ตอนที่ 34 ฉันไม่เคยติดค้างคุณ!
วรินทรเอ๋ยวรินทร เธอนี่มันช่าง...
“ฉันไม่เคยติดค้างคุณสักหน่อย!”วรินทรผลักเขาออกทั้งที่ใบหน้าของตัวเองแดงแจ๋
ทาวัตถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะนั่งกลับที่ของตัวเอง เขาเอียงคอมองเธอเล็กน้อย “วรินทร ในเมื่อคุณกลับมาแล้วก็ช่วยจำไว้เสียด้วยว่าเมื่อห้าปีก่อนคุณเป็นผู้หญิงของผมตอนนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ อีกหน่อยชื่อของคุณก็จะต้องอยู่ถัดไปจากชื่อของผม ต่อให้คุณอยากหนีไปจากผม ผมก็จะตามไปลากคุณกลับมาอยู่ข้างกายของผมอยู่ดี”
คำพูดของเขาชัดถ้อยชัดคำและแฝงไปด้วยความจริงจัง
คำพูดของเขาเตือนสติให้เธอนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด มันทำให้เธอได้รู้ว่าความคิดความอ่านของเธอไม่ใช่วรินทร
เมื่อห้าปีก่อนอีกแล้ว
สายตาคมของทาวัตจ้องมองมาที่เธอ รูปร่างของเขาสูงโปร่งและดูดีมาก ขนาดเธอนั่งอยู่ตรงนี้ยังรู้ได้ว่าเขาต้องหมั่นออก
กำลังเป็นประจำแน่นอน แม้ว่ายามนี้เขาจะมีเสื้อผ้าปิดกั้นอยู่ก็เถอะ ความคิดนี้ทำให้วรินทรอดหน้าแดงขึ้นมาอย่างคิดลึกไม่ได้
“ทาวัต คุณพูดแบบนี้คุณคิดจะขอฉันแต่งงานหรือคะ?” วรินทรถามขึ้นมาอย่างเหม่อลอย
หลังจากเธอพูดจบความเงียบก็เข้ามาปกคลุมบรรยากาศโดยรอบของคนทั้งคู่ทันทีจากนั้นวรินทรก็ค่อยๆมีสติขึ้นมา
พระเจ้า!
เมื่อกี้เธอเผลอหลุดพูดอะไรออกไปเนี่ย?!
เธอถามออกไปได้อย่างไรว่าเขาคิดจะขอเธอแต่งงานหรือ?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะพูดออกไปอย่างมั่นใจแน่นอนว่า ‘นอกจากคุณจะขอฉันแต่งงานแล้วยังมีใครกล้าแต่งงานให้คุณอีกหรือ’ แต่พอมาเป็นเวลานี้...
ตอนนี้ในใจของวรินทรมีคำพูดเป็นหมื่นล้านคำที่วิ่งวุ่นเต็มไปหมด
นิ้วเรียวยาวของทาวัตเคาะลงบนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ ชายหนุ่มฟังถ้อยคำของหญิงสาวด้วยใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
วรินทรกลืนน้ำลายอย่างประหม่า เธอเอาแต่จ้องมองเขาไม่กล้าขยับกายไปไหนทั้งสิ้น ถ้าตอนนี้เขาเกิดอยากบีบคอขึ้นมา
จริงเธอจะรีบวิ่งหนีทันที
“แต่งงานกับคุณ?” ริมฝีปากของทาวัตยกยิ้มขึ้น ดวงตาคมหรี่ลงมีแววเย็นชาอยู่ในนั้น
ดวงตาของวรินทรอยากจะเสมองไปทางอื่นแต่ก็ไม่อาจละสายตาออกไปจากเขาได้ ดวงตาเย็นยะเยือกของเขาทิ่มแทงเข้า
มาในหัวใจของเธอ มันหนาวเย็นเสียจนหัวใจเธอรู้สึกสั่นสะท้าน
วรินทรจ๋า เขาไม่ได้อยากจะแต่งงานกับเธอเสียหน่อย เธอเสียใจใช่ไหมล่ะ
ดวงตาเธอหลุบลงอย่างช้าๆ ร่างกายของเธอค่อยๆเอนไปพิงเก้าอี้อย่างท้อแท้สิ้นหวัง
“นอกจากคุณจะแต่งให้ผมคุณยังมีทางเลือกอื่นอีกหรือไงครับ”ทาวัตยิ้มลึกล้ำ ดูท่าแล้วเธอเองก็คงอยากแต่งงานให้เขา
เหมือนกันสินะ
วรินทรเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ ก่อนจะค่อยๆนึกออกช้าๆ เธอ! ถูก! หลอก!
“คุณมั่นใจเกินไปแล้วนะคะ”
หญิงสาวพยายามกลบเกลื่อนร่องรอยของความยินดีที่เกิดขึ้นในใจก่อนจะห่อเหี่ยวลงเมื่อนึกบางอย่างได้
เธอจะแต่งงานกับเขาได้จริงๆน่ะหรือ? หากปีนั้นเธอพลาดไปนิดเดียวกวินน้อยของเธอก็ไม่มีโอกาสลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้ได้
แล้วนะ
ถ้าหากเขารู้เรื่องของกวินเข้า ท้ายที่สุดเธอกลัวว่า...
“คุณคงไม่ได้อ่านสัญญาอย่างล่ะเอียดสินะ”ทาวัตหยิบมือถือขึ้นมาก่อนกดไปมาสักพัก เขาส่งสัญญาให้เธอนั่งลง
สัญญา?
วรินทรงุนงง เขาหมายถึงสัญญาที่เธอเซ็นตอนเข้ามาทำงานให้บริษัท CR กรุ๊ปใช่ไหมนะ?
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?”วรินทรนั่งลงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบน้ำผมไม้บนโต๊ะขึ้นมาจิบ เมื่อลำคอแห้งผากของเธอมี
น้ำผลไม้แสนหวานไหลลงคอมาก็สดชื่นเสียจนหญิงสาวดื่มมันเข้าไปอีกหลายอึก
“คุณไม่ได้อ่านสัญญาข้อที่เจ็ดอย่างละเอียดหรือไงกัน คุณยังจำค่าปรับที่ต้องเสียได้ไหมครับ” น้ำเสียงของทาวัตนิ่งมาก
แต่ในเวลานี้คำพูดของเขาเหมือนกับก้อนหินก้อนใหญ่ที่หล่นลงมาทับหัวใจเธอ
สัญญาข้อที่เจ็ด!
โชคดีที่ความทรงจำของวรินทรไม่แย่นัก เพียงไม่นานเธอก็นึกขึ้นมาได้ ในสัญญาระบุไว้ว่า:
เมื่อมาร่วมงานกับบริษัท CR กรุ๊ป หากลาออกจากงานโดยไม่มีเหตุผลถือว่าผิดสัญญาต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่บริษัท
เป็นตัวเลขเจ็ดหลัก!!
เธอพลาดแล้ว!
วรินทรขบฟันแน่นอย่างไม่พอใจ ตอนนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่แล้วเชียว มาตอนนี้หญิงสาวถึงได้รู้ว่าเธอ
กระโดดลงมาติดกับที่ทาวัตวางไว้ดักเธอแต่แรก!
วรินทรจะบ้าตาย แต่ก็ทำได้แค่อดทนทำอะไรไม่ได้!!
ช่วงวันหยุดสองแม่ลูกออกมาใช้เวลาเดินช้อปปิ้งด้วยกัน เวลานี้ผู้คนไม่เยอะเท่าไหร่ จู่ๆวรินทรก็อยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมา
เธออยากพาเด็กชายเข้าไปในห้องน้ำกับเธอด้วยแต่กวินน้อยไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมเข้าห้องน้ำกับเธอดึงดันจะรอเธอข้างนอก
“ผมหรือฮะ ผมอายุห้าใกล้จะหกขวบแล้วฮะ” เด็กชายกวินตักขนมเค้กเข้าปาก เด็กชายครุ่นคิดก่อนจะพูดออกไป
เขาบอกอายุที่แท้จริงของตัวเองออกไปไม่ได้ เขากลัวว่าจะทำให้มามี้ลำบาก
วรินทรหนีไปจากเขาเมื่อห้าปีก่อน ช่วงเวลาไม่ประจวบเหมาะกัน
แต่ทาวัตก็ยังไม่ตายใจในเมื่อใบหน้าเล็กๆของเด็กชายตรงหน้าละม้ายคล้ายเขาเสียขนาดนี้ ในโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญ
ขนาดนี้ที่ไหนกันแถมยังให้เขามาเจออีก
“งั้นแม่ของหนูล่ะ ชื่ออะไร?” น้ำเสียงของทาวัตฟังดูอ่อนโยนมาก อ่อนโยนปนเก้ๆกังๆ คงเป็นเพราะเขาไม่เคยใกล้ชิดกับ
เด็กเล็กขนาดนี้มาก่อนล่ะมั้ง
ในเวลาเดียวกันก็เหมือนกับมีเชือกเส้นหนึ่งขึงอยู่ในใจของเขาและสั่นไหวตลอดเวลา
ทันทีที่เด็กชายเอ่ยตอบออกมาดวงตาคมของทาวัตก็หม่นหมองลงทันที
“งั้นพ่อของหนูล่ะ?”
“ผมไม่มีพ่อหรอกฮะ มามี้ของผมบอกว่ามามี้ผ่าเอาผมออกมาจากลูกแตงโมฮะ” เด็กชายกวินพูดออกมาอย่างไร้เดียงสา
ดูเหมือนจะเป็นเด็กที่โตมาโดยแม่เลี้ยงเดียว ต่อให้หน้าตาจะเหมือนเขามากก็เถอะ แต่ว่า...
ก็คงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องอะไรกับเขา
“พี่รูปหล่อฮะ คงไม่ใช่ว่าพี่เห็นว่าผมหน้าคล้ายกับพี่ พี่ก็เลยโมเมว่าผมเป็นลูกชายพี่หรอกใช่ไหมฮะ” เด็กชายกวินเอ่ยถาม
อย่างซุกซน ถ้าวรินทรมาได้ยินคำพูดของเขาที่เรียกทาวัตมาพี่รูปหล่อเธอต้องตีเขาจนก้นลายแน่นอน
เขามองดูท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กชายอย่างเหม่อลอย
เด็กชายอายุแค่ห้าหกขวบเท่านั้นแต่กลับฉลาดรู้จักพูด?
“ตอนนี้พี่ก็กำลังคิดอยู่ใช่ไหมฮะว่าเด็กบ้านไหนกันฉลาดขนาดนี้” เด็กชายกัดขนมหวานคำโต คำพูดที่อ่อนนุ่มน่าฟังนั้น
ทำให้หัวใจของชายหนุ่มที่มองอยู่แทบละลาย
ที่แท้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกสามารถสื่อสารกันได้จริงๆเสียด้วย เด็กชายเม้มปากน้อยๆของเขาพลางคิด
ใบหน้าของทาวัตเย็นเฉียบขึ้นมาความรู้สึกน่าอับอายเวลาถูกคนมองความคิดออกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง แถมคนที่มอง
ออกดันเป็นแค่เด็กชายตัวน้อยๆเท่านั้น
ชายหนุ่มยกน้ำมะนาวที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาจิบ รสชาติหวานอมเปรี้ยวของมันทำให้เขาคลายความตึงเครียดลงได้บ้าง
เดิมทีน้ำมะนาวแก้วนี้เขาสั่งไว้ให้วรินทรดื่ม เขาคิดถึงหญิงสาวขึ้นมา เครื่องดื่มที่มันหวานอมเปรี้ยวแบบนี้เป็นของโปรดของเธอที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...