หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 347

ตอนที่ 347 ปิดบังเธอ

สิ่งเดียวที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือ กวินหาเจอแหวนแห่งความลับแล้ว พวกคนของเอฟก็คือตัวแทนที่อยู่เบื้องหลังอำนาจของผู้ครอบครองแหวนลับ

เด็กคนนี้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังกล้าปิดบังเธอหรือ?

วรินทรขมกราม เสียแรงที่เธออุตส่าห์แอบหาอยู่ตั้งนาน แต่กวินกลับหาเจอก่อนแล้ว แล้วยังพิชิตใจคนพวกนั้นแล้ว ดูซิไว้เธอกลับไปแล้วจะจัดการยังไง

ถ้าไม่ใช่เพราะทาวัตทักเธอ เธอก็คงคิดไม่ถึงเอฟกับเอ เมื่อก่อนเธอก็เคยสงสัยว่าสองคนนี้ทำไมถึงแซ่เย่ แต่ใครจะไปรู้ ว่าจะเป็นคนของตระกูลศรีภักดีจริงๆ

เธอช่างสะเพร่าเกินไป สะเพร่าจริง?

มองดูวรินทรที่ขมกรามทุบอกตนเองออยู่นั้น ทาวัตยิ่งยิ้มที่มุมปาก ยื่นมือไปลูบผมเธอ "เป็นไง คิดได้หรือยัง?”

วรินทรหันหัวอย่างอุดอู้ มองทาวัตที่ยิ้มอยู่ จึงลองถาม "ทาวัต คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?”

มือที่ลูบหัวเธอชะงัก โดนเธอจับได้ล่ะ

รู้ตั้งแต่แรก แต่ก็ยังปิดบังเธอ

วรินทรขมกราม กระโจนไปหาทาวัต กัดที่คอเขาอย่างแรง ด้วยความขุ่นเคืองเหมือนแมวไม่พอใจ "คุณรู้ตั้งแต่แรก ทำไมไม่บอกฉันคะ”

ให้เธอวุ่นคนเดียวอยู่ตั้งนาน

ทาวัตเมิน คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้เวลาโกรธขึ้นมาจะรุนแรงขนาดนี้ กระโจนมาแล้วก็กัดเขา เหมือนแมวที่กำลังโมโหจริงๆ

คางเขาวางอยู่บนหัวเธอ ที่เธอกัดคอเขา ถึงจะไม่เจ็บ แต่การลวนลามแบบนี้ ทาวัตจะอดทนไหวได้ยังไง?

"ใครใช้ให้เธอโง่เอง? คนเขาโจ่งแจ้งขนาดนี้เธอเพิ่งรู้สึก?” ทาวัตตอบเสียงแหบ เหมือนดั่งถ้วยกาแฟดำมีกลิ่นหอมผสมกับแอลกอฮอล์น้อยๆอย่างเซ็กซี่

วรินทรเมินปากน้อยๆ สุดท้ายก็คลายมือที่กอดคอเขาอย่างจำใจ มองดูข้างบนที่มีรอยฟัน ในใจเจ็บปวด "คุณเจ็บไหม?”

แต่เธอกับโดนเขาลากมาแนบอก ใบหน้ากระทบอกเขาอย่างแรง ทำให้วรินทรงงงัน

"อยากลองดูไหม? ทาวัตกระซิบถามข้างหูเธอ ลมหายใจอุ่นๆพ่นผ่านลำคอเธอ”

พูดดังนั้นแล้ว วรินทรรู้สึกเหมือนคอตนเองโดนกัดแล้ว ถึงจะไม่เจ็บ แต่ก็เซียวมาก

"คุณเกิดปีหมาหรือไง?” วรินทรทุบตีหน้าอกเขาอย่างเขินอาย ใบหน้าน้อยๆยิ่งอยู่ยิ่งแดง เส้นเลือดงดงามตรงคอกลายเป็นสีแดงชมพู

"ติดมาจากเธอไง”

"……”

——

ฐานทัตส่งวรินทรมาถึงฮวงเซิงสากลแล้วก็จากไป เมื่อรถขับมาถึงสถานที่หนึ่ง แล้วก็จอด

ในรถไม่ได้เปิดไฟ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ได้ยินเพียงเสียงเปิดประตู แล้วคนในรถก็เพิ่มมาคนหนึ่ง

"ฐานทัต” เสียงผู้หญิงดังขึ้น แฝงด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ข้างกายฐานทัตมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่

ฐานวัตที่กำลังมองไปนอกหน้าต่างหันกลับมา "รอตั้งนาน ลำบากคุณแย่เลย” เสียงฐานทัตนุ่มนวล ไม่ว่าตอนไหนๆแววตาของเขาก็ยังอ่อนโยนอยู่เสมอ ปล่งประกายด้วยแสงอันชาญฉลาด

"รีบรับฉันกลับไปไหม” เสียงผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างหยอกล้อ น้ำเสียงอ่อนหวาน ถึงจะมองเห็นไม่ชัด แต่ก็สามารถเดาได้ว่าสีหน้าเธอแฝงไปด้วยความรักใคร่และเฝ้าคอย

"เร็วๆนี้ ผมรับรอง ถ้าเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ผมจะมารับคุณกลับ” ฐานทัตพูดอย่างจริงจัง สายตาภายใต้แว่นดำแฝงด้วยความอ่อนโยน

ผู้หญิงมองผู้ชายตรงหน้า อย่างเก็บกดในใจอยากจะเข้าใกล้แต่ก็ไม่กล้า

เธอสามารถมองเขาแบบนี้ ก็เพียงพอแล้ว

เธอจะคาดหวังให้เขามาชอบเธอหรอ?

คำพูดของเขาคำเดียว ก็สามารถทำให้สิ่งที่เธออดทนอดกลั้นมาหลายปี ล้วนมีค่ายิ่งนัก

"ขอบใจมากนะ” ฐานทัตเปลี่ยนเรื่องพูด ถอดแว่นดำบนหน้าออก มองผู้หญิงตรงหน้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอคิดไปเองหรือเปล่า ที่เธอมองเห็นความอ่อนโยนในดวงตาเขา

"ทวิติยา”

ไฟรถข้องนอกที่ผ่านไปมา ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ส่องไสวทั่วทั้งใบหน้าผู้หญิง แสงสว่างแปบเดียวแต่ก็ยังพอทำให้สามารถมองเห็นใบหน้านั้นอย่างชัดเจน

เธอคือนางแบบชื่อดังในสังกัดCR ทวิติยา

ทวิติยาไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้ เหมือนขนนกปลิวผัดผ่านอย่างแผ่วเบา บางบางคันคัน

ทำให้ความลำบากที่หลายปีมานี้เขาต้องพยายามอยู่ในCRและเข้าใกล้พวกธาวัต ละลายหายไป

คำขอบคุณจากเขาคำนี้ เพียงพอแล้วจริงๆ

ทวิติยากำมือแน่น เมื่อสงบจิตใจลง หายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆเริ่มรายงานฐานทัต "ถึงตอนนี้ มีเพียงคนเดียวที่รู้ว่าสถานะของเธอผิดปกติ แต่ยังดีที่เขาไม่สามารถสืบพบอะไร บวกกับปกติเธอไม่ค่อยไปไหน ทำงานอย่างสงบ คนพวกนั้นจึงยังไม่รู้สถานะของเธอ”

"เป็นใคร?” ฐานทัตมองเธออย่างสงสัย สถานะของทวิติยาเขาเปลี่ยนเองกับมือ ยังมีคนดูออก?

เขาจึงแปลกใจมาก

วรินทรเม้มริมฝีปาก พูดชื่อนั้นออกมา "ทาวัต สามีของคุณวรินทร”

สิ่งที่ทำให้ทวิติยาไม่เข้าใจก็คือ เขารู้สถานะของเธอแล้ว แต่กลับไม่ทำอะไร ไม่ซักถามใดๆ และก็ไม่ได้ให้คนติดตามเธอ เหมือนทุกอย่างอยู่ในกำมือเขาแล้วยังไงอย่างนั้น

คนแบบนี่ น่ากลัวที่สุด

โชคดี ที่เป็นพวกเราเอง ไม่งั้นคงต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

"เขาหรอ” ฐานทัตยักคิ้ว ใบหน้ายิ้ม "สายตาน้องสาวเขาไม่เลวนี่?”

"…….น้องสาวคุณแต่งงานแล้วนะ ฐานทัต คุณไม่มีแผน......”

"รายงานต่อไป”

ฐานทัตดักคำพูดของเธอ แววตาค่อยๆหันไป

สีหน้าทวิติยาเศร้า แต่ก็กลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว แล้วรายงานต่อ "ฉันเคยบอกคุณวรินทร ว่าคุณส่งฉันมา แต่ดูเหมือนคุณวรินทรจะไม่เชื่อ”

"เพราะอะไร?” ฐานทัตสงสัย ในเมื่อมีตราประจำตระกูล วรินทรมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เชื่อ

ของสิ่งนั้นเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสถานะของสมาชิกตระกูลสุขกาล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์