หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 272

ตอนที่ 272 ไม่ได้เสแสร้ง

“คนกำลังอารมณ์ดีๆแต่กลับต้องมาเจอคนที่ทำให้เสียอารมณ์ซักได้”ทีนาร์ จ้อง วรินทร แล้วพูดออกมา

ชนิศา พอเห็น วรินทร ก็ไม่ได้ทำท่ารังเกียจเหมือนแต่ก่อน

วรินทร ก็คิดในใจว่า ฉันก็ไม่ได้ติดหนี้อะไรกับพวกเธอสักหน่อยนี้

“ไปนั่งดื่มกาแฟด้วยกันไหม?”ชนิศา พูดด้วยท่าทางที่สูงส่ง อย่างกับว่าที่พูดไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำสั่ง

วรินทร ยิ้มตอบกลับไปว่า “ได้ค่ะ”

พวกเธอได้เข้าไปนั่งร้านกาแฟใกล้ๆ

“ไม่ทราบว่าคุณ ชนิศา มีธุระอะไรกับฉันเหรอ” วรินทร ถามอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีอาการเสแสร้งแต่อย่างใด

“ในเมื่อเธอไปแล้ว ทำไมถึงกลับมาที่นี้อีก? หรือว่าเธอคิดว่ายังทำร้ายลูกชายฉันไม่พอ?”นี้เป็นเรื่องที่ทำให้ ชนิศา โกรธมากที่สุด

ตอนนั้น วรินทร หนีไปด้วยที่ไม่บอกไม่กล่าว เธอไม่ได้สนว่าคนในบ้าน ธัมรุจินันท์ ต้องเสียหน้าขนาดไหน

“ที่ฉันกลับมา เพราะว่าบ้านฉันอยู่ที่นี้ ส่วนเรื่องของ ทาวัต ฉันไม่เคยมีความคิดที่จะทำร้ายเขาเลยแม้แต่น้อย”วรินทร ตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง

แม้จะพูดอย่างเกรงใจ แต่สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง

“คำพูดสวยหรูดีนี้ ตอนนี้เธออาจจะหลอกพี่ชายฉันได้ แต่อีกไม่นานพี่ฉันจะต้องรู้ท่าแท้ของเธอแน่”ทีนาร์พูดออกมาด้วยเสียงที่รังเกียจเธอ

“........”วรินทร ไร้คำพูด การสนทนากับพวกเธอช่างเป็นเรื่องที่เสียเวลาจริงๆ

ชนิศา เห็นด้วยกับคำพูดของลูกสาวตนเอง สายตาที่มอง วรินทร ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความรังเกียจ “ในเมื่อตอนนั้นเธอได้ออกไปจากชีวิตของลูกชายฉันแล้ว ต่อไปนี้ก็อย่ามายุ่งกับเขาอีก”

ไม่รอคำตอบจาก วรินทร เธอก็พูดต่อ “พูดมา ต้องการเท่าไหร่ ขอแค่อย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีก เธอจะเอาเท่าไหร่ก็ได้”

วรินทร ตกใจอย่างเห็นได้ชัด และสีหน้าก็ค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นหน้าที่เย็นชา

นี้ดูถูกฉันขนาดนี้เลยเหรอ

“คุณ ชนิศา คุณไม่คิดว่ามันจะเกินไปหน่อยเหรอ?”วรินทร สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้สงบสติอารมณ์

“ไม่ต้องพูดมาก บอกจำนวนเงินที่ต้องการมา”ชนิศา พูดตัดบทสนทนา

“คุณ ชนิศา แน่ใจนะว่าจะเอาแบบนี้?”วรินทร พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่ใครรู้หรอกว่า ตอนนี้ในใจของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ชนิศา ไม่คิดที่จะเข้าใจความรู้สึกของ วรินทร

ด้วยความตื่นเต้น ทีนาร์ ได้ทำกาแฟ หกใส่แม่ของเธอ

“ว้ายยยยย!”

“แม่ หนูไม่ได้ตั้งใจ!”ทีนาร์ พูดพร้อมกับรีบหยิบทิชชูมาเช็ด

ชนิศา หยิบกระเป๋าแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

พอ ทีนาร์ เห็นแม่ของตัวเองเดินออกไป เธอก็พูดกับ วรินทร อย่างตรงไปตรงมา “ฉันว่าเธออย่าพึ่งสนเรื่องอื่นเลย ตอนนี้คิดแต่ว่าจำนวนเงินที่เธอต้องการแล้วก็รีบไสหัวไปซะ”

“ที่เธอวางแผนให้แม่ของตัวเองออกไป ก็เพราะกลัวว่าฉันจะบอกเรื่องที่ฉันมีลูกกับ ทาวัต ใช่ไหมล่ะ?วรินทรจ้องมองเธอ ใบหน้าได้เผยร้อยยิ้มออกมา

วรินทร ไม่เคยคิดที่จะบอกเรื่องของเธอให้ ชนิศา รู้

“หืม ปากเก่งดีนะ ฉันจะบอกอะไรให้อย่างนะ ตอนนี้แม่ฉันชอบ ธารี มาก และได้เตรียมจัดงานแต่งให้กับทั้งสองแล้ว อีกอย่างพี่ชายฉันก็ตอบตกลงแล้วด้วย”ทีนาร์ พูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

วรินทร รู้ดีว่า ทาวัต ไม่มีวันจะแต่งงานตามคำสั่งของใครแน่ แต่คำพูดที่มั่นใจของ ทีนาร์ ก็ทำให้เธอ รู้สึกไม่สบายใจ

ทาวัต จะแต่งงานกับคนอื่นจริงๆเหรอ?

เธอไม่ได้นั่งต่อ เธอหยิบกระเป๋าแล้วก็เดินออกจากร้านกาแฟ

ระหว่างทางเธอก็ได้ครุ่นคิดคำพูดของ ทีนาร์

รู้ตัวอีกที เธอก็เดินมาจนสุดทางเดินแล้ว

วรินทร เห็นว่ามีคนมาถ่ายโฆษณาใกล้ๆ เดินจึงเดินไปดู นึกไม่ถึงว่าคนที่อยู่บนเวทีคือ ทวิติยา

ทวิติยา ได้ใส่ชุดเดรสสีดำ และได้โพสต์ท่าอยู่บนเวที ท่าทางของเธอในตอนนี้อย่างกับนางฟ้า

เหมือนว่าเธอก็สังเกตเห็น วรินทร ที่อยู่ข้างล่างเวที เป็นเวลาเดียวกับช่วงพักของเธอ เธอเดินลงมาหา วรินทร ทันที

“เธอมาทำอะไรที่นี้?เวลานี้เป็นเวลางานของเธอไม่ใช่เหรอ?”ทวิติยา เดินมา พูดกับ วรินทร

“ฉันหนีงาน ไม่ได้หรือไง?”วรินทร กับ ทวิติยา พวกเธอเรียกได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับหนึ่ง

“เธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”ทวิติยา มองเธอแค่ แวะเดียว ก็มองออกว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอแน่ๆ สายตาที่มองเธอมีแต่ความเป็นห่วง แล้วพูดกับเธอว่า “มา เดียวพาไปที่ๆหนึ่ง?”

“เธอไม่ถ่ายต่อแล้วเหรอ?”วรินทร ถามเธอ หรือว่าเธอก็คิดที่จะหนีงานเหมือนกัน?

“ฉันขี้เกียจถ่ายต่อแล้ว ไม่ต้องพูดมาก ตามฉันมา”ทวิติยา เดินนำทางให้ วรินทร

“.........”

ทั้งสองได้มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านนี้มีราวๆสิบชั้น และที่ๆพวกเธอกำลังไปก็อยู่บนชั้นสูงสุด

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น วรินทร ก็กลายเป็นคนกลัวความสูง

ทวิติยา พอเห็นสีหน้าที่ตื่นกลัวของ วรินทร เธอก็ยิ้มออกมา “ไม่ต้องกลัวไปหรอก เราไม่ได้กำลังตกลงไปสักหน่อย”

ทั้งสองได้นั่งใกล้หน้าต่าง ที่นั่งนี้มองเห็นวิวข้างนอกได้อย่างชัดเจน

“ถ้าอารมณ์ไม่ดี ก็ดูวิวเยอะๆมันจะช่วยให้ดีขึ้นเอง”ทวิติยา ได้ยกมือขึ้นมา เพื่อที่จะสั่งอาหาร

ทวิติยา ไม่ได้มีอารมณ์ดูวิวเลย เพราะว่า ตั้งแต่มาที่นี้ วรินทร ก็เอาแต่เงียบ เธอเงียบซักจน ทวิติยา กลัว

“เธอจะกินอะไร? มือนี้ฉันจะเป็นคนเลี้ยงเอง”ทวิติยา ยื่น เมนูให้เธอดู

วรินทร ก็ไม่ได้เกรงใจอะไร เธอรีบสั่งอาหารทันที

ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ

วรินทร รีบหยิบมีดขึ้นมาเพื่อเริ่มทานอาหาร เมื่อกี้เธอเดินจนเสียพลังงานไปเยอะ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องเติมพลังงานเข้าไป

ทวิติยา ดื่มน้ำผลไม้ “ความสัมผัสของเธอกับทาวัตเป็นยังไงบ้าง?”เธอถามขึ้นมา

พอ วรินทร ได้ยินคำถามของเธอ เวลาอันสุขสันต์ของ วรินทร ก็ได้หมดลงแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วตอบว่า “ก็เรื่อยๆ”

“ที่เธออารมณ์ไม่ดี เพราะเขาหรือเปล่า?”ทวิติยาได้พูดต่อ

การที่ วรินทร ไม่พูดอะไร แสดงว่าจริงซินะ

“ลองพูดมาซิ เผื่อฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง”

วรินทร จ้องมอง ทวิติยา เธอไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดี

ทวิติยา ยิ้มแล้วพูดว่า “เอามือมานี้”

วรินทร ยื่นมือออกไปให้เธอ

ทวิติยา เขียนอะไรบางอย่างลงไปที่มือของเธอแล้วยื่นให้เธอดู

เธอมองไปที่มือของตัวเอง “นี้คือ?”เธอมองทวิติยาด้วยความประหลาดใจ

หลังจากนั้นเธอก็เริ่มสงสัย ถ้าเกิดว่าเธอเป็นสายให้กับ ชยุต หรือ คนอื่นล่ะ?

“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังสงสัยฉัน เพราะตอนนี้ฉันไม่สามารถเอาสิ่งนั้นให้เธอดูได้”ทวิติยา พูดขึ้นมา ใครเขาใช้ให้เธอทำของหายกันล่ะ

“แล้วของล่ะ?”วรินทร พูดขึ้นมาด้วยความสงสัย

“ฉันทำมันหายนะ”ทวิติยา พูดออกมาอย่างเขินๆ ทำของหายเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ที่กลัวคือ ถ้ามีคนเก็บได้ล่ะ....

“อ้อ”วรินทร ตอบกลับไป แต่ในใจของเธอ เธอยังไม่ได้เชื่อเรื่องที่ ทวิติยา พูดร้อยเปอร์เซ็นต์

ทวิติยา รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้บังคับให้ วรินทร เชื่อเธอ เธอจึงพูดบทสนทนาต่อจากเมื่อกี้

วรินทร พูดเรื่องคร่าวๆให้เธอฟัง ถึงแม้เธอจะพูดด้วยสีหน้าที่นิ่ง แต่ว่าในใจของเธอไม่นิ่งเหมือนใบหน้าของเธอ

“อ้อ ที่แท้ พวกเขาต้องการให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาพังทลายลง เธอเป็นฉลาด แต่ทำไมถึงดูไม่ออก?”

วรินทร พูดออกมาอย่างขนขื่นว่า “ที่ฉันแคร์ไม่ใช่เรื่องนั้น”

“มันยังมีอะไรอีกเหรอ?”

“กินข้าวเถอะ ฉันหิวจะแย่แล้ว”วรินทร ไม่ได้ตอบคำถามของเธอ ตอนนี้เธอสนใจแต่พาสต้าที่อยู่ตรงหน้าของเธอ

“เฮ้อ”ทวิติยา ถอนหายใจ เธอรู้ว่าไม่ควรถามต่อ เธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

หลังจากกินเสร็จ ทั้งสองก็ได้ไปเดินเล่น ที่สวน A ทั้งสองเดินจนถึง 4 ทุ่ม จากนั้นก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน......

หลังจากกลับถึงบ้านตัวเอง วรินทร ก็เกิดตกใจ เมื่อเห็นเงาๆหนึ่ง ที่กำลังนั่งรอเธออยู่ที่โซฟา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์