ตอนที่ 351 ถอดเสื้อผ้า
“อยากตายหรอ” ทาวัตพูดด้วยเสียงที่เย็นยะเยือกใช้นิ้วดีดที่หน้าผากของเธอ
เสียงใสๆของวรินทรร้องด้วยความเจ็บ ปากน้อยๆนั้นเม้มเข้าหากัน สายตามองไปที่รอยแดงบนมืออย่างใจร้อน
“พี่ นี่มัน....เกิดอะไรขึ้น” ธรรศเดินเข้ามามองจุดแดงและรอยเลือดที่อยู่บนมือและใบหน้าของวรินทรอย่างว่องไว ถามด้วยความสงสัย
“ถ้าเธอจะมาถามเรื่องที่ว่าทำไมถึงถอนสัญญากับน้ำหอมดาวรุ่ง นี่คือคำตอบ” ทาวัตย่อเข่าลงเตรียมจะนั่ง เอาแขนเสื้อของวรินทรพับขึ้นก็เห็นผิวขาวเนียนนั้นเต็มไปด้วยจุดแดง แขนอีกข้างหนึ่งก็เหมือนกัน
ธรรศพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เพราะเมื่อไหร่ที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิดกับวรินทรต่อให้เรื่องที่จะพูดต่อนั้นสลักสำคัญเพียงใดก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญลงไปเลย
เขาเดินออกจากห้องพักผ่อนหลังจากนั้นจึงปิดประตูลง
“ทาวัต ฉันทรมานจัง” วรินทรคิ้วขมวดพลางมองดูรอยแดงที่อยู่ข้างบนส่วนไหนที่ยังไม่รู้สึกคันก็รู้สึกคันยิ่งขึ้น
“ไปอาบน้ำก่อน อาบเสร็จแล้วค่อยมาทายา” ทาวัตมองจุดแดงบนแขนและบนใบหน้าเธอครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงอุ้มเธอไปยังห้องน้ำ
ห้าปีมานี้สถานที่ที่เขาใช้เวลาอยู่มากที่สุด คือบริษัทเพราะว่ามีแค่สมาธิจดจ่ออยู่กับงานถึงจะทำให้เขาลืมเธอได้ชั่วคราว และไม่ไปคิดถึงเธอ
ห้องพักผ่อนนี้เชื่อมต่อกับห้องทำงานของเขา บางทีทำงานจนดึกเขาจึงไม่กลับไปที่บ้านสวนแต่ว่ามาพักผ่อนที่นี่เลย ดังนั้นห้องพักผ่อนนี้ไม่เพียงแต่ออกแบบให้มีห้องน้ำ แต่ยังมีห้องครัวเล็กๆด้วย
ห้องครัวเขาไม่เคยใช้เลย ปกติถ้าหิวก็จะให้เลขาสั่งขึ้นมาให้
ห้องน้ำนั้นสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย แสงไฟสว่างไสว
ทาวัตเอาเธอวางไว้ในอ่างอาบน้ำ หยิบฝักบัวที่อยู่ข้างบนเปิดน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำได้แล้งจึงพูดกับเธอว่า “ถอดเสื้อผ้า”
วรินทรเดิมทีที่กำลังแอบเกาแขนอยู่ได้ยินคำที่เขาพูด เงยหน้ามองด้วยความมึนงง แล้วก็กลืนน้ำลายอย่างรู้สึกตัว
“คณ.....คณพูดว่าอะไรนะ?”
ทาวัตขมวดคิ้วเล็กน้อย มองสายตาที่สงสัยของเธอจึงพูดซ้ำขึ้นว่า “ถอดเสื้อผ้า”
ถอด....ถอดเสื้อผ้า ?!
ขอร้องล่ะเจ้านาย อย่าเอาคำว่าถอดเสื้อผ้านี้พูดอย่างบริสุทธิ์และสุภาพอย่างนี้จะได้ไหม จะทำให้เธอนึกว่าตัวเองนั้นไม่บริสุทธิ์แล้ว โอเคไหม
วรินทรรีบใช้มือจับปกคอเสื้อตัวเอง มองสายตาเขาก็ทำให้รู้สึกสั่นเทา ใบหน้าแดงนิดๆ “โรค....โรคจิต”
อะไรนะ? โรคจิตอย่างนั้นหรอ?
ทาวัตได้ยินเธอพูดอย่างนี้แล้วก็อดที่ขำเบาๆไม่ได้ สายตานั้นปรากฏให้เห็นถึงความรู้สึกอ่อนโยนและความรู้สึกขำ เขามองเธออย่างจะยั่วเล่นๆ “บนส่วนไหนของร่างกายเธอที่ฉันไม่เคยสัมผัส ไม่เคยจูบล่ะ จะอายอะไร”
เขา เขา เขา เขารุกเข้าให้แล้ว
ใบหน้าของวรินทรก็แดงกล่ำไปหมดขึ้นมาทันที เหมือนหยดเลือดที่ไหลออกมายังไงยังงั้น ริมฝีปากสั่นระริก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
เธอถูกเขาที่ไม่มียางอายเกลี้ยกล่อมเข้าให้แล้ว
“ไม่แกล้งแล้ว รีบถอด ถ้าไม่ถอดแล้วจะอาบยังไง” ทาวัตพูดกับเธอ เอาฝักบัวที่อยู่ในมือวางลง หลังจากนั้นยื่นมือไปเพื่อจะถอดเสื้อผ้าของเธอ
“รอก่อน! ฉัน ฉันทำเอง” ….วรินทรเอามือปล้องเสื้อผ้าของตัวเองทันที ใบหน้าน้อยๆของเธอนั้นแดงทำไมเขาไม่รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอย่างนี้? มียางอายหน่อยได้ไหม?
“เธอจะทำเองหรอ? ” ทาวัตจ้องมองเธอ เม้มปากครุ่นคิดอยู่สักครู่ สายตาไปหยุดอยู่ที่รอยแดงบนใบหน้า แต่สุดท้ายก็ยอมพูดว่า “ฉันรอเธออยู่ข้างนอกนะ”
พูดจบจึงเอาฝักบัวมาวางไว้ในจุดที่เธอสามารถใช้งานได้ แล้งจึงหันตัวเดินออกไปจากห้องน้ำ
เขาว่าง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่?
วรินทรเห็นเขาเดินออกไปปิดประตูเรียบร้อยแล้วค่อยโล่งใจ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกเขาเห็นทุกสัดส่วนมานานแล้ว แต่ว่าตรงจุดนี้เธอก็ยังมีความละอายใจอยู่ ถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาอย่างนั้น เกรงว่าหน้าของเธอจะร้อนวูบวาบขึ้นมาได้
น้ำร้อนที่เปิดรอไว้ในอ่างได้เสร็จเรียบร้อย เอาเสื้อผ้าถอดและวางลงบนราวเสื้อผ้า วรินทรจึงลงเข้าไปในอ่าง มองจุดแดงบนร่างกาย เธอยังคงอดไม่ได้ที่จะมองไปทิศทางอื่น อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น ร่างกายของเธอนั้นค่อยๆจมลงไปในอ่างเหลือไว้เพียงแต่ศีรษะ
น้ำร้อนนั้นเหมือนชะล้างความทรมานบนผิวกายของเธอออกไป วรินทรรู้สึกไม่ทรมานขนาดนั้นแล้ว
หลังจากอาบน้ำเสร็จวรินทรรู้สึกว่าเมื่อกี้นี้เป็นเพียงปฏิกิริยาที่เกิดจากทางจิตใจเท่านั้นเอง เพราะว่าบนร่างกายยังคงคันอยู่ แต่ก็ค่อยทุเลาลงไปบ้าง
บนราวเสื้อผ้าวางชุดคลุมอาบน้ำไว้อยู่ วรินทรเห็นชุดคลุมอาบน้ำเหล่านั้นจึงหยิบมาใส่เสียหนึ่งชุดเพราะใส่ชุดคลุมอาบน้ำจะสะดวกต่อการทายาขึ้นมาหน่อย
หลังจากที่จัดแจงอะไรเสร็จแล้วเดินออกมา ทาวัตกำลังนั่งอยู่ข้างๆเตียงตาจ้องมองจอโทรศัพท์อยู่เห็นเธอออกมาก็ตบที่นั่งที่อยู่ตรงหน้า เพื่อเป็นการบอกว่าให้เธอเข้ามานั่ง
วรินทรพลิกมือมาจับ ผมที่มัดของตัวเอง ปลายผมโดนน้ำเลยเปียกอยู่หน่อยๆเธอเอามือไว้ที่คอด้านหลังแล้วเกา
เธอเดินเข้ามาแล้วนั่งลง เหลือบมองทาวัตด้วยท่าทางที่น่าสงสาร
ทาวัตมองเธออย่างสนใจ วางโทรศัพท์หลังจากนั้นหยิบยาทาที่อยู่ข้างๆมาบีบลงบนนิ้วมือแล้วยกแขนของเธอขึ้น แล้วทาตรงจุดแดงอย่างนิ่มนวล
ยาทานั้นเพิ่มส่วนผสมสาระแหน่ลงไป ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ ทาลงไปบนส่วนที่แห้งนั้น
“ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ยังไม่ได้ทา” ....วรินทรมองเขาทายา ส่วนไหนที่รู้สึกว่านิดๆหน่อยๆยังไม่ได้ทายาให้ก็อด ไม่ได้ที่จะเอ่ยปากเตือน เธอคือนักย้ำคิดย้ำทำจริงๆ
แต่ว่ายาของหมอสเลเตอร์ยังคงมีประสิทธิภาพมากอยู่ ส่วนไหนที่ทายาแล้วนั้นก็ไม่คัน รู้สึกเย็นๆสบายๆ สบายตัว
“……” ทาวัตทำตามที่เธอบอก เอาส่วนที่ตกหล่นที่ยังไม่ได้ทานั้นทาลงไป ส่วนที่เป็นรอยขีดข่วนนั้นเขาจะระวังเป็นพิเศษ เขาแรงลงเยอะมากๆ เมื่อทาลงไปยังเข่าเบาๆอีกทำให้เธอรู้สึกไม่เจ็บ
วรินทรกัดริมฝีปากมองเขาทายาให้ตัวเอง ริมฝีปากอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น ยิ้มอย่างอ่อนหวานเหมือนกับได้รินรดน้ำหวานลงไป
สมาธิของเขาจดจ่อเป็นอย่างมาก แรงเบาและนุ่มนวล สายตาที่มองลงไปได้ระวังความรู้สึกของเขาไว้ แต่ว่าท่าทางที่อ่อนนุ่มลง จากใบหน้าของเขาที่ชัดเจนนั้นก็สามารถเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเอาใจใส่
กลิ่นหอมสาระแหน่จางๆ พัดมาจากร่างกายของเขาที่เต็มเข้าไปในลมหายใจเพียงแค่ วรินทรได้กลิ่นอย่างนี้ ก็รู้สึกในใจนั้นสงบอย่างบอกไม่ถูก
ห้องพักนั้นเงียบสงบมาก พื้นเพดานสาดส่องแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังตก แสงสีทองเหมือนฉาบสีน้ำผึ้งไปอีกชั้น
ทันใดนั้นในใจของวรินทรก็เงียบสงบ
แต่ว่า
วินาทีต่อมาเธอจึงสังเกตเห็นอย่างว่องไวว่าปกคอของเสื้อคลุมอาบน้ำถูกทาวัตเลื่อนออกมาถึงส่วนไหล่แล้ว
น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้ทายายาก เขาจึงถือโอกาสยื่นมือเอาเสื้อที่อยู่บนไหล่ของเธอดึงมา
โชคยังดีที่แอร์ในห้องพักนั้นปรับให้อุณหภูมิอุ่นพอ ดังนั้นวรินทรกลับไม่รู้สึกหนาวแต่แค่สงสัยกับพฤติกรรมนี้ของเขาทันที หลังจากนั้นก็ถกเสื้อของตัวเองขึ้นมา มองเขด้วยอาการที่ทั้งอายทั้งโกรธ
“คณ คณ คณจะทำอะไร?” วรินทรเสียงติดอ่างเห็นสีหน้าเต็มๆของเขามีความรู้สึกว่าไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
“ทายาไง เธอคิดว่าเธอเป็นอย่างนี้ ฉันยังจะทำอะไรเธอหรอ” สีหน้าของเขาเฉยเมย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์