หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 33

ตอนที่ 33 ยั่วยวนท่านประธาน?

“วรินทร มีบางเรื่องฉันไม่รู้ว่าควรจะบอกเธอหรือเปล่า” อิงดาวเดินเข้ามากระซิบกับเธอเสียงเบา “สองวันมานี้...”

วรินทรนึกไม่ถึงว่าเรื่องที่ทาวัตพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ส่วนตัวจะหลุดออกไปทำให้ทั่วทั้ง CR กรุ๊ปทำให้ทุกคนในบริษัทเกิดความโกลาหลขึ้นมา แม้ว่าในเรื่องราวพวกนั้นจะฟังดูเกินจริงไปบ้างและคนที่เป็นคนกุเรื่องขึ้นมาก็คงไม่พ้นอมันด้าแน่นอน แต่ว่า...

เป๊าะ! ดินสอในมือของวรินทรหักเป็นสองท่อนด้วยแรงบีบ เธอไม่โกรธ เธอไม่โกรธเลยจริงๆนะ!

ในสายตาของอิงดาวแล้ววรินทรดูไม่มีทีท่าโมโหกับข่าวลือพวกนี้แม้แต่น้อยเพราะใบหน้าสวยของอีกฝ่ายยังคงยิ้มแย้มอยู่

“เธอนี่มันใจกล้าน่าดูเลยนะวรินทร! คฤหาสน์ส่วนตัวของท่านประธานคนอย่างเธอยังกล้าเดินเข้าๆออกๆตามใจชอบ คนนอกที่เขาไม่รู้อาจจะคิดว่าเธอไปยั่วยวนท่านประธานถึงคฤหาสน์เลยก็ได้นะจ้ะ” อมันด้าวางกระจกแต่งหน้าในมือลงก่อนจะเดินนวยนาดมาตรงหน้าวรินทรก่อนจะเอ่ยคำพูดดูถูก

“คนนอกที่เขาไม่รู้งั้นหรือคะ ฉันนึกว่าคุณอมันด้าเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำเสียอีก จุ๊จุ๊ กลิ่นยังกับ...”

ใบหน้าของอมันด้าแข็งค้าง เป็นเรื่องจริงที่เธอเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำเมื่อไม่นาน คงไม่ได้มีกลิ่นติดตัวมาจริงๆหรอกใช่ไหม? แต่เมื่อลองดมๆดูเธอก็ได้กลิ่นแค่น้ำหอมของตัวเองเท่านั้นนี่นา

เมื่ออมันด้าได้ยินเสียงหลุดหัวเราะคิกของอิงดาวออกมาก็รู้ว่าเธอถูกวรินทรหลอกด่าเสียแล้ว หน้าตาของเธอเหยเก

เหมือนเพิ่งกินของขมมา“เธอหมายความว่าอย่างไรไม่ทราบ เธอคิดจริงหรือว่าคนอย่างท่านประธานจะมาชอบผู้หญิงแบบเธอได้ ผู้หญิงแบบเธอน่ะก็เหมือนรถสาธารณะนั่นล่ะ ขอแค่มีเงินไม่ว่าใครก็ขึ้นได้”

วรินทรผุดรอยยิ้มเย็นยะเยือกออกมาก่อนจะหมุนเก้าอี้ยืนขึ้นมาประจันหน้ากับอีกฝ่าย “คุณอมันด้าพูดแบบนี้แสดงว่าก่อนหน้านี้คุณก็เคยลองให้คนที่มีเงินขึ้นคุณมาก่อนแล้วสินะคะ? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงแสดงว่าคุณเองก็เป็นผู้หญิงราคาถูกสินะคะ โอ้ ถ้าจะเปรียบเทียบกับคนอย่างฉัน ฉันว่าคุณทำให้ท่านประธานยอมหิ้วคุณกลับบ้านให้ได้เสียก่อนดีกว่าค่ะ ถ้ามีความสามารถก็ต้องลองดู ถ้าไม่มีความสามารถก็อย่ามาพูดมากน่ารำคาญ ตอนเด็กๆฉันเคยโดนหมาเห่าให้ตกใจมาก่อนตอนนี้เลยไม่รู้สึกตกใจเท่าไหร่หรอกนะคะ”

วรินทรยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ด้านอิงดาวที่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ถึงกับวิ่งออกไปจากแผนกก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาท้องคัดท้องแข็ง

อมันด้าสะกดกลั้นอารมณ์จนแทบระเบิดออกมาก่อนจะเงื้อมมือหวังจะตบหน้าอีกฝ่าย

แต่วรินทรกลับหยุดมือของเธอไว้ได้ทันก่อนจะสวนฝ่ามือกลับไปอย่างแรง

เพียะ!

เสียงดังฟังชัดจนคนที่แอบมองเรื่องสนุกตรงหน้าอยู่ก่อนแล้วอย่างนวีนรีบก้มหน้าก้มตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์กลบ

เกลื่อนร่องรอยขำขันของตัวเอง

วรินทรลดมือลง ส่วนอมันด้านั่งกองอยู่กับพื้นหน้าตาของหญิงสาวดูอึ้งราวกับนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสวนตบเธอกลับมา

ใบหน้าของอมันด้ารู้สึกแสบร้อน ดวงตามีน้ำตาเอ่อคลอออกมา ในหัวสมองเธอยังคงมึนงงไม่คิดโต้ตอบอีกฝ่าย

“คุณอมันด้าคะ เครื่องสำอางค์คุณเลอะแล้วนะ ให้ฉันช่วยไหมคะ?”วรินทรโน้มตัวมองอีกฝ่าย หญิงสาวยิ้มและจับจ้องไป

ที่อมันด้า

“วรินทร เธอ...เธอมันนางชั่ว!” อมันด้าได้แต่กัดฟันก่นด่าอีกฝ่ายแต่ไม่กล้าลงมือตอบโต้

ดูเหมือนว่าฝ่ามือเพชฌฆาตเมื่อครู่จะทำให้เธอกลัวเสียแล้วสิ

“คนอย่างฉันไม่เคยหาเรื่องใครก่อน แต่ถ้ามีคนมาหาเรื่องฉันก่อนล่ะก็อย่ามาหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” วรินทรโน้มหน้าไป

ใกล้กับอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน ดวงตากลมโตเย็นเยียบที่จ้องมาทำให้หัวใจของอมันด้าหวาดกลัวอย่างห้ามไม่อยู่

วรินทรเดินกลับไปนั่งเอนกายที่เก้าอี้ทำงานอย่างสบายอารมณ์ มือบางสางผมลงมาปิดหัวไหล่บอบบางของตัวเอง พรมนิ้ว

มือเรียวลงบนคีย์บอร์ดทำราวกับเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

นวีนเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้งก็พบว่าเวลานี้ทั้งแผนกเหลือเพียงแค่เขาและวรินทรเท่านั้นไร้ซึ่งร่างของอมันด้า แสดงว่ายก

นี้วรินทรชนะขาดลอย

อมันด้าใช้อำนาจหน้าที่ของเธอมอบหมายงานให้กับวรินทรมากมาย หากว่าวันนี้เธอทำไม่ทันก็คงต้องทำโอทีอีกเช่นเคย

ในใจของวรินทรรู้สึกอยากใช้เวลาอยู่กับกวินให้มากหน่อย เธอจึงลงไปข้างล่างซื้อขนมปังมากินรองท้องก่อนจะขึ้นไป

ทำงานต่อ

โครกกก

วรินทรลูบหน้าท้องของตัวเองอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหงุดหงิดมากขึ้น ร้องก็ร้องไปสิอย่างไรเสียเธอก็ไม่ยอมกินเสียอย่าง

หลังจากผ่านไปนานวรินทรก็หยุดมือที่พรมคีย์บอร์ดลง เธอยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะหยิบแก้วน้ำข้างกายที่บรรจุนม

สดที่ตอนนี้เย็นไปแล้วขึ้นมาดูก่อนจะวางกลับไปที่เดิมอย่างเศร้าสร้อย

มีบอสที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างๆแบบนี้ เธอจะกินลงที่ไหนกันล่ะ

ไม่ได้กินอาหารมาแทบทั้งวันพอตอนนี้ได้กินเธอกลับกินไม่ลงเสียแล้ว จริงๆแล้วแม้แต่ยามที่เรากินข้าวก็ต้องดูอารมณ์

ด้วยสินะ

“กินแค่นี้เองหรือ แต่ก่อนคุณไม่ใช่ว่าชอบกินข้าวกับผมมากหรือไงกัน”ทาวัตส่งเสียงเย้ยหยันขึ้นมา วรินทรที่ได้ยินเขาพูด

ออกมาแบบนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมา

เขาพูดออกมาแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการเยาะเย้ยเธอที่เมื่อก่อนคอยตามติดเขาอยู่ตลอดเวลาสินะ!

“เกรงว่าท่านประธานคงจะลืมไปแล้วว่าท่านประธานเป็นคนต้องการให้ฉันมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนเองไม่ใช่หรือคะ ทำไมตอนนี้ กลับมาพูดจาน่าขำแบบนี้ล่ะคะ” วรินทรโต้ตอบเขากลับอย่างไม่ยอมแพ้

ทาวัตกระตุกยิ้มก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง ชายหนุ่มเอื้อมมือทั้งสองข้างไปกำรอบคอของวรินทรหลวมๆ ดวงตาคมเข้ม

ฉายแววดุดันและอันตราย “คุณคงลืมไปแล้วว่าถ้าผมจะบีบคอคุณตายตอนนี้ก็ง่ายนิดเดียว” วรินทรรู้ดีว่าถ้าหากทาวัตอยาก จะบีบคอเธอให้ตายจริง วันนี้เธอก็คงไม่อาจหนีรอดจากเงื้อมมือเขาไปได้หรอก

วรินทรไม่กล้าโกรธแค้นเขาหรอก ดูเหมือนว่าเธอคงไปทำให้เขาโกรธเธอเข้าแล้วจริงๆสินะ

ความหวาดกลัวเข้ามาจู่โจมหัวใจของเธอ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูเม้มแน่นแต่ดวงตากลมก็ยังฉายประกายดื้อรั้น ต่อให้เธอกลัว

เธอก็จะไม่ยอมแสดงออกมาเด็ดขาด โดยเฉพาะยามที่อยู่ต่อหน้าเขาเวลานี้

ทาวัตบีบริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นของเธอจนยู่ ใบหน้าคมแสดงให้เห็นว่ากำลังพยายามอดกลั้นต่ออะไรสักอย่างก่อนจะ

ค่อยๆก้มลงมากระซิบข้างหูของวรินทรทว่าเขาไม่ได้กระซิบเพียงอย่างเดียว ริมฝีปากของชายหนุ่มขบเม้มติ่งหูเล็กๆน่ารักของ เธอแผ่วเบาอีกด้วย “ห้าปีมานี้ที่คุณติดค้างผมอยู่ เมื่อไหร่จะคืนครับ”

เขาแกล้งเธอ!

เข้าแกล้งหยอกเธอเล่น!!

ร่างกายของวรินทรแข็งทื่อทันที หญิงสาวหวนนึกกลับไปถึงช่วงเวลาหวานชื่นของเขาและเธอเมื่อห้าปีก่อน นึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าห้าปีมานี้เขากลับยังจำมันได้แม่นยำขนาดนี้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์