หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 342

ตอนที่ 342 บินไปหาเขาที่อเมริกา

เดี๋ยวก่อน?

หัวหน้าวรินทร?

เรียก...เรียกใคร?

วรินทรอึ้งไปหลายวิ แล้วมองรองหัวหน้าแผนกคนนี้อย่างไม่แน่ใจ จึงถามว่า "หัวหน้าธนชาติไม่ใช่หรอที่เป็นหัวหน้าแผนกออกแบบฉัน?”

รองหัวหน้าแผนกเห็นเธองงๆ จึึงคิดได้ว่าหลายวันมานี้เธอไม่ได้มาบริษัท ก็เลยอธิบายว่า "ประธานธนชาตลาออกไปเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ หลายวันก่อนท่านประธานทาวัตแต่งตั้งคุณเป็นหัวหน้าแผนกออกแบบ ท่านประธานทาวัตไม่ได้บอกคุณหรอคะ?”

บอกเธอ?วรินทรนึกถึงใบหน้าเย็นชาของทาวัต อย่างรู้สึกเศร้าใจ อย่าว่าแต่บอกเลย ไม่ได้พูดถึงเลยต่างหาก

เธอนึกว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบของCRจะเป็นที่สุดในการทำงานของเธอแล้ว ไม่คิดว่ายังจะได้เลื่อนตำแหน่ง....เลื่อนก็เลื่อนแบบตรงๆเลย ไม่กลัวคนอื่นเขาจะไม่พอใจกันหรือไง?

ความจริงเธอก็คิดมากไป ตั้งแต่เสร็จงานเดินแฟชั่นโชว์ในฤดูหนาวที่ผ่านมา ทาวัตจะเลื่อนตำแหน่งเธอ ใครจะกล้ามีปัญหากับผู้มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบอย่างเธอ ความสามารถของเธอล้วนได้ประจักแก่สายตาทุกคนแล้ว

แต่ถ้าได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว งั้นเงินเดือนก็ต้องขึ้นใช่ไหม?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ วรินทรก็อยากจะแอบหัวเราะขึ้นมาทันที แต่มีรองหัวหน้าแผนกยืนอยู่ตรงหน้า บนใบหน้าบ่งบอกถึงความงุนงงและไม่เข้าใจ ในตาเขียนเต็มไปด้วยความสงสัย”หรือว่าท่านประธานกับคุณผู้หญิงมีปัญหากัน”

เธอจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเธอ แล้วพูดขึ้นว่า "เคยบอกล่ะ แต่น่าจะหลับไป ก็เลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง”

รองหัวหน้าแผนกเข้าใจทันที มองวรินทรอย่างกระจ่าง และแฝงด้วยความรู้สึกเขินอาย เห็นทีความสัมพันธ์ระหว่างท่านประธานกับคุณผู้หญิงนั้นยังรักกันมาก

วรินทรมองผ่านสายตารองหัวหน้าแผนก จึงรู้ว่าเธอเชื่อแล้ว ในใจรู้สึกน้อยใจ

เรื่องแบบนี้ต้องให้เธอมารู้จากปากคนอื่น และยังโดนคนอื่นสงสัยความสัมพันธ์ของเขากับทาวัตว่ามีปัญหาหรือป่าว เธอรู้สึกน้อยใจจริงๆ

ถึงแม้จะมีปัญหาชั่วขณะ แต่ถ้าพวกเขารู้ คิดว่าภายในวันนี้คนทั้งออฟฟิศ

ก็จะรู้กันทุกคน พรุ่งนี้คนทั้งประเทศCก็ได้รับรู้กันทุกคน

เธอจึงคิดได้ว่า ตั้งแต่แรกที่ทาวัตจัดห้องทำงานของเธอไว้ชั้นเดียวกับเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว พนักงานCRมีจำนวนไม่น้อยกว่าFSเลย ถ้าเธออยู่แผนกออกแบบด้านล่าง น่ากลัวว่าเธอจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อิจฉาริษยากันอีกเป็นแน่

"รายงานพวกนี้เดี๋ยวฉันดู เธอกลับได้ล่ะ” วรินทรหยิบกองเอกสารบนโต๊ะมาเปิดอ่านดู

"ค่ะ งั้นดิฉันขอตัวค่ะ” รองหัวหน้าแผนกพูดจบ ก็จากห้องทำงานของวรินทรไปอย่างมีมารยาท

วรินทรเริ่มอ่านรายงานทันที ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือตัวอักษร ล้วนมีบางส่วนที่เธอไม่เข้าใจ ใช้มือนวดคิ้วอย่างปวดเมื่อย เธอเริ่มลังเลว่าควรจะจองตั๋วเครื่องบิน บินไปหาเขาที่อเมริกาไหม?

……ช่างเถอะ พรุ่งนี้เขาก็กลับมาแล้ว รออีกหน่อยก็ได้

——

วันที่สอง วรินทรมาถึงสนามบินอย่างตรงเวลา เธอทราบไฟล์บินของเขาจากเลขานิธูรว่าจะมาถึงตอนสิบโมงของเช้าวันนี้ เก้าโมงเธอก็ออกมาแล้ว ตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตารอ

แต่ว่ารอแล้วตั้งสามสิบกว่านาที ก็ยังไม่เห็นทาวัต วรินทรเริ่มกังวล โทรไปถามเลขานิธูรว่าบอกเวลาไฟล์บินผิดหรือป่าว

แต่เลขานิธูรกลับบอกว่า.....

"ขออภัยครับ คุณผู้หญิง ท่านประธานได้เปลี่ยนไฟล์บินกะทันหันครับ เปลี่ยนเป็นไฟล์บินรอบแปดโมงครึ่งแล้วครับ”

แปดโมงครึ่ง....

วรินทรรู้สึกว่าปากของตนสั่นเทาอย่างแรง "งั้นตอนนี้เขากลับถึงบริษัทแล้วใช่ไหม?”

"เปล่าครับ ทางผมยังไม่ได้รับข้อมูลล่าสุดของท่านครับ หากได้ทราบข้อมูลแล้ว ผมจะรีบรายงานคุณผู้หญิงครับ” เลขานิธูรมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ยังไม่ได้รับเมล์จากทาวัตจริงๆ

ถ้าทาวัตไปดูงานต่างประเทศ ปกติก็จะพาปกเกศหรือคนอื่นไปด้วย ทุกครั้งเลขานิธูรจะรอเขากลับถึงประเทศCแล้วถึงจะได้รับข้อมูลล่าสุดของเขา แล้วจัดเตรียมวางแผนงาน

แต่วันนี้น่าแปลก ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ

เลขานิธูรไม่อยากให้วรินทรคิดมาก จึงต้องพูดกับเธอแบบนั้นไป

"อืม ได้ ขอบใจมากนะ” วรินทรขมกรามตอบ แววตาเศร้าเสียใจยิ่งนัก

"ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ผมครับ”

เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว วรินทรเดินออกมาถึงหน้าประตู แล้วมองทองฟ้าอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่บ้าง

เธอ....เธอออกจากบ้านมาเมื่อตอนเช้ายังไม่ทันได้ทานข้าวเช้าเลย รู้สึกหิวจัง....

"ที่รักคิดอะไรอยู่?” เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลัง วรินทรยังเหม่อลอยถึงของกิน ผ้าพันคอสีเทาก็ถูกพันรอบคอเธอแล้ว ปิดบังลมหนาวที่พัดผ่านคอเสื้อเธอไว้ได้อย่างดี

วรินทรเงยหน้ามองอย่างงุนงง แล้วก็พบเจอใบหน้าที่ใส่แว่นดำ ถึงเขาจะใส่แว่นดำและสวมหมวกไว้ แต่วรินทรก็ยังดูออกว่าเป็นฐานทัต

"กำลังคิดว่าอาหารเช้าวันนี้จะกินอะไรดี หิวแล้ว” วรินทรพูดอย่างหิวโหย มือที่สอดอยู่ในกระเป๋าลูบไปที่ท้องน้อยๆ ใบหน้าเศร้าสร้อย ท่าทางเธอหิวมากแล้วจริงๆ

"ไปกันเถอะที่รัก พี่พาไปหาอะไรอร่อยๆกิน” ฐานทัตโอบกอดไหล่วรินทร พาเธอเดินไปยังรถส่วนตัวของเขา

ไม่มีใครรู้ ว่าภาพตรงหน้าได้ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถ

แววตาคู่นั้นมองอย่างไม่กระพริบ แฝงไปด้วยความครุ่นเคือง

"คุณผู้ชายจะตามคุณผู้หญิงไปไหมครับ?” ปกเกศที่นั่งอยู่ด้านคนขับมองผ่านกระจกเห็นทาวัตที่นั่งอยู่ด้านหลังสีหน้าบึ้งตึง จึงถามขึ้น

ทาวัตเม้มปากอย่างแรง แววตาดำคล้ำ "ไม่ต้อง ไปกันเถอะ”

"……” ปกเกศหันหน้าไป ไม่กล้ากลับไปมองแววตาดุดันคู่นั้นของทาวัตอีก ถึงๆที่ทาวัตสั่งให้เขาไปเอง แล้วทำไมตอนนี้ถึงต้องมองเขาอย่างอาฆาต.....

คุณผู้ชายอยากจะตามไปดูคุณผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้นไปทำอะไรก็ตามไปซิ ไม่ต้องมาจ้องมองเขาแบบนี้ซิ....

ไปทานข้าวเช้ากับฐานทัตเสร็จแล้ว แม้แต่ฐานทัตก็ยังมองออกว่าเธออารมณ์ไม่ดี ก็เลยพาเธอไปคลายเครียด...

แต่ฐานทัตเป็นคนฝรั่งเศส มองออกง่ายมาก ไม่สามารถเที่ยวเตร่ได้อย่างตามใจ หลังจากสอบถามความเห็นของMirisแล้ว เขาจึงพาวรินทรไปเที่ยว

บันจี้จัมพ์ ตลอดจนซิปไลน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองA

วรินทรกลัวความสูง นี่เป็นสิ่งที่ทำยังไงก็แก้ไม่หาย แต่วันนี้เธอเล่นบันจี้จัมพ์ได้โดยไม่ค่อยต่อต้านเท่าไหร่ คงเป็นเพราะอารมณ์ไม่ดีก็เลยลืมความกลัวไป ตอนที่โดดลงมาจากที่สูงนั้นยังรู้สึกมีความสุขมาก

หลังจากเล่นไปแล้วรอบหนึ่ง วรินทรจากที่มีความสุขแล้วก็เปลี่ยนเป็นรู้สึกพังทลายขึ้นมาทันที เธอพิงฐานทัต ท้องไส้ปั่นป่วน ก้มลงจะอ้วกท่าเดียว ผ่านไปสักพักก็ไม่มีอะไรอ้วกออกมา ทรมานอย่างที่สุด

ฐานทัตจดจำไว้ในใจอย่างเงียบๆ วรินทรกลัวความสูง คราวหน้าจะไม่พาเธอมาเล่นอะไรเสี่ยงๆแบบนี้อีก

สุดท้ายเห็นวรินทรทรมานขนาดนี้ ฐานทัตจึงไม่ได้พาเธอไปเล่นซิปไลน์ต่อ พาเธอไปทานข้าวเที่ยงแทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์