หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 269

ตอนที่ 269 ไพ่ที่เหนือกว่า

เธอมองผู้ชายที่เช็ดมือให้เธอ แล้วหัวเราะ ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงอาฆาตแค้นได้ขนาดนี้?

สีหน้าชนุตร์เเคร่งเครียด ถึงจะไม่ได้ตอบกลับ แต่สีหน้าก็แสดงถึงความไม่พอใจแล้ว

แต่ว่า เขายังมีไพ่ที่เหนือกว่า

“วรินทร คุณลืมประภาพแล้วหรอ?” ชนุตร์พูดอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

ทาวัตคิ้วขมวด รู้สึกได้ถึงความกังวลของร่างน้อยในอ้อมกอด

เขายื่นมือ ลูบหลังปลอบประโลมเธอ

“คุณคิดให้ดีๆ โอกาสจะมีครั้งเดียว” เสียงของชนุตร์ดังก้องเขามาในหู ทำให้ในใจเธอกระสับกระส่าย

เธอไม่สามารถปล่อยให้ประภาพตายไปต่อหน้าต่อตา

แต่ยังไม่ทันที่วรินทรจะตัดสินใจ กระสุนปืนถูกยิงเข้าใส่ชนุตร์ ชนุตร์ระวังตัวไว้อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังถูกยิงเฉียดแขนไป เลือดไหลเป็นทาง

เขายกแขนขึ้นมาดูรอยเลือด แล้วสะบัด มองทาวัตอย่างสะใจ

“คุณคิดว่า ที่ผมมา จะไม่ได้วางแผนป้องกันตัวเลยหรือไง?” แววตาทาวัตเยือกเย็น ลมหายใจของคนข้างๆเหมือนจะสั่นหวั่น

ชนุตร์ยิ้มที่มุมปากอย่างมั่นใจ “คุณจะทนให้วรินทรรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตหรือไง?”

“ทาวัต ปล่อยฉันไป” วรินทรแนบชิดแก้มที่อบอุ่นของเขา ใบหน้าเฉยเมย “ฉันเชื่อว่าคุณจะสามารถช่วยฉันออกมาได้”

วรินทรพูดอย่างมั่นใจในตัวเขา

“โง่เขลา” ทาวัตยักคิ้ว “คุณไม่ต้องไป ผมก็สามารถช่วยประภาพออกมาได้”

“คุณพ่อผมไม่เต็มใจ แล้วคุณเต็มใจให้เธอทรมานไปตลอดชีวิตหรอ?” เสียงนุ่มๆดังมาจากด้านหลังทาวัต วรินทรเงยหน้ามองอย่างตื่นเต้น

เป็นกวินที่หล่อเหลาน่ารัก ข้างกายมีเอยืนอยู่

“กวิน” วรินทรร้องเรียก

“คุณแม่ ลูกมาแล้วครับ” กวินยิ้ม

“โอ๊ยโอ๊ย....” ขณะนี้ เอลากเชือกที่มัดมษยาโยนออกมา ในปากเธอมีผ้าอุดไว้

“มษยา” เมื่อชนุตร์มองเห็นมษยาในมือเอ ในใจเย็นยะเยือกแล้วมองไปที่พวกทาวัต “ใช้ผู้หญิงคนหนึ่งมาขู่หมายความว่ายังไง? ”

เขาได้ซ่อนมษยาไว้อย่างดีแล้ว พวกเขาหาเจอได้ยังไง?

เขาไม่อาจรู้ได้ว่า ในมือทาวัตมีกลุ่มอำนาจใหญ่อยู่ ในมือกวินมีห้าองค์กร ผูกพันกับอำนาจดีและอำนาจมืดประเทศCทั้งประเทศ ไม่ว่าใครในหนึ่งในห้า ในมือล้วนมีอำนาจผูกขาดของตนทุกคน

นี่เป็นอำนาจที่ตระกูลภักดีให้สิทธิ์แก่พวกเขา

เพราะกวินเป็นผู้ครอบครองแหวนแห่งความลับและเป็นสายเลือดตระกูลภักดี จึงรวบรวมองค์กรทั้งห้าไว้ด้วยกัน กลายเป็นอำนาจที่แข็งแกร่ง นอกจากค่ายฝึกรบของทาวัตที่สามารถรับมือได้แล้ว ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต้านทานได้อีก

“ใช้แม่ของผมมาข่มขู่พ่อของผม คุณนับว่าเป็นตัวอะไร?” แม้กวินจะตัวเล็ก แต่ลักษณะท่าทางไม่อาจดูเมินได้

แม้แต่วรินทร มองเห็นแบบนี้แล้ว ก็ยังรู้สึกตะลึง

ลูกของเธอ ช่างหล่อเท่ห์อะไรป่านนั้น

“คนบางคนอาจไม่รู้จักมองอะไรที่ชัดเจนแบบนั้น” ทาวัตยิ้ม พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ

กวินกดไลน์ทาวัต แล้วสั่งให้เอปล่อยตัวมษยา

เอคลายมือ มษยายืนไม่ไหว ร่างกายอ่อนแรงล้มลงกับพื้น

“ มษยา ” ชนุตร์อยากเดินเข้าไปช่วยประคอง เอกลับใช้เท้าเหยียบหลังมือมษยา “คุณขยับอีกครั้ง ฉันจะเหยียบมือเธอให้ขาด คุณจะลองไหม?”

มือมษยามีแผลอยู่แล้ว โดนเหยียบแบบนี้อีก เลือดจึงไหลออกมาเป็นทาง มองแล้วน่าสยดสยอง

วรินทรดูรอยแผลเป็นตรงข้อมือเธอ แล้วมองดูมษยา ถอนหายใจ เวรกรรมตามไวจริงๆ

“เจ็บ?” ทาวัตเห็นเธอมองข้อมือ สายตาเฉียบแหลมมองเห็นแผลเป็นนั้น คว้ามือเธอมาตรวจดูอย่างละเอียด

วรินทรยิ้มแห้งๆ “ไม่เจ็บแล้ว ฉันลงมืออย่างมีสติอยู่”

“ เธอลงมือ? ” ทาวัตจับผิดคำพูดเธอ “มีสติ?”

วรินทรเห็นเขาจ้องมองแบบนี้จึงเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เขาคงไม่คิดที่จะเฉือดเธอมั่ง?

“ดีมาก กลับไปแล้วค่อยคิดบัญชีกับเธอ” ทาวัตยิ้มพูดอย่างโกรธเคือง วรินทรมองอย่างหวาดกลัว

คราวนี้ตายแน่

ในขณะที่ในใจวรินทรกำลังสลาย ชนุตร์ก็พูดขึ้นว่า

“ได้ ฉันปล่อยคน”

ชนุตร์ทำตาละห้อย ปกปิดความรู้สึกต่างๆ ทำให้คนอื่นเดาไม่ออก

“คุณปล่อยคนก่อน แล้วฉันจะคืนมษยาให้เธอ” กวินพูดจบ หันมาไปสบตาทาวัต

ทาวัตตอบรับ แววตามาดเข้มล้ำลึก

ชนุตร์รีบหยิบมือถือออกมากดโทรศัพท์ พูดหลายคำแล้วก็วางสายไป

หลายนาทีผ่านไป มีคนชุดดำเดินมาจากบ้านเพิ่มสินคนหนึ่ง มีประภาพเดินตามหลังเขา

วรินทรเห็นประภาพเดินมา เนื้อตัวเขาไม่มีบาดแผล ใจที่แขวนอยู่ในที่สุดก็สงบลง

“คนมาแล้ว ปล่อยน้องสาวผม” ชนุตร์สั่งให้คนชุดดำแกะเชือกที่มัดประภาพออก

“ฉันจะนับสาม สอง หนึ่ง แล้วผลักพร้อมกัน” เอจับคอเสื้อมษยาแล้วนับ “สาม สอง หนึ่ง....”

เมื่อนับจบ ทั้งสองปล่อยมือพร้อมกัน

“ประภาพ ไม่เป็นไรใช่ไหม” เมื่อเห็นประภาพเดินมา วรินทรรีบออกห่างอ้อมอกทาวัต ไปดูประภาพ

มือทั้งสองที่ว่างเปล่าของทาวัต มองร่างวรินทรด้วยแววตาอาฆาต

กล้ามากนะ ที่บังอาจปล่อยอ้อมกอดเขาเพื่อไปหาชายอื่น สงสัยจะลืมตัว

กวินมองทาวัตอย่างพิจารณา แววตาดั่งรอดูตอนต่อไป

“พวกเขาทำอะไรเธอไหม?” วรินทรมองประภาพ แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว ก็โล่งอก

ดีที่เขาไม่เป็นไร ไม่งั้นเธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

“ผมไม่เป็นไรครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วง” ประภาพยิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนเคย แววตายังคงจ้องมองวรินทร

ดูเหมือนวรินทรจะมีอะไรผิดปกติ แต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร จึงหยุดคิดไป

“ไม่เป็นไรก็ดี”

ชนุตร์แกะเชือกที่มัดมือมษยาออก ประคองเธอขึ้นมา แล้วอุ้มเธอไว้

หันตัวมองไปยังวรินทร แววตาเปลี่ยนไป แล้วพูดขึ้นว่า “วรินทร”

วรินทรเงยหน้ามองอย่างระอา นึกว่าเขาจะพูดอะไร

แต่เขากลับยิ้มให้เธอเท่านั้น หลังจากนั้นก็อุ้มมษยาจากไป

จนร่างเขาลับหายไป วรินทรก็ยังคิดไม่ออก รอยยิ้มนั้นหมายความว่ายังไง

“วรินทร ตื่นได้แล้ว เขาไปแล้ว” ประภาพสะกิดเธอเบาๆ

วรินทรกลับมามีสติ มองแววตาที่ห่วงใยเธอ รู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติปรากฏอีกครั้ง แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มตอบ

“แม่ครับ พ่อไปแล้ว” กวินชี้ไปที่ร่างทาวัตที่เดินจากไปอย่างเตือนสติ

วรินทรเข้าใจความหมายของกวินขึ้นมาทันที แล้วพูดกับประภาพว่า “ประภาพ ฉันมีธุระ เธอกลับไปกับกวินก่อนนะ”

“ได้ซิ เธอไปเถอะ” ประภาพยิ้มตอบอย่างสุภาพ

วรินทรรีบวิ่งตามทาวัตไป

ทาวัตเดินเร็วมาก วรินทรกำลังคิดจะเดินผ่านห้องโถง เดินลัดไปไล่ตามเขา

ทศพรกลับมาขวางทางเธอไว้ “วรินทร เรื่องของเธอเคลียเสร็จหรือยัง?”แล้วชนุตร์ล่ะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์