หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 263

ตอนที่ 263 เขายังจะต้องกลัวอะไรอีก?

“คนที่สามารถทำให้ฉันเสียมือดีไปมากมายขนาดนี้ในครั้งเดียว ก็คือคุณชายธัมรุจินันท์นี่เอง” ทาวัตและปกเกศก้าวเข้าไปในวิลล่า เงาร่างหนึ่งก็เดินลงมาจากชั้นบน

เหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าต่อให้เขาไม่ออกมาตอนนี้ ไม่ช้าก็ต้องออกมาอยู่ดี ดังนั้นเขาจึงยอมออกมาเอง

เหมือนที่ทาวัตและกวินคาดเดา เป็นชนุตร์

เขาไม่มีอะไรต่างไปจากแต่ก่อน บนร่างสวมชุดลำลองสีขาว บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นผ่อนคลาย มือทั้งคู่ล้วงกระเป๋ากางเกง ก้าวลงมาทีละก้าว

ทาวัตรู้อยู่แล้วว่าเป็นเขา จึงไม่แปลกใจแม้แต่นิดเดียว พลางมองอีกฝ่ายเดินลงมา ทั้งยังไม่เกรงกลัวชายชุดดำที่รายรอบซึ่งเล็งปืนมาที่ตัวเองเลยสักนิด เย็นชาเหมือนดังที่เคยเป็นมา นัยน์ตาฉาบด้วยแผ่นน้ำแข็งเย็นเยือก

“ฉันไม่ได้มาเพื่อพูดจาไร้สาระกับนาย จะพาตัววรินทรออกมาเอง หรือจะให้ฉันเหยียบศพนายไปพาเธอออกมา เลือกซะ” เขาพูดอย่างนุ่มนวลและไม่รีบร้อน ราวกับกำลังพูดว่าอาหารวันนี้ไม่เลว

ชนุตร์หัวเราะออกมาเบา ๆ เดินลงมาจากชั้นบน มือยกขึ้นส่งสัญญาณ ให้คนของตัวเองลดปืนในมือลง “คุณชายธัมรุจินันท์อย่าได้รีบร้อนไป คุณสามารถหาผมเจอถึงที่นี่ ย่อมต้องสามารถพาวรินทรออกไปได้แน่ เพียงแต่ว่า ฝีมือของคุณ จะสู้ผมได้มั้ย?”

เขายังไม่รับสายมษยาที่โทรเข้ามา จึงไม่รู้ว่าวรินทรหนีไปแล้ว

“ปากดีนักนะ” ทาวัตพูดสี่พยางค์นี้ออกมาอย่างเย็นชา นัยน์ตาสีดำจับจ้องมองชนุตร์ตาไม่กะพริบ จึงพบว่าแม้ท่าทางของชนุตร์จะเรียบเรื่อย แต่กลับแฝงด้วยความมั่นใจและหยิ่งทะนง

เหมือนกับว่า อีกฝ่ายกำลังรอดูว่าเขายังมีไพ่ตายอะไรในมือที่เหนือกว่าอีก

แต่ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ ทาวัตก็รู้แล้วว่าชนุตร์เอาวรินทรมาซ่อนไว้ที่นี่ ยิ่งกว่านั้นยังตัดคลื่นสัญญาณบนตัววรินทร ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว เขายังจะต้องกลัวอะไรอีก?

ไม่พาวรินทรออกไป เขาไม่มีทางยอมแพ้

“คุณชายธัมรุจินันท์จะลองดูก็ได้ ผมก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่าสุดท้ายแล้วพวกคุณสองคนจะเร็วกว่า หรือว่าคนของผมจะยิงวรินทรทิ้งได้เร็วกว่ากัน” ชนุตร์ยิ้ม เป็นทั้งรอยยิ้มปีศาจและทั้งนุ่มนวล นัยน์ตากลับแฝงความเย็นชา

ถ้าให้วรินทรได้มาเห็นตอนนี้ จะต้องประหลาดใจมากแน่

มีคนที่ขีดเส้นแบ่งความอบอุ่นและเย็นชาได้ชัดเจนขนาดนี้ได้ยังไง อย่างกับเป็นคนละคน

ทาวัตสีหน้าคล้ำดิ่ง มือทั้งคู่กำแน่น มุมปากยกขึ้น มองสายตาที่แสดงออกว่าไม่ยอมแพ้สักนิดของเขา “ฉันจะลองดู!”

ในนาทีที่เงื้อดาบง้างธนู อยู่ ๆ ประตูใหญ่ก็เปิดออก มษยาก้าวเข้ามา

ทาวัตเอียงใบหน้าไปมอง ดวงเย็นชาส่งสัญญาณให้ปกเกศ

  ปกเกศรู้ได้ในทันที เขาพุ่งเข้าไปหามษยาอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอคิดอยากจะป้องกันตัวก็ถูกเขาจับตัวไว้เสียแล้ว นิ้วมือกดลงไปที่ลำคอของเธอ หากเธอขยับแม้แต่นิดเดียว ก็สามารถบิดคอหักได้ในทันทีโดยไม่ลังเล

มษยามองไปทางชนุตร์ ด้วยแววตาขอโทษ

แววตาของชนุตร์เยียบเย็นลง ใบหน้าเผือดสี ฉายแววไม่พอใจ

“ถ้านายไม่อยากให้น้องสาวสุดที่รักของตัวเองเผลอถูกหักคอทิ้ง ทางที่ดีก็ปล่อยตัววรินทรออกมาเดี๋ยวนี้!” ปกเกศขยับมือบีบคอมษยาให้แน่นขึ้น ตามคำพูดของทาวัต ใบหน้ามษยาแดงคล้ำขึ้นมาทันที อ้าปากหายใจอย่างยากลำบาก

ชนุตร์อยากพุ่งออกไปช่วยมษยา แต่เมื่อเห็นท่าทางทรมานของมษยาก็ต้องหยุดตัวเองไว้ นัยน์ตาปรากฏวี่แววไม่ยินยอม

“เจ้านาย หาคุณวรินทรไม่พบครับ ในห้องลับของวิลล่าก็หาไม่พบครับ!” หนึ่งในสมาชิกทีมค่ายฝึกไม่รู้ปรากฏตัวมาจากไหน ปราดมาอยู่ข้างกายทาวัต พลางรายงาน

  ชนุตร์เบิกตากว้าง มองคนคนนั้นด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ ก่อนมองไปทางทาวัตอีกครั้ง

  ทาวัตส่งคนเข้ามาหาคนในวิลล่าของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่ห้องลับก็เข้าไปหามาแล้ว!

นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้าคนของทาวัตเข้ามาไม่มีทางที่คนของเขาจะไม่สังเกตเห็น!

“นายแน่ใจ?” นัยน์ตาทาวัตเย็นเยียบ มองสมาชิกในทีมด้วยสายตาแช่แข็ง ลมหนาวพัดผสาน“แน่…แน่ใจครับ คุณวรินทรไม่ได้อยู่ในวิลล่าจริง ๆ ครับ!” สมาชิกในทีมคนนั้นรู้สึกหนาวสันหลังวูบ ยืดตัวตรง ก่อนตอบ   

“อ๊ะ!” มือปกเกศขยับรวบแน่นขึ้นทันที ทำให้มษยาที่เดิมทียังพอหายใจได้บ้างร้องออกมา ปากอ้ากว้าง หน้ากลายเป็นสีตับหมู มือไร้แรงทั้งสองข้างพยายามดึงมือปกเกศออก

“มษยา!” ชนุตร์อยากพุ่งเข้าไปช่วยเธอ แต่กลับถูกคนของทาวัตขวางไว้ อีกทั้งคนของเขาซึ่งเล็งปืนไปที่ทาวัตเมื่อครู่ไม่รู้ว่าร่วงลงไปกองกับพื้นตอนไหน บนคอปรากฏบาดแผลซึ่งมีเลือดสีแดงสดแผลหนึ่ง

“ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้งหนึ่ง วรินทรอยู่ที่ไหน” ทาวัตหยิบมีดทหารออกมา นาบใบมีดไปที่หน้ามษยาอย่างไม่เร็วไม่ช้า

รอยยิ้มของเขาทั้งเย็นเยียบและดำมืด ทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ไม่มีใครสงสัยเลยว่า เขาจะกล้าใช้มีดเล่มนั้นกรีดใบหน้ามษยาหรือไม่

ชนุตร์กำมือแน่น ในใจไม่ยินยอม สีหน้าไร้กำลัง ไร้ทางเลือก

“เธอเพิ่งถูกมษยาพาไปส่งโรงพยาบาลเมื่อกี้”

“โรงพยาบาลไหน?” มีดในมือทาวัตยังไม่ละออก เขาถามต่อ

มษยาเหลือบมองมีดที่ทาบอยู่ข้างแก้มตัวเอง พอได้ยินชนุตร์พูดขึ้นก็เสริมทันทีว่า “อยู่ที่โรงพยาบาลนภัทร ฉันพาเธอไปส่งด้วยตัวเอง!”

ทาวัตยิ้มเย็น ใช้สายตาราวมองคนปัญญาอ่อนมองเธอ กดมีดที่อยู่ในมือ กรีดลงบนใบหน้าเธอเป็นบาดแผลเรียกเลือด กล่าวด้วยเสียงเย็นชา สติเฉียบแหลม “พวกแกแน่ใจ?”

“รอก่อน! เธอถูกมษยาพาส่งไปโรงพยาบาลแล้วก็จริง แต่หนีไปแล้ว!” ชนุตร์เห็นบาดแผลเลือดไหลบนใบหน้ามษยา ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

หนีไปแล้ว?

ใจของทาวัตผ่อนคลายลง มีดที่กดข้างแก้มมษยาก็ผ่อนลงเล็กน้อย ขณะที่คิดจะปล่อยกลับเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ นัยน์ตาเย็นชาวาบความกระหายเลือด 

“ทำไมวรินทรถึงถูกเธอพาส่งไปโรงพยาบาล?”

มษยากับชนุตร์สันหลังเย็นวาบ

แย่แล้ว เกือบลืมข้อนี้ไปเลย แต่เป็นเพราะวรินทรกรีดข้อมือฆ่าตัวตายแล้วเสียเลือดมากเกินไปจนถูกพาไปส่งโรงพยาบาลเองนะ 

มษยาไม่กล้าพูด เธออยู่ใกล้ทาวัตจนสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของชายผู้นี้ ราวกับเขาสามารถฆ่าคนด้วยความเย็นได้

แม้ไม่ใช่พวกเขาเป็นคนลงมือทำ แต่กลับเป็นเพราะพวกเขา

“กรีดข้อมือ” ดวงตาชนุตร์วาบความรวดร้าว แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่สังเกตดี ๆ ก็ไม่มีทางรู้ได้

วรินทรเลือกที่จะกรีดข้อมือตัวเอง เขาเองก็คาดไม่ถึง

  เขาไม่ได้อยากทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่ว่า เขาเองก็ไม่มีทางเลือก ไม่มีอิสระที่จะเลือกได้

ดวงตาทั้งคู่ของทาวัตเหมือนมีพายุร้ายพัดพานทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลมหายใจทุกคนเย็นเยียบจนถึงกระดูก มุมปากของเขายกขึ้นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม กลับทำให้คนรู้สึกว่า ไม่กล้าเข้าใกล้มากขึ้น 

ขณะที่เขายกยิ้มขึ้น รอยยิ้มก็ดูเย็นเยียบมากขึ้นเรื่อย ๆ นัยน์ตาสีดำที่สาดประกายเฉียบคมคู่นั้น ราวกับมีแผ่นน้ำแข็งบนธารน้ำแข็งกำลังแตกสลาย เมื่อมองรอยยิ้มของเขา ก็ไม่มีทางมองข้ามความเย็นเยียบนั้นได้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์