หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 348

ตอนที่ 348 มาหาฉันด้วยเรื่องอะไร?

ที่ทวิติยามี......

ทวิติยาก้มหัว สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความระอายและรู้สึกผิด "ตราประจำตระกูล....ฉันทำหายแล้ว....”

ภายในรถ เงียบสงบ

ฐานทัตไม่ได้พูดไรต่อ บนใบหน้าหล่อเหลาแฝงด้วยรอยยิ้มอย่างลึกซึ้ง ทำให้ยิ่งมองยิ่งไม่เข้าใจ

"ทำหายแล้ว?” สักพัก เขาก็พูดขึ้นอย่างช้าๆ

ทวิติยารู้และเข้าใจ ว่าเขาโกรธมาก เธอกับเขาเติบโตมาด้วยกัน ทำไมจะไม่รู้อารมณ์และความรู้สึกของเขา?

"ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ......” เธอรีบอธิบาย กลับโดนฐานทัตดักไว้

"ลงรถ”

"ฐานทัต......”ทวิติยามองเขาอย่างว้าวุ่น ดวงตาฉายแววเจ็บปวด โชคดีที่ภายในรถมืด ฐานทัตจึงมองไม่เห็น

เงียบไปสักพัก ทวิติยากัดริมฝีปาก ริมฝีปากเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น เธอรู้ว่าเมื่อเขาพูดออกมาแล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ หยิบกระเป๋าด้านข้างขึ้นมา "งั้น....ฉันไปก่อนนะ”

แล้วจึงเปิดประตูรถ เดินออกไป

เมื่อประตูรถปิด ทวิติยายังได้ยินเสียงของฐานทัต

"ขับรถ”

รถขับเคลื่อนออกไป ทิ้งไว้ให้เธอมีเพียงเงามืดลาง ค่อยๆจางหายไปไหนความมืด

"ฐานทัตคนบ้า คนบ้า” ทวิติยากระทืบพื้นหลายที มองรถคันนั้นที่จากไป ใช้ถุงมือในมือโยนไปอย่างแรง

ถุงมือบางเบา โยนไปได้ไม่ไกล แล้วก็หล่นลงบนพื้นใกล้ๆ

ด่าเสร็จแล้วในใจทวิติยาก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าไหร่ ที่นี่ค่อนข้างห่างไกล เธอนั่งแท็กซี่มา รถของเธอยังจอดอยู่ที่ลานจอดรถCR

เมื่อกี้ที่ได้รับโทรศัพท์จากเขา เธออุตส่าห์ปฏิเสธงานโฆษณาที่กำลังถ่ายทำแล้ว

ก็แค่ตราประจำตระกูล จำเป็นต้องโกรธขนาดนี้เลยหรอ?

ตราประจำตระกูลก็แค่สัญลักษณ์ประจำตระกูลเอง แต่ทำไม......

ทำไมฐานทัตต้องโกรธขนาดนี้.........

เธอคุกเข่าลงอย่างเจ็บปวด มองดูพื้นดินอย่างเหม่อลอย

ฉันชอบคุณมานานขนาดนี้ คุณมองไม่เห็นหรอ?

เธอก้มศีรษะลง ตั้งใจรอรถผ่านมาอยู่ตรงนี้

ไม่นานทวิติยาก็รู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายของเธอหดหายไปหมด เธอสวมใส่เสื้อผ้าผืนบางที่ใส่ออกมาจากกองถ่าย ซึ่งไม่สามารถต้านลมหนาวใดๆได้

คนเราเมื่อหดหู่ ก็จะสูญเสียความมั่นใจไปอย่างง่ายดาย

เหมือนทวิติยาตอนนี้

เธอก้มหัวของเธออยู่ระหว่างหัวเข่าของเธอ ในใจไร้ซึ่งอุณหภูมิใดๆ

และ ณ ตอนนี้ รถคันที่ขับเคลื่อนออกไปเมื่อกี้ก็หวนกลับมา จอดอยู่ตรงหน้าทวิติยา ไฟรถส่องมายังเธอ

ทวิติยาเงยหัวมองข้างหน้าอย่างมึนงง แววตาเหมือนดังดอกไม้ไฟ ประกายถึงความดีใจปนประหลาดใจ

"คุณทวิติยา เชิญขึ้นรถครับ”Miris โผล่ศีรษะจากด้านคนขับแล้วพูดกับเธอ

ทวิติยาเดินขึ้นรถอย่างไม่ลังเล

แต่ว่าภายในรถ เธอกลับมองไม่เห็นฐานทัต

"Miris เขา.....ล่ะ?” ทวิติยาปิดประตู เข้ามาในรถที่อบอุ่น ร่างกายที่เยือกเย็นของเธอยังหนาวจนสั่น

"ท่านประธานฐานทัตขับรถอีกคันกลับไปแล้วครับ” Miris พูดอย่างสั้นๆ แล้วก็ไม่พูดไรต่อ

ทวิติยาก็ไม่ถามไรต่อ แค่นี้ในใจก็อบอุ่น และดีใจแล้ว

เขา.....ไม่ได้โหดร้ายกับเธอใช่ไหม?

——

วรินทรคิดไม่ถึงว่า ทวิติยาที่ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ได้คุยกันแล้วก็ไม่เคยได้เจอกันอีก จะมาหาเธอถึงที่

และในเวลานี้เธอก็คิดได้ว่า เธอลืมเรื่องอะไรไป

เธอลืมถามฐานทัต ว่าใครกันแน่ที่เขาส่งมาช่วยเหลือเธอ....

ทั้งสองนั่งอยู่ในร้านกาแฟใต้ตึกCR ตรงหน้าวรินทรยังวางสมุดวาดภาพอยู่เล่มหนึ่ง

แรงบันดาลใจมักมากับชีวิตในประจำวัน โดยเฉพาะตอนนี้เป็นช่วงที่ขาดแรงบันดาลใจจนในใจวรินทรจะระเบิด

"มาหาฉันด้วยเรื่องอะไร?” วรินทรมองทวิติยาที่นั่งอยู่ตรงหน้า เมื่อเธอถอดแว่นดำแล้วใบหน้าเธอดูอิดโรยรอบดวงตาทาครีมบีบีไว้อย่างหนา เพื่อปกปิดดวงตาหมองคล้ำ แต่ก็ยังมองออกอยู่

"เธอ.....เมื่อคืนไปปล้นธนาคารมาหรือไง?” วรินทรมุมปากกระตุกไปมา ยกแก้วน้ำผลไม้ตรงหน้าขึ้นมาดื่ม

สภาพทวิติยาแบบนี้ เหมือนเมื่อคืนไปปล้นที่ไหนมา วรินทรยังไม่เคยเห็นเธออิดโรยแบบนี้มาก่อน

เพราะทุกครั้งที่เธอเห็นทวิติยา จะแต่งตัวด้วยชุดหรูหราสง่า แต่งหน้าประณีตสดใสพร้อมฉีดน้ำหอมชาแนล แต่วันนี้.....

เธอใส่เพียงชุดเดรสเพรียวเรียบง่าย บนตัวไม่มีกลิ่นน้ำหอม มีเพียงกลิ่นหอมจางๆจากกายเธอเท่านั้น ใบหน้าที่แต่งถึงจะเข้มไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับทุกครั้งถือว่าแตกต่างกันมาก

"ใช่ หลายวันมานี้ยุ่งจนไม่มีเวลานอน....” ทวิติยานวดระหว่างคิ้วอย่างเหน็ดเหนื่อย อาการเหน็ดเหนื่อยแบบนี้ใครเห็นก็คงไม่เชื่อว่าจะเป็นทวิติยานางแบบงามคนนั้น

"ฉันมาหาเธอ เพราะอยากถามเธอว่า หลายวันมานี้สามารถติดต่อ.......” ชื่อสุดท้ายทวิติยาใช้ภาษาฝรั่งเศสพูดออกมา วรินทรได้ยินชัดเจน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์