หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 332

ตอนที่ 332 ธารีเป็นยังไงบ้าง?

“วรินทรรอก่อน “ ประภาพยังไม่ไปไหน แต่กลับตามเธอมาจนถึงห้องฉุกเฉิน

ชายที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แน่นอนว่าคือทาวัต

เช้านี้เขาสวมใส่เสื้อสูทสีดำ ดูสะอาดสะอ้านจนไม่เห็นรอยยับเท่าไร มือทั้งสองข้างอยู่ในกระเป๋ากางเกง

นัยน์ตาสีดำคู่นั้นประกบกับแสงไฟบนเพดาน ขาวดำตัดกันชัดเจน

คุณทิโนทัยกับคุณชนิศานั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างห้องฉุกเฉิน เทียบกับความกังวลของคุณชนิศาแล้ว คุณทิโนทันจะดูนิ่งกว่าเยอะ

“ทาวัต ธารีเป็นยังไงบ้าง?” วรินทรวิ่งเข้าไป หอบเบาๆ ยืนอยู่หน้าทาวัตแล้วรีบถาม

ในที่สุดนัยน์ตาที่จ้องมองไฟบนเพดานของทาวัตก็หันหน้าลง สายตาจับจ้องอยู่บนตัวเธอ แล้วเดินผ่านเธอไป มองเห็นประภาพที่อยู่ข้างหลังเธอ คิ้วก็ขมวดขึ้นทันที

“พวกเธอทำไมถึงมาด้วยกัน?” เธอหรี่ตาลง จ้องประภาพด้วยความเยือกเย็น

“เมื่อกี้เจอกันระหว่างทางก็เลยมาด้วยกัน” วรินทรกัดริมฝีปากล่าง รู้สึกว่าทาวัตแปลกๆ

“วรินทร คุณเอาอะไรให้ธารีกิน ทำไมเธอถึงเข้าห้องฉุกเฉินกระทันหันล่ะ?” คุณชนิศาเห็นวรินทรมาก็เดินเข้ามาทันที ดึงมือวรินทรไว้แล้วถาม

คำถามของคุณชนิศาทำให้นัยน์ตาวรินทรเศร้าหมองลง มีความเจ็บปวด “คุณแม่คะ คุณแม่หมายความว่า ฉันตั้งใจให้เธอกินของไม่ดี ทำให้เธอต้องถูกส่งตัวมาห้องฉุกเฉินเหรอคะ?”

เธอไม่อยากจะเชื่อ หรืออาจเป็นเพราะวัตถุดิบมีปัญหา หรือว่าธารีแพ้อะไรกินไม่ได้ แล้วบังเอิญมีในซุปพอดี

แต่ถ้าโดนสงสัยว่าเธอจงใจทำแบบนี้เพราะเหตุนี้ มันน่าเสียใจจริงๆ

คุณชนิศาปากเร็วไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น โดนวรินทรถามกลับแบบนี้เลยรู้ตัวว่าตัวเองรีบร้อนไปหน่อย เพราะถ้าธารีเป็นอะไรไปจริงๆ เธอก็คงจะรู้สึกผิดไปอีกนาน

“แม่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แม่รู้ว่าวรินทรไม่ทำแบบนี้เหรอ” คุณแม่ตบหลังมือปลอบโยนวรินทร

วรินทรกระพริบตาเบาๆ ตามด้วยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่ ฉันทราบค่ะ”

“คุณกลับไปก่อนเถอะ ที่นี้มีแค่พวกเราก็พอแล้ว” สายตาทาวัตหยุดลงตรงที่ขอบตาที่ดำทั้งสองข้างของวรินทร คิ้วจึงขมวดขึ้นอย่างเป็นห่วง

เขาดูออกว่าอารมณ์ของเธอไม่ดีเท่าไร น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนดีๆ

แต่ว่าถ้าเขาพูดความรู้สึกเป็นกังวลของตัวเองตอนนี้ ก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้นหน่อย แล้วยิ่งเวลาที่วรินทรรู้สึกแย่แบบนี้ ก็จะยิ่งเป็นการทำร้ายจิตใจเธอเพิ่ม

“งั้นฉันกลับก่อนนะ” ทาวัตยิ้มอย่างขมขื่น หลังจากลาคุณทิโนทัยกับคุณชนิศาแล้ว ก็จากไปอย่างเร็ว

ทาวัตมองดูภาพการจากไปของวรินทรแล้วรู้สึกลังเลนิดๆ กำลังคิดจะถามไป ไฟในห้องฉุกเฉินก็มาดับลงตอนนี้พอดี

คุณหมอและพยาบาลเข็นธานีนอนอยู่บนเตียงออกมา

“วรินทร คุณกำลังงอลอยู่ ใช่ไหม” ประภาพยืนอยู่ข้างวรินทร มองเห็นตัวเลขในลิฟต์ค่อยๆลดลง

วรินทรไม่ได้ตอบอะไร แต่สีหน้าที่น้อยใจบนใบหน้ากับท่าทางที่เศร้าโศกบอกทุกอย่างชัดเจนแล้ว

“เมื่อก่อนคุณเป็นแบบนี้บ่อยๆ ไม่พอใจที่ไร ก็ชอบเก็บคงามรู้สึกไว้ในใจคนเดียว คุณทำแบบนี้จะทำให้คนอีกมากมายเป็นห่วงนะ”ประภาพมองดูเงาวรินทรที่สะท้อนอยู่บนกระจกในลิฟต์ สายตาหลงไหล รอยยิ้มอบอุ่น

ที่จริงเขาอยากพูดว่า เมื่อตอนเธออารมณ์ไม่ดี เขาได้อยู่ข้างเธอ มันก็ถือเป็นความโชคดีที่สุดของเขาแล้ว

“ฉันไม่เป็นไรนิ แค่คิดไม่ออกเฉยๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” วรินทรส่งยิ้มให้ แสดงว่าตัวเองไม่เป็นไร แล้วก้มหน้าลง คิดต่อไป

ในซุปที่เธอทำวันนี้ มีอะไรที่ทำให้ธารีแพ้หรือกินแล้วท้องเสียหรือเปล่า?

หลังจากสิ้นประโยคนี้ ภาพในลิฟต์ก็ตกอยู่ในความเงียบ

จนกระทั่งลิฟต์ใกล้ถึงชั้นหนึ่ง ประภาพจึงได้เปิดปากพูด “วรินทร ช่วงนี้พยายามอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวนะ”

หลังจากพูดประโยคที่ไม่มีหัวมีท้ายนี้จบ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เขาก็ก้าวขาเดินออกไป

แต่วรินทรกลับไม่เข้าใจที่เขาพูด ไม่ใช่เพราะไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด แต่เพราะไม่เข้าใจว่าเมื่อกี้เขาพูดว่าอะไร…….

เธอเดินออกจากลิฟต์ หนักอกหนักใจไปหมด จากไปจากโรงพยาบาล

“เธออยู่นั้น” คนคนหนึ่งที่สวมชุดดำ ใบหน้าถูกปิดไปครึ่งหนึ่งด้วยคอปกเสื้อถือกล้องถ่ายรูปไว้ ถ่ายภาพด้านหลังจิงวรินทรไป

“ระวังหน่อยอย่าให้ถูกจับได้”ชายอีกคนดึงเขาไป โชคดีที่ตรงนี้เป็นมุมที่ไม่ค่อยมีคน ดังนั้นจึงไม่ค่อยสะดุดตาใครเท่าไร

“พวกเราตามมาหลายวันแล้ว เมื่อไหร่จะลงมือกันแน่?”

“แกโง่ป่ะเนี้ย? มีบอดี้การ์ดค่อยตามผู้หญิงคนนี้อยู่ ถ้าภารกิจล้มเหลว ไม่แน่เราอาจโดนกันหมด!”

กลับถึงคฤหาสน์ วรินทรรีบให้พี่ลิงยกซุปที่เหลือของเมื่อเช้าออกมา เสร็จแล้วก็ถามพี่ลิงเรื่องที่อยู่ของคุณหมอสเลเตอร์ แล้วรีบออกไป

เธอต้องรู้ให้ได้ว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน เธอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

จากที่คุณหมอสเลเตอร?ตรวจสอบแล้ว ผลปรากฏว่าวัตถุดิบในการการซุปปกติรดทุกอย่าง เป็นเพียงแค่ซุปบำรุงเลือดธรรมดา

ดูเหมือนว่าคงทำได้แค่รอให้ทาวัตกลับมา แล้วค่อยถามรายละเอียดอีกท

วรินทรนั่งดูทีวีอยู่ห้องรับแขก สายตาค่อยมองไปทีด้านนอก ตามเวลาที่ค่อยๆเดินไปข้างหน้า ใจของเธอก็ค่อยๆเย็นชาลงเรื่อยๆ

กวินเห็นว่าเธออารมณ์ไม่ดี เลยไม่ได้มารบกวนเธอ หลังจากทานข้าวเย็นด้วยกันก็ขึ้นห้องไปแล้ว

กวินขึ้นห้องไปก็นั่งอยู่หน้าคอม เปิดสวิตซ์คอม รอไม่นานหน้าจอก็เปิดออก

เขารู้มาจากนายสิงห์และเมที่เป็นบอดี้การ์ดค่อยติดตามวรินทรว่า วันนี้วรินทรไปโรงพยาบาลนภัทร์มา เอาซุปไปให้ผู้หญิงที่ชื่อธารี แต่แล้วซุปกลับมีปัญหา วรินทรยังไปหาหมอสเลเตอร์เพื่อตรวจดูเป็นพิเศษ สุดท้ายผลออกมาว่าในซุปไม่มีสิ่งปกติใดๆ

กวินมองดูข้อมูลบนจอคอมพิวเตอร์ที่น่าตาลาย เขาไม่เชื่อว่าแม่ของเขาจะเป็นวางยาในซุป ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะวางยาในซุปแล้วยังเอาไปส่งเองที่โรงพยาบาลอีก นั้นมันคนโง่ชัดๆ

เมยังพูดอีกว่า ตอนที่เขาออกมา เห็นธารีทิ้งซองบางอย่างลงไปในซุป แต่ว่าไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ธารีเป็นคนใส่ของลงไปเอง ปัญหาอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้ถามที่คิดไว้ไม่มีผิด

กวินแอบเข้าระบบของโรงพยาบาลนภัทร แล้วเอาประวัติการรักษาของธารีออกมา

อาการระบบทางเดินอาการทำงานผิดปกติจากฤทธิ์ยาบางอย่าง บวกกับ อาการเสียเลือดมากก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีเลือดออกภายใน

ยาบางอย่าง?

กวินกระพริบตาหลายที นี้ขนาดโรงพยาบาลยังตรวจไม่เจออีกว่ายานั้นคือยาอะไร ดังนั้นในช่องชื่อยาจึงยังว่างอยู่

ของที่ขนาดโรงพยาบาลยังไม่รู้ว่าคือ ะไร แม่เขายิ่งไม่รู้ใหญ่เลย! พวกคนโง่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์