หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 280

ตอนที่ 280 เกมทำลายล้าง

คิดมาถึงตรงนี้ เลขานิธูรตัดสินใจโทรไปที่เบอร์ของเสี่ยวจางคนขับรถไปพิธีงานหมั้นให้กับวรินทร พลันรู้สึกว่าครั้งนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว

“ฮัลโหล เสี่ยวจาง คุณวรินทรกลับมาหรือยัง?... อะไรนะ ยังไม่กลับ? เช่นนั้นตอนนี้คุณวรินทรอยู่ที่ไหน? หลังจากเข้าไปก็ไม่ได้ออกมาอีกหรือ โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”

จากคำบอกเล่าของเสี่ยวจาง จริยาหลังจากเข้าไปในบ้านของปทิตก็ไม่ได้กลับออกมาอีก อีกทั้งหากไม่มีบัตรเชิญก็ไม่อาจเข้าไปได้โดยสะดวก ดังนั้นรถจึงจอดรออยู่ไม่ไกล แต่ใครจะรู้ว่าต้องรอตลอดทั้งบ่าย

เลขานิธูรไม่ลังเลอีก ตัดสินใจโทรหาทาวัต

เสียงรอสายดังไม่ถึงสามวินาทีก็รับสายแล้ว เสียงเย็นชาของทาวัตดังออกมาจากไมโครโฟน พาให้คนรู้สึกไม่อาจทานทน “มีเรื่องอะไร”

“ท่านประธานทาวัต วันนี้ทางบ้านของปทิตและนิสิตาจู่ๆ ก็โทรศัพท์มา บอกว่าชุดแต่งงานของพวกเรามีปัญหา คุณวรินทรก็เร่งรีบออกไปตั้งแต่เช้า ทว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กลับออกมา ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่...”

ทาวัตที่อยู่ไกลถึงอเมริกา ในเวลานี้กำลังปรึกษาหาความร่วมมือกับแขกอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกเรื่องที่ไม่สำคัญรบกวนจึงตั้งค่าโทรศัพท์ให้สั่นไว้ แต่ว่าก็กังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้นวรินทร ดังนั้นจึงวางไว้ติดกับผิวกายมาก เช่นนี้จึงได้รับรู้ตั้งแต่สั่นครั้งแรก

“นายแน่ใจนะว่าวรินทรไม่ได้กลับมา?” เขาหันไปกล่าวประโยค “ขออภัย” กับแขกชาวอเมริกันสองท่าน จากนั้นลุกขึ้นยืน เดินออกไปด้านนอกโรงแรม

“ดิฉันมั่นใจ เสี่ยวจางคนขับรถที่ไปส่งคุณวรินทร ไม่เห็นคุณวรินทรออกมาจากประตูบ้านปทิตอีกเลย ดิฉันกังวลว่า...”

ใบหน้าของทาวัตพลันเย็นเยียบลง ริมฝีปากบางโค้งแสดงความไม่พอใจ “ตอนนี้นายติดต่อไปหานรชัยและธรรศ ตอนนี้พวกเขาน่าจะอยู่ที่งานพิธี เร่งตามหาวรินทร”

“ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้ว” เลขานิธูรรับคำทันที ถอนหายใจ บอสมาแล้ว ทั้งหมดล้วนไม่มีปัญหา

ทาวัตเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ใบหน้าเย็นชาลึกล้ำ เผยรังสีร้ายกาจออกมาหลายส่วน

“ปกเกศ” ทาวัตหันหลังเดินมุ่งหน้าไปทางโรงแรม “กลับประเทศ”

“ครับ” ปกเกศเดินตามออกมาจากที่มืด ตอบรับเสียงหนึ่งและเร่งซื้อตั๋วเครื่องบินทันที

……

ได้ยินคำสั่งของทาวัต เลขานิธูรพลันให้คนพาตนไปส่งที่บ้านของปทิต ในมือของเธอมีบัตรเชิญอยู่สองสามใบ เป็นสิ่งที่คนของบ้านปทิตส่งมาให้กับทาวัต

เธอหยิบบัตรเชิญขึ้นมาพลางเดินไปด้วย แต่แรกจึงไม่มีคนเข้ามาขัดขวางเธอ

ในเวลาเดียวกันนั้น วรินทรที่ขดตัวอยู่บนพื้น ในเวลาที่เงียบงันจนแทบสำลักนั้นเอง พลันได้ยินเสียงหยดน้ำเสียงหนึ่ง

เสียงเช่นนี้มีรูปแบบมาก หยดหนึ่งและอีกหยดหนึ่ง ราวกับว่าหยดลงจากนั้นหยดลงบนพื้นอีก ปรากฎเสียงอย่างชัดเจน

ภายในห้องที่เงียบงันกระทั่งไม่ได้ยินเสียงใดๆ ความสนใจของวรินทรก็ดึงดูดไปอยู่กับเสียงหยดน้ำอย่างรวดเร็วยิ่ง ความนึกคิดทั้งหมดล้วนพุ่งไปที่เสียงหยดน้ำนั่น

โดยไม่คาดคิดเลยว่าเธอกำลังอยู่ในเกมทำลายล้าง

ไม่รู้ว่าเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ในระหว่างเสียงหยดน้ำแฝงด้วยรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป เวลายิ่งลากยิ่งยาวนานขึ้น

จิตใจและวิญญาณของวรินทรพุ่งไปที่สิ่งนี้ทั้งหมด รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเสียงหยดน้ำเปลี่ยนไป ประกอบกับเสียงหยดน้ำยิ่งมายิ่งเชื่องช้า ในใจของเธอรู้สึกเดือดพล่านไม่หยุดหย่อน คิดอยากให้หยุดน้ำเร็วขึ้นอีกสักนิดยิ่งนัก ทว่าเธอก็มองไม่เห็นว่าหยดน้ำอยู่ที่ไหน ทำได้แค่ร้อนใจและกังวลเท่านั้น

ความรู้สึกเช่นนี้ช่างทรมาณจิตใจผู้คนยิ่งนัก นี่เป็นสิ่งที่ทำลายความมั่นคงในจิตใจของเธอ หากคิดที่จะต่อต้านแต่กลับไม่อาจยอมรับความรู้สึกไม่สบายนี้ได้

ในใจของวรินทรไม่สบาย ราวกับถูกแมวข่วนอย่างนั้น สติสัมปชัญญะพลันรู้สึกเลื่อนลอยขึ้นมา ข้างหูราวกับเพียงได้ยินแต่เสียงของหยดน้ำเท่านั้น

“อ๊ะ” วรินทรพึมพำ ปิดหูของเธอแน่น เธอไม่สามารถฟังเสียงนี้ได้อีกต่อไป ยิ่งได้ยินในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยมือที่ปิดหูนี้ วรินทรนึกถึงเรื่องที่เคยได้ยินเพื่อนนักจิตวิทยาพูดถึงตอนที่เธออยู่อังกฤษ

คนอยู่ในห้องปิดทึบ ความเร็วของหยดน้ำที่ช้าลง จิตใจของเขาและประสาทสัมผัสของเขาจะเจ็บปวดอย่างมาก และไม่สามารถควบคุมความต้องการที่จะฟังเสียงนี้ ทว่าเพราะเสียงหยดน้ำช้าลงจึงทำให้หงุดหงิดรำคาญใจ ในกรณีร้ายแรงก็สามารถนำไปสู่ความล่มสลายทางจิตได้

สถานการณ์ของเธอตอนนี้ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

วรินทรครุ่นคิด ตนเองปิดหูต่อไปย่อมไม่ใช่วิธีแก้ ดังนั้นเธอจึงดึงทิชชู่ออกมาจากกระเป๋า ม้วนเป็นลูกบอลสองก้อนเล็กแล้วเข้าหู

เสียงหยดน้ำชัดเจนว่าน้อยลงไปมาก ในหูแน่นเต็ม พลันรู้สึกว่าทั้งร่างผ่อนคลายไม่น้อย

ทาวัต ที่รักของคุณกำลังจะถูกคนฆ่าแล้ว คุณรู้บ้างไหม?

ในสมองของวรินทรคิดไปถึงอนาคต ดวงตาชุ่มฉ่ำทอประกายสับสน ราวเป็นเพียงแสงเดียวในความมืด ที่เปล่งประกายระยิบระยับ

…..

ในงานเลี้ยงมีคนเยอะมาก เลขานิธูรเสียกำลังกายไปมาก กว่าจะพบตัวนรชัยและธรรศในหมู่ชน เวลานี้เป็นตอนกลางคืนแล้ว พิธีหมั้นเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ดังนั้นในงานจึงคึกคักอย่างยิ่ง

ฎคุณนรชัย คุณธรรศ ท่านประธานทาวัตให้ดิฉันมาขอความช่วยเหลือจากพวกคุณค่ะ บ้านปทิตพาตัวคุณวรินทรไป ตอนนี้คุณวรินทรยังไม่กลับบริษัทเลย ท่านประธานทาวัตตอนนี้ยังเจรจาธุรกิจอยู่ที่สหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องให้พวกคุณช่วยจัดการให้ก่อนค่ะ” เลขานิธูรเมื่อพบกับนรชัยและธรรศก็พลันกล่าวจุดมุ่งหมายที่ตนมาในครั้งนี้ทันที

ข้างกายของนรชัยคือทัตดา และธรรศก็พาดาราสาวที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในหน้าจอขณะนี้มาผู้หนึ่ง

ทั้งสองมองหน้ากันและกัน วางแก้วเหล้าในมือของตนเองลง ปล่อยมือหญิงสาวข้างกายในเวลาเดียวกัน “เช่นนั้นตอนนี้วรินทรอยู่ที่ไหน?”

“ยังคงไม่แน่ชัด แต่ว่าสามารถยืนยันได้ว่าหลังจากที่คุณวรินทรเข้ามาที่บ้านปทิตแล้ว ก็ไม่ได้กลับออกมาอีก เธอจะต้องยังอยู่ในบ้านปทิตแน่นอนค่ะ”

“เข้าใจแล้ว ให้พวกเราจัดการก็แล้วกัน” ธรรศพยักหน้ากับนรชัย และลุกเดินไปทางที่ปทิตและนิสิตานั่งอยู่

ปทิตและนิสิตากำลังดื่มเหล้าฉลอง นรชัยและธรรศพลันแทรกเข้ามา ต่างคนต่างหิ้วปีกนรชัยคนละข้าง เอ่ยถามเขา “ยืมตัวไปพูดคุยสักครู่นะ”

ปทิตมองพวกเขาอย่างสับสน ยังไม่ทันได้กล่าวอะไรก็ถูกนรชัยและธรรศพาตัวออกไปแล้ว ทิ้งให้คนที่เหลือมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ

“วรินทรถูกนายพาตัวไปใช่ไหม?” อารมณ์ของธรรศรุนแรงดั่งไฟผลาญ ได้ยินว่ายังไม่ได้ข่าววรินทรที่หายตัวไป จิตใต้สำนึกก็ต้องการหาตัวสตรีของพี่น้องแสนดีคืนมา ดังนั้นจึงไม่เกรงใจปทิต กระชากคอเสื้อเขาเอ่ยถามอย่างดุดัน

นรชัยที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ห้ามปราม เพียงแต่สองมือกอดอก มองอย่างเฉยชา

“คุณ คุณธรรศพูดอะไร ผมจะพาผู้หญิงคนนั้นมาทำอะไร?” ปทิตรู้สึกแปลกใจ วรินทรก็แค่ดีไซเนอร์ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ทำไมถึงได้ทำให้คุณชายทั้งสองต้องเจาะจงมาเพื่อเธอด้วย?

ปทิตสังหรณ์ใจถึงเคราะห์ร้ายวุ่นวายครั้งใหญ่ได้อย่างเลือนลาง

“นายแน่ใจนะ? ถ้าหากให้พวกเราค้นหาวรินทรในบ้านของนายละก็ อย่าได้กล่าวหาว่าพวกเราไม่ให้เกียรติตระกูลของนาย” นรชัยมองเขาอย่างเยือกเย็น ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความหมายข่มขู่คุกคาม

“คิดให้ดีก่อนจะตอบ!” มือของธรรศกระชับคอเสื้อเขาแน่น อีกมือยกกำเป็นหมัด ราวกับในอีกวินาทีเดียวก็จะชกไปที่ใบหน้าของเขาอย่างนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์