หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 267

ตอนที่ 267 ได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็ก

เด็กผู้ชายยังไงก็ยังเป็นเด็กผู้ชาย ระหว่างครอบครัวจะเป็นศัตรูกันได้ยังไง

คฤหาสน์ตระกูลเพิ่มสินยิ่งใหญ่มาก ต้นไม้เยอะพอสมควร ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ถึงว่า ทำไมทศพรถึงอาศัยอยู่ในป่าแบบนั้น คงเพราะชินหูชินตามาตั้งแต่เด็ก

ในบริเวณคฤหาสน์เต็มไปด้วยต้นมะเดื่อ ใบสีเขียวชอุ่ม ดูแล้วมีสีสันสดใส

ทศพรมองเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่ง แววตาเป็นประกาย ลากวรินทรเดินไปยังต้นไม้ต้นนั้น

“เธอซ่อนอะไรไว้ในนี้หรือ?” วรินทรมองอย่างเคยชิน แววตาแบบนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหน

เคยเห็นที่ไหนล่ะ?

คิดออกแล้ว เมื่อครั้งยังเด็ก สมัยประถมคะแนนวิชาคณิตของเธอแย่มาก ถ้าหากไม่มีทาวัตคอยติวเข้มให้ เธอคงได้อันดับหนึ่งนับจากข้างหลังตลอดเป็นแน่

มีครั้งหนึ่งเธอสอบได้ยี่สิบกว่าคะแนน ไม่กล้าเอาให้ทาวัตดู ผลสอบของเธอคุณแม่ไม่เคยดู เพราะมีทาวัตคอยดูอยู่ เธอจึงวางใจ

แล้วก็เพราะครั้งนั้น วรินทรไม่ได้รอทาวัต รีบวิ่งกับบ้านเองคนเดียว กะว่าจะทำลายผลคะแนนทิ้งก่อนที่ทาวัตจะเห็น

เธอไม่กล้าซ่อนไว้ในบ้านพูลสวัสดิ์ กลัวคุณแม่หรือคนใช้พบเห็นเข้าตนจะขายหน้า

เธอก็เลยเอาซ่อนไว้ที่บ้านธัมรุจินันท์ แต่ไม่ว่าเธอจะซ่อนไว้ที่ไหนก็ยังไม่วางใจ จึงคิดหาวิธีเอาจอบเล็กๆที่เป็นของเล่นตนจากบ้านพูลสวัสดิ์ ไปขุดหลุมใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่สวนบ้านธัมรุจินันท์ แล้วเอาผลสอบฝังไว้ในนั้น

เธอฝังอย่างระมัดระวัง มองระวังด้านหลังอยู่บ่อยๆ กลัวทาวัตจะโผล่มาเจอ ในใจก็พึมพำว่า “อย่ามีใครเห็น อย่ามีใครเห็น” เพราะแบบนี้แล้วก็จะสามารถปิดบังทาวัตได้

น่ารักซื่อๆอย่างวรินทรเมื่อเห็นทาวัตถือเค้กเกาลัดกลับมา หัวสมองเหมือนเป็นตะคริว เมื่อทาวัตถามหาผลสอบของเธอว่าอยู่ไหน เธอก็บอกทาวัตว่า “ฉันฝังไว้ใต้ต้นไม้อย่างดีเลย ฉันฉลาดไหม?”

เมื่อคิดถึงความซื่อบื่อของตนที่ไปบอกทาวัตว่าตนฝังผลสอบไว้แล้วนั้น วรินทรก็อดไม่ได้ที่จะเอามือปิดหน้าตัวเอง สติปัญญาแบบนี้เป็นตั้งแต่เล็กจนโต

สมัยเป็นเด็กถูกทาวัตรังแกจนโต ถึงตอนนี้ถูกเขาวางกลก็ยังยินยอมโดดลงไปในกลให้เขารังแก

หลังจากนั้น ก้นน้อยๆของวรินทรก็หนีไม่พ้นไม้เรียว ร้องไห้อย่างน่าสงสาร เช็ดน้ำตาไปด้วยกินเค้กเกาลัดไปด้วย ต้องทำแบบฝึกหัดที่ทาวัตให้อย่างสะอึดสะอื้นจนเสร็จถึงได้เข้านอน

ตอนนี้เมื่อหวนคิดถึง ภาพในตอนนั้นก็ยังทำให้รู้สึกมีความสุข

ถ้าเธอไม่มีความพยายาม แค่เค้กเกาลัดไม่กี่ชิ้น ก็โดนทาวัตล่อลวงไปได้อย่างตามใจแล้ว

“ข้อสอบ”ทศพรขุดดินไปด้วย ตอบเธอไปด้วย

วรินทรแววตาลุกเป็นวาว เธอเดินไป ที่แท้ก็ยังมีคนที่ฉลาดเหมือนเธอ รู้จักเอาข้อสอบฝังไว้ใต้ต้นไม้

“เธอก็ซ่อนข้อสอบไว้ในนี้หรอ?” วรินทรถามอย่างสนใจ คุกเข่าแล้วช่วยขุดดิน และแล้วก็ขุดพบริมของกล่องโผล่ออกมาจากดิน

ทศพรปรับสภาพดินโดยรอบ หยิบเอากล่องนั้นขึ้นมา เวลาผ่านไปนานแล้วก็เลยติดแน่น จึงออกแรงดึงกล่องนั้นออกมาแล้วนั่งลงเปิดกล่องนั้น

ข้างใน มีข้อสอบเต็มไปหมด แต่รูปไข่วงกลมสีแดงบนข้อสอบนั้นเด่นชัดมาก

โอ้โห

วรินทรกลืนน้ำลาย อย่างน้อยตั้งแต่เล็กจนโตเธอสอบได้คะแนนยี่สิบกว่าแค่ครั้งสองครั้ง และอย่างน้อยเธอก็ไม่เคยสอบได้คะแนนเป็นศูนย์

ทศพรคนนี้ น่าทึ่งจริงๆ แขวนโคมลอยสีแดงตลอดได้ยังไง ฝีมือแบบนี้เข้าใจทำได้ยังไง?

“สมัยเด็กเธอก็เคยทำแบบนี้?” ทศพรถามวรินทร

“มีครั้งเดียว แต่ก็โดนจับได้แล้ว” แววตาวรินทรอ่อนโยน มองข้อสอบพวกนั้น แล้วหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต

“งั้นเธอช่างโชคร้าย ฉันไม่เคยถูกจับได้เลย” ทศพรรู้สึกภาคภูมิใจ “ของพวกนี้ถือเป็นสิ่งของที่สำคัญในชีวิตฉันมาก”

“วรินทรมองด้านข้างหน้าเขา ดวงตาประกายความสุข แววตาแฝงความคิดถึง”

“เธอยังคงรักพ่อของเธอมากใช่ไหม” เธอถาม

ทศพรตอบว่า “ใช่ คุณแม่เสียไปนานแล้ว ฉันสนิทกับเขามาก แต่ชายชรานั่นกลับนอกใจแม่ตั้งแต่ไหนแต่ไร แอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น”

วรินทรฟังอย่างเงียบๆ เรื่องแบบนี้ เมื่อใครได้พบเจอ ล้วนรับไม่ได้ทั้งนั้น

“ถึงแม้พวกเขาจะเคยตรวจDNAแล้ว ฉันก็ยังไม่เชื่อ เขาไม่ใช่พี่น้องฉันแน่” ทศพรพูดอย่างมีอารมณ์โกรธ “และตราบที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ เขาก็อย่าแม้แต่จะคิดมาเหยียบตระกูลเพิ่มสิน”

วรินทรขมวดคิ้ว “เธอรู้ได้ไง ว่าเขาไม่ใช่สายเลือดตระกูลเพิ่มสิน”

การตรวจดีเอนเอไม่น่าเท็จ น่าจะเป็นเพราะทศพรยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้มากกว่า

แต่ว่า เรื่องที่ชนุตร์เป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเพิ่มสินนั้น ช่างน่าตกใจจริงๆ

เรื่องนี้วรินทรรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เรื่องนี้ไม่ง่ายแบบนั้นแน่ๆ

ทศพรถอนหายใจ “ตอนนี้มีอะไรที่ปลอมไม่ได้?”

“เขาจะทำแบบนั้นทำไม?” วรินทรมองเขาอย่างสงสัย ท่าทางเขาหนักแน่นมาก ทำให้วรินทรไม่เข้าใจ

“ชนุตร์คนนั้น ไม่เหมือนพ่อฉันเลย จิตใจก็อำมหิต ไม่งั้นเขาจะจับตัวเธอมาทำไม?” ทศพรถามกลับวรินทร เขาไม่ชอบชนุตร์ ไม่เพียงแค่เพราะเขาเป็นลูกนอกสมรส แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก

กับคำถามของทศพร วรินทรไม่มีข้อโต้แย้ง

“เขาอันตราย เขาน่าจะทำเพื่อให้ได้อำนาจสืบทอดเกาะนี้” ทศพรครุ่นคิด

วรินทรไม่คาดคิด “งั้นเธอจะทำยังไงต่อ?” วรินทรถามเขา แล้วฝังกล่องเหล็กนั้น ตบฝุ่นในมือทิ้ง

“บอกไปแล้ว เธอจะช่วยฉันได้หรอ?” ทศพรพูดอย่างเฉยเมย “เธอช่วยฉันให้หลบพ้นคืนนี้ได้ก็พอ เรื่องอื่นเธอไม่ต้องคิด”

วรินทรเม้มปากอย่างมั่นใจ “ดูถูกผู้หญิง เรื่องบางเรื่อง ผู้หญิงทำสะดวกกว่าผู้ชายเยอะ”

ทศพรกำลังคิดจะเถียง กลับมองเห็นพ่อบ้านเดินมา จึงรีบปิดปาก

“คุณชาย คุณวรินทรครับ คุณผู้ชายเรียนเชิญครับ” พ่อบ้านพูดอย่างนอบน้อม

วรินทรมองเมินทศพร ในที่สุด เด็กคนนี้ก็ปากไม่ตรงกับใจ ความดีใจที่แสดงออกบนใบหน้าชัดเจนมาก

เมื่อกลับมาถึงห้องโถง เค้กได้ถูกตัดแล้ว ทัศน์พลมองเห็นวรินทรทั้งสอง จึงขอตัวจากคนรอบข้างแล้วเดินไปหา

ทศพรชะงักฝีเท้า มองไปที่อื่นอย่างเก้อเขิน

“เด็กเวร ถ้าไม่เรียกก็ไม่รู้จักกลับมาก” ทัศน์พลพูดจบ มือก็ตบไปที่หัวทศพร

วรินทรอึ้ง ช่างสมเป็นพ่อลูกกันจริงๆ แม้แต่นิสัยก็เหมือนกันขนาดนี้

ทศพรคลำหัวตนเอง มองทัศน์พลอย่างโมโห “ชายชรา กล้าตีผมหรอ”

“ฉันเป็นพ่อแก ตีแกแล้วจะทำไม?” ทัศน์พลพูดพลาง แล้วยังตีอีกหลายที “ฉันพอใจที่จะตียังไงก็จะตีอย่างนั้น”

“ถ้ายังตีอีก ผมก็จะออกไป” ทศพรพูดขู่

ใครจะไปคิดว่าเมื่อทศพรพูดคำนี้ออกมาแล้ว ทัศน์พลยิ่งออกแรงตีอีกสองที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์