หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 266

ตอนที่ 266 คิดว่าตัวเองเป็นใคร?

“ในเมื่อมีแผน แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก? ได้ ฉันไปเอง” วรินทรที่อัดอั้นตันใจอยู่ตั้งนานก็คลายลง มองอย่างระอา พูดตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง ทำให้เธอต้องมานั่งคิดจนเซลล์สมองเธอจะตายหมดแล้ว ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี

เขาหัวเราะ “เธอพูดแบบนี้ก็โทษฉันนั้นซิ ฉันจะบอกให้ คืนนี้เธอไม่ต้องทำอะไร รอฟังคำสั่งฉันก็พอ”

“ฟังก็พอคิดว่าตัวเองไปใคร? ถึงคุณจะเป็นคนช่วยชีวิตฉันกับสิ่งที่คุณยโสโอหังมันคนล่ะเรื่องกัน อย่าเอาเรื่องนี้มาทำเป็นอวดเก่ง” วรินทรมองดูเด็กคนนี้ ทั้งๆที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ แต่ชอบทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ ก็เลยอดที่จะสั่งสอนไม่ได้

คงเป็นเพราะตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเธอ ทศพรก็ไม่พูดอะไรต่อ

วรินทรแอบยิ้มในใจ อย่างน้อยตนก็มีลูกแล้วคนหนึ่ง มีหรือจะเกรงกลัวเด็กแบบนี้?

ห่างจากป่าไปไม่ไกล กวินได้หาพบตำแหน่งที่อยู่ที่ชัดเจนของวรินทร ในเกาะนี้ถึงแม้จะมีระบบปิดสัญญาณที่ตั้ง แต่ดีที่ไม่ได้มีไว้เพื่อป้องกันพวกเขา ก็เลยสามารถถอดรหัสเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

กวินหยิบมือถือออกมากำลังจะรายงานทาวัต ก็ได้ยินเอพูดขึ้นว่า “กวิน ดูนั่นซิ แม่เธอไม่ใช่หรอ?”

เอชี้ไปที่รถมาเซราติที่วิ่งออกมาจากป่าแล้วพูดขึ้น ยื่นกล้องส่องทางไกลให้กวินดู

กวินรับกล้องส่องทางไกลมาดู ถ้าเป็นแม่ของเขาจริง แล้วทำไม......ทำไมถึงใส่แค่เพียงเสื้อสายเดี่ยวแล้วอยู่กับหนุ่มหล่ออีกคน?

เป็นไปไม่ได้......แม่จะหาหนุ่มน้อยหน้าหล่อได้เร็วขนาดนี้เลยหรือ?

“เอเอ รีบตามรถคันข้างหน้าไป” กวินวางกล้องส่องทางไกล มือน้อยๆชี้ไปที่รถมาเซราตินคันที่วรินทรนั่งอยู่แล้วพูดขึ้น เขาจะไม่ยอมให้ใครมาล่อลวงแม่ของเขาไปเด็ดขาด

เอปาดเหงื่อ อยากขอร้องกวินอย่าเรียกเขาว่า “เอเอ” แบบไม่แบ่งเด็กแบ่งผู้ใหญ่แบบนี้ ฟังแล้วเหมือนเธออายุน้อยกว่าเขาไปตั้งหลายปี

รถของเอขับตามอยู่ข้างหลังรถมาเซราติน รักษาระยะห่างไว้ระดับหนึ่ง ในคอมกวินมีตำแหน่งที่แน่นอนของวรินทร จึงไม่ต้องกลัวว่าจะตามไม่ทัน

“กวินรอแปบนึง ที่นี่ก็มีคนของเรา เดี๋ยวฉันหาข้อมูลก่อน” เอพูดขึ้น แล้วหยิบโน้ตบุ๊กที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมา ตรวจอ่านดูข้อมูลตรงหน้าอย่างรวดเร็ว “วันนี้บนเกาะมีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ45ปีของทัศน์พลที่เป็นเจ้าของเกาะ ได้เชิญแขกผู้มีฐานะที่อยู่บนเกาะมากมาย ถ้าพวกเราจะเข้าไป จะต้องมีการ์ดเชิญ”

“ปลอมมาสักฉบับ?” กวินเงยหน้ามองเอ ดวงตากลมโตกระพริบไปมา

เอมองดูกวินอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ยื่นมือไปหยิกแก้มน้อยนุ่มๆ “ไป เดี๋ยวพี่สาวจะพาเธอเข้าไปทางประตูใหญ่อย่างมีเกียรติ แต่พวกเราต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อน”

กวินไม่ได้ปฏิเสธ แต่เบือนปากน้อยๆ แล้วเห็นแก่ที่เธอจะพาเข้าไปจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ

ในคฤหาสน์ งานเลี้ยงเตรียมไว้อย่างพร้อมเพียงแล้ว รอให้แขกผู้มีเกียรติมากันครบแล้วก็จะเริ่มงานฉลองกัน

วรินทรควงแขนทศพรแล้วเดินเข้างานไปด้วยกัน ตั้งแต่เคยพบเห็นคฤหาสน์ของทาวัตแล้ว เมื่อมาเห็นความยิ่งใหญ่งดงามหรูหราของที่นี่จึงไม่มีอาการตื่นเต้นใดๆ พูดได้เพียงว่าทัศน์พลนั้นรู้จักเสพสุขจริงๆ

เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ล้วนเป็นของมีระดับ สวยงามและประณีต จนไม่อาจบรรยายได้

บรรยากาศไฮโซ หรูหรา อลังการ

คฤหาสน์ส่วนตัวของทศพรถ้าเทียบกับที่นี่ ถึงแม้จะไม่ค่อยต่างกัน แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกเสพสุขขนาดนี้ และไม่หรูหราขนาดนี้ แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน

ถ้าเทียบกับที่นี่ วรินทรคิดว่าที่บ้านของทศพรต่างหาก ที่เหมือนบ้านที่คนอาศัยอยู่กัน ต่อให้หรูหราขนาดไหน ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ยังเป็นภาระทางสายตาอีก“คุณชาย ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ” ชายวัยกลางคน คนหนึ่งที่ดูเหมือนพ่อบ้านพาคนใช้หลายคนเดินเข้ามา กล่าวทักทายทศพร

“อืม ฉันแค่กลับมาดู เดี๋ยวก็จะไป” ทศพรตอบอย่างเฉยเมย สายตามองไปรอบๆ ไม่มีความยินดีแบบคนที่ได้กลับมาบ้านเลย มีแต่ความเย็นชา

พ่อบ้านได้ยินแล้วก็รีบเดินเข้ามาพูดว่า “อย่าเลยครับ คุณชาย ถึงคุณผู้ชายจะไม่พูดอะไร แต่ในใจก็คิดถึงแต่คุณชายนะครับ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณผู้ชาย ถึงยังไงคุณชายก็ควรจะอยู่ปรนนิบัติกตัญญูท่านก่อนไม่ใช่หรือครับ?”

ฟังพ่อบ้านพูดแบบนี้แล้ว ทศพรสีหน้าไม่พอใจ “ฉันไม่สนใจ” มองพ่อบ้านอย่างไม่แยแส “กตัญญูอะไร? ชายชรานั่นมีคนปรนนิบัติกตัญญูอยู่แล้วไม่ใช่หรอ เอาฉันที่เป็นส่วนเกินไป....โอ๊ยเจ็บ”

พูดยังไม่ทันจบ เขาก็รู้สึกว่าที่ท้ายทอยเจ็บแปลบขึ้นมา เขาจ้องมองวรินทร “เธอทำอะไร?”

วรินทรมองเขาอย่างเฉยเมย สีหน้าปกติ ดวงตาแฝงด้วยแววตาที่เตือนสติ “ต่อให้เธอจะเป็นส่วนเกินขนาดไหน เขาก็เป็นพ่อแท้ๆและมีสายเลือดเดียวกันกับเธอ”

“เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอเป็นอะไรกับฉัน.....โอ๊ย” ทศพรยื่นมือลูบท้ายทอย ในใจทุกข์ยิ่งกว่าเดิม คราวนี้ ภาพลักษณ์อะไรก็ไม่เหลือแล้ว

เขาทำไมถึงช่วยผู้หญิงแกร่งแบบนี้กลับมาบ้าน? ใครตอบเขาได้บ้าง เขาอยากส่งผู้หญิงคนนี้กลับไปได้ไหม?

เสียง “โอ๊ย”สุดท้าย เขาร้องจากเสียงต่ำไปถึงเสียงสูง ความเร็วที่เปลี่ยนเสียงเร็วจนลิ้นพันกัน

เพราะวรินทรตีท้ายทอยเขาอีกครั้ง

เธอไม่ชอบเด็กสามหาวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ แต่เธอก็ชอบสั่งสอนเด็กแบบนี้มาก

กับเธอที่มีพ่อแต่ไม่สามารถพบเจอได้อีก ทำได้เพียงแค่คิดถึง เขาที่มีพ่อยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้า จะมาประชดประชันอะไร?

น่าทุบตีจริงๆ

สายตาพ่อบ้านเป็นประกายขึ้นมาทันที มองวรินทรแล้วถามอย่างมีมารยาทว่า “คุณหนูท่านนี้คือ?”

กล้าลงไม้ลงมือกับคุณชายของพวกเขาที่เหยียดหยามทุกสิ่งเหมือนปีศาจน้อย และคุณชายก็ไม่เอาคืน ไม่แน่อาจจะสามารถลงมือผ่านเธอ

วรินทรมองผ่านแววตาอาฆาตของทศพรแล้วหันมายิ้มน้อยๆที่มุมปาก พูดกับพ่อบ้านอย่างมีมารยาทว่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อวรินทร เป็นคู่ควงของทศพรในค่ำคืนนี้ค่ะ”

คู่ควง? สายตาทั้งคู่ของพ่อบ้านเป็นประกาย คราวนี้ต้องมีอะไรเป็นแน่

“สวัสดีครับ คุณวรินทรผมเป็นพ่อบ้านของที่นี่ชื่อดาลปครับ” น้ำเสียงพ่อบ้านมองเธออย่างค่อนข้างตื่นเต้น “คุณวรินทรเพิ่งมาครั้งแรก ให้คุณชายพาเที่ยวชมรอบๆ ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมต่างๆดีไหมครับ?”

“เที่ยวชมอะไร เดี๋ยวก็จะไปแล้ว” ทศพรไม่พอใจกับสิ่งที่พ่อบ้านแสดงออก เขาเป็นคุณชายตัวจริงยืนอยู่ตรงนี้ กลับไปเอาอกเอาใจผู้หญิงที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้องใดๆทำไม?

พ่อบ้านทำเป็นมองไม่เห็นสายตาเขา มองวรินทรด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ทีแรกวรินทรก็อยากปฏิเสธอยู่ ยังไงก็บ้านคนอื่น เที่ยวชมหรือไม่เที่ยวชมก็ไม่เป็นไร แต่พอได้ยินทศพรพูดแบบนั้นแล้วเธอก็เลยเปลี่ยนใจ

“ดีค่ะ” เธอยิ้มตอบ แววตาสดใสระยิบระยับดั่งละอองแสงตะวัน

ทศพรสีหน้าอย่างกับกลืนแมลงวันเข้าไป พาวรินทรเที่ยวชมรอบบ้านอย่างไม่เต็มใจ

“พ่อบ้านอยู่มาจนแก่เฒ่าแล้ว นึกว่าฉันไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่หรือไง ชิ”

วรินทรกำลังชื่นชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ พร้อมฟังเสียงบ่นงึมงำของทศพร จนอดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างสมน้ำหน้า จากห้องรับแขกมาจนถึงตรงนี้ เขาบ่นมาห้านาทีแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์