลืมตาขึ้นก็พบแต่สีดำ มองไม่เห็นอะไรแล้ว แถมยังรู้สึกแสบสุด ๆ

“อ๊า…” เธอร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก ก่อนคิดได้ว่าตัวเองยังขับรถอยู่ จึงเหยียบเบรกกะทันหัน ตอนนั้นเอง วรินทรก็เปิดประตูรถแล้ววิ่งออกไป 

มษยาที่ดวงตามองไม่เห็นคิดจะไล่ตามไป แต่กลับไม่สามารถทำได้ตามที่อยาก เธอควานหาขวดน้ำแร่ออกมาทันที เปิดประตูรถออกไปล้างดวงตา

เนื่องจากวรินทรเสียเลือดมากร่างกายจึงอ่อนแรง วิ่งไปไม่กี่ก้าวก็หอบหายใจขึ้นมา แต่เพราะกำลังหนีอยู่ เธอจึงต้องกัดฟันวิ่งไปข้างหน้าต่อไป

วิ่งไปได้ไม่นาน เธอก็เห็นมษยาไล่ตามเธอมา เธอร้องเสียงต่ำ “ฉันต้องไปแล้ว” ก้าวขาออกวิ่งต่ออย่างรวดเร็ว

เธอเห็นมษยาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ วรินทรไม่มีแผนอะไรมากมาย เธอมองไปรอบ ๆ ก่อนเข้าไปซ่อนตัวในพุ่มดอกไม้ ก้มตัวลงต่ำ

มษยาไม่พบตัวเธอที่ซ่อนตัวอยู่ แต่กลับไล่ตามไปทางด้านหน้าต่อไปเรื่อย ๆ

ผ่านไปสักพัก วรินทรก็ลุกขึ้นยืน ปาดเหงื่อที่หน้าผาก ตบแก้มตัวเอง พยายามทำให้หัวที่วิงเวียนตื่นขึ้นมาบ้าง 

เธอจะล้มไม่ได้ เวลาแบบนี้ยังไงก็ล้มลงไม่ได้ มษยาอยู่ข้างหน้าเธอแม้ยังหาเธอไม่พบ แต่อีกฝ่ายจะต้องกลับมาหาเธอที่นี่แน่นอน เธอต้องรีบไปจากที่นี่

วรินทรก้าวออกมากจากพุ่มดอกไม้ สะบัดหัวก่อนก้าวไปสองสามก้าว ทันใดนั้นเบื้องหน้าก็ดำมืด เธอหน้ามืด

“คุณ คุณยังโอเคมั้ยครับ? คุณ?” เสียงหนึ่งถามไถ่เธออย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล แต่วรินทรทนไม่ไหวแล้ว ในหัวถูกความมืดจู่โจม เธอหมดสติไป 

เดิมทีทศพรมาหาคนคนหนึ่งที่นี่ ไม่คิดว่าจะมาพบเรื่องพรรค์นี้เข้าได้

ผู้หญิงคนนี้กรีดข้อมือเสียเลือดมากจนสลบไป แม้จะเป็นอย่างนั้นกลับยังวิ่งออกมาข้างนอก บางที อาจถูกใครไล่ตามมา

เป็นเรื่องยุ่งยากอะไรขนาดนี้ เขาจะช่วยหรือจะทำเป็นไม่เห็นดีล่ะ?

ทศพรย่อกายลง ก่อนปัดเส้นผมที่ปรกใบหน้าของวรินทรออก เผยให้เห็นใบหน้าละมุน คิ้วราววาด ผิวเอิบอิ่ม ริมฝีปากชมพูแม้จะเผือดสี รูปปากกลับสวยมาก ประกายตะลึงค้างวาบผ่านนัยน์ตาของเขา   

เป็นใบหน้าที่เหมือนคุ้นเคย เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

“เพราะเธอทำให้นายท่านอย่างฉันสนใจขึ้นมาได้ งั้นฉันจะยอมฝืนใจพาเธอออกไปจากที่นี่เองแล้วกัน” ทศพรพูดเสียงเบากับตัวเอง จากนั้นก็อุ้มวรินทรขึ้น มุ่งไปยังรถมาเซราตีของตัวเองคันนั้น 

เขาพาวรินทรออกไปไม่นาน มษยาที่หาวรินทรไม่พบก็กลับมา หารอบ ๆ นี้จนหมดแล้ว กลับหาไม่เจอเลย

“สมควรตาย!” เธอสบถ หยิบมือถือออกมาโทรรายงานชนุตร์

ตอนนั้นเอง ทาวัตกับปกเกศที่ใกล้ถึงวิลล่าเลขที่ยี่สิบเจ็ด กลับไม่รู้ว่า วรินทรจากไปแล้ว

ทาวัตให้คนในทีมจากค่ายฝึกค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในวิลล่า จากนั้น เขากับปกเกศก็เข้าไปทางประตูใหญ่อย่างผ่าเผย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์