ตอนที่ 285 หัวเราะทำไม
วรินทรตกใจรีบลุกขึ้นและเดินออกจากห้องอาบน้ำ เพิ่งเดินออกมาก็เจอพี่ลิง
พี่ลิงกำลังเอายามาให้เธอ พอเห็นเธอเดินออกมาก็ยิ้มให้เธอ “ คุณวรินทร ”
“ พี่ลิง ” วรินทรเดินไปดูยาที่วางบนโต๊ะซึ่งยาพวกนั้นมีราคาสูงมาก
“ คุณชายบอกว่าคุณถูกไฟไหม้ สั่งฉันให้เอายาพวกนี้มาให้คุณ ” พี่ลิงพูด พร้อมทั้งหยิบยาชนิดหนึ่ง “ ฉันช่วยทายาให้คุณนะคะ !”
วรินทรรู้สึกอบอุ่นและอยากตำหนิในใจ เธอหยิบยาที่วางบนโต๊ะทั้งหมดพร้อมทั้งน้ำยาล้างแผลและสำลีก้าน ใส่รองเท้าโดยไม่เลือกวิ่งออกจากห้องนอนโดยผมที่ยังเปียกและไม่ได้หวี
“ คุณวรินทร คุณยังไม่ได้ทายาเลยค่ะ……” พี่ลิงเรียกตาหลังเธอ แต่วรินทรไม่ได้สนใจ
ทาวัตคงได้รับบาดเจ็บและไม่อยากให้เธอเห็นจึงทำตัวเย็นชากับเธอและหาเรื่องหนีไปบริษัทแน่ๆ ถ้าหากเธอไม่เห็นกระดาษชำระในห้องน้ำ คงไม่รู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหนใช่ไม?
ต้องเป็นแผลที่เกิดจากท่อนไม้ที่หล่นลงมาทับตอนช่วยเธอแน่นนอน ตอนนั้นเธอได้ยินเสียงอุทานของเขา แต่เธอเองยังโง่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ !
วรินทร โง่จริงๆ !
……
ความจริงเรื่องการประชุมเป็นแค่ข้ออ้างของทาวัต เขาแค่ไม่อยากให้วรินทรเป็นห่วงเลยไม่ได้บอกเธอ
เลือดจากเแผลที่แผ่นหลังยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีความรู้สึก ยังคงนั่งดูเอกสารที่อยู่ต่อหน้าอย่างปกติ
เขาไม่ค่อยใส่ใจ ไว้สักสองวันก็คงหายเอง เขาเองก็ขี้เกียจไปโรงพยาบาลหรือทายา หลายปีที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ได้เอะอะก็ไปโรงพยาบาล
แต่เป็นไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกเจ็บ แผลบนแผ่นหลังทำให้เขาต้องนั่งตัวตรงตลอดเวลา ถ้าไม่ระวังโดนแผลก็จะมีเลือดไหล
เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด ปากของเขาซีดลงเรื่อย ๆ จนไม่เห็นเม็ดสีเลยแม้แต่นิด ใบหน้าอันหล่อเหลาและเย็นชานั้นเกรงไปหมด
ปัง !
ประตูห้องทำงานของท่านประธานโดนคนชนเข้ามาจนมีเสียงดัง
ทาวัตมองไปอย่างช้า ๆ เมื่อเห็นวรินทรกำลังเดินเข้าด้วยสีหน้าที่โมโห ก็ตกใจ
“ คุณมาทำไม?” เขากระแอม แกล้งมองเธออย่างสงบ
วรินทรเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว เกรงใบหน้าที่สวยของเธอ ในมือถือขวดยาจ้องมองเขา
ทาวัตเห็นเธอไม่พูดจา เม้มปากและพูดต่อว่า “ ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน มีอะไรกลับไปค่อยคุยกัน ”
วรินทรก็ยังคงไม่พูดจา ยืนจ้องเขาอย่างนั้น
หลังจากนั้นเธอก็เดินอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไปหาทาวัต และทำสิ่งที่น่าตกใจ
แคว๊ก ——
เธอฉีดเสื้อเชิ้ตสีดำของทาวัตจนขาด เธอเองก็ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีแรงมากมายขนาดนี้ เมื่อเธอเห็นบาดแผลบนแผ่นหลังอันขาวของเขา ใจเธอก็แทบหยุดเต้น
วรินทรมองที่แผลนั่นแล้วรู้สึกอยากเป็นลม เจ็บปวดหัวใจ เจ็บจนเธอพูดไม่ออก
ทาวัตเองก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะแข็งกร้าวและตรงขนาดนี้ โดนเธอจ้องมองแบบนี้ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาและใบหูเริ่มแดง
เขากระแอมและพยายามจะดึงเสื้อเชิ้ตขึ้น แต่แรงวรินทรเยอะกว่าจนเขาไม่มีโอกาสทำตามที่ตั้งใจไว้
“ ได้รับบาดเจ็บแล้วทำไมไม่บอก?คุณเป็นเด็กหรอ? ถ้าหากฉันไม่รู้คุณก็จะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ไม่ทายาไม่ไปหาหมอใช่ไหม?ทาวัต คุณเป็นเด็กอายุสามขวบใช่ไหม?!” วรินทรพูดเป็นชุดเพราะความโมโหหลังจากที่หายปวดใจ
โมโหที่เขาไม่รักตัวเอง โมโหที่เขาไม่ยอมบอกเธอว่าได้รับบาดเจ็บแต่กลับปกปิดเธอ
ทาวัตตกใจเล็กน้อย รู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจหลังจากที่ฟังเธอตำหนิด้วยความโกรธ ความเจ็บที่แผ่นหลังก็ทุเลาลง
เขาหันไปมองวรินทรและอมยิ้ม แววตาเปร่งประกายไม่เหมือนปกติ
วรินทรมองเขาโดยที่ยังไม่หายโกรธ “ หัวเราะอะไร?”
หลังจากพูดจบ ก็เชิดใส่เขาพร้อมเอาสำลีก้านชุบน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วทาที่แผลของเขา “ ทนหน่อยนะ”
ทาวัตให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้ต่อต้านและไม่ได้ไล่ให้เธอไป ทำตามเธออย่างเชื่อฟัง
วรินทรช่วยเขาฆ่าเชื้ออย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นค่อยใช้สำลีก้านเช็ดเลือดและหนองที่ไหลออกมาทิ้งและทายา
เมื่อได้ทายาทำให้ทาวัตรู้สึกเย็น ๆ ที่แผลไม่รู้สึกเจ็บเหมือนตอนแรก
แผลที่แผ่นหลังใหญ่มาก วรินทรต้องใช้ยาหนึ่งหลอดถึงทาจนทั่ว จากนั้นเธอก็ไปดึงแขนเขาและพับแขนเสื้อขึ้นโดยไม่หยุดพัก เธอจำได้ว่าแขนเขาก็มีแผล
ทาวัตมองวรินทรที่กำลังทายาให้เขาอย่างเงียบ ๆและนิ่ง แววตาเต็มเปี่ยมด้วยความสุข
ผมของวรินทรยังไม่แห้ง ยังคงมีน้ำหยุดลงมา ทาวัตเห็นผมเธอเปียกขนาดนี้รู้สึกไม่ค่อยพอใจขมวดคิ้วแล้วพูด “ ทำไมไม่เป่าผมให้แห้งก่อนมา?”
วรินทรทายาต่อและตอบ “ รีบมาหาคุณเลยลืม ”
พอพูดจบ ทำให้หัวใจบอสทาวัตสดชื่นขึ้นมาก แต่ก็ยังคงสีหน้าเข้มและพูดว่า “ ห้ามมีครั้งต่อไปนะ”
“……” วรินทรไม่สนใจเขาและทายาต่อไป
หลังจากใช้ยาหลอดที่สองจนหมด วรินทรจึงหยุดและดึงแขนเสื้อเขาลงมาและยิ้ม
ทาวัตทำตาหวานพร้อมดึงตัวเธอเข้ามาไว้ที่อก “ ยา ”
“ ทำอะไรน่ะ?” วรินทรยื่นหลอดยาให้เขา รู้สึกงง ๆ
ทาวัตมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน จากนั้นก็เปิดหลอดยาและหยิบสำลีก้านจากนั้นก็ดึงเสื้อตรงไหล่เธอออกโดยไม่เกรงใจอย่างที่เธอเคยทำกับเขา
“ คุณจะทำอะไร?” หน้าวรินทรแดงขึ้นมาทันที มองทาวัตโดยทำอะไรไม่ถูก
เธอไม่ความมาทายาให้เขาเลย ขนาดยังบาดเจ็บยังจะคิดทำอะไรเธออีก!
ความจริงวาวัตอ่อนโยนกว่าที่เธอทำมากนัก ไม่ได้ดึงเสื้อเธอขาดเลยแม้แต่ชิ้นเดี่ยว เพียงเปิดเสื้อตรงไหล่เธอออกเท่านั้น
หลังอาบน้ำเสร็จวรินทรก็สวมเดรสสีขาว เพราะอากาศเริ่มเย็นลง แต่อากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิค่อนข้างอบอุ่น ไม่หนาวหรือร้อนจนเกิดไป อากาศกำลังสบาย
ดังนั้นทาวัตเพียงดึงเบา ๆ ก็เห็นเนื้ออันขาวเนียนของเธอ
ทาวัตหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อเห็นแก้มอันแดงก่ำทั้งสองข้างของวรินทร เมื่อเห็นไหล่และแขนเธอทาวัตก็รู้ทันทีว่า “ ไม่ได้ทายา?”
“ ลืม...... ……” วรินทรหน้าแดงและจู๋ปาก เธอมัวแต่คิดเรื่องมาที่นี่จนลืมคิดถึงแผลของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างแผลของเธอกับของทาวัต แผลของทาวัตรรุ่นแรงกว่า
ทาวัตยื่นมือไปเคาะหน้าผากเธออย่างไม่เกรงใจ “โง่ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์