ตอนที่ 352 ผมเตือนคุณอย่ายุ่งกับเธอ
อย่างนี้แล้วกลับทำให้วรินทรรู้สึกว่าความคิดตัวเองไม่บริสุทธิ์ เขาตั้งใจทายาให้ตัวเธอเองแต่ในสมองของเธอก็ยังคิดเรื่องอะไรเลอะเทอะ
วรินทร เธอนี่มันจริงๆเลยนะ ใจนิ่งเข้าไว้ นิ่งเข้าไว้สิ
“ฉัน ฉันทาเองได้” ....ในใจวรินทรยังคงรู้สึกแปลกๆอยู่ อีกทั้งสายตาของเขาก็ยังเฉยเมยซื่อตรงมากยิ่งขึ้น วรินทรก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิดตัวเองไม่บริสุทธิ์ยากที่จะเฉยเมย
“เธอจะเกร็งอะไร” ทาวัตชำเลืองมองเธอ หลังจากนั้นก็เข้าใกล้เธอลมหายใจที่ร้อนนั้นรดบนใบหน้าของเธอ คิ้วกระดกขึ้นเล็กน้อยมองเธอด้วยความทะเล้น
“เกร็ง ใครเกร็งล่ะ ฉันมีมือ ฉันทาเองได้” วรินทรรีบปฏิเสธคำพูดของเขาทันทีคำพูดนั้นออกจะติดอ่าง ในใจเธออดไม่ได้ที่จะดูถูกตัวเอง ว่าตกลงแล้วเธอจะอายบ้าอายบออะไร
ใจนิ่งเข้าไว้ ใจนิ่งเข้าไว้ใจนิ่งเข้าไว้
ยิ่งพูดอยู่ในใจมากเท่าไหร่ ในใจของวรินทรก็ยิ่งไม่มีวิธีที่สงบลงไปได้
แววตาของทาวัตนั้นยิ้ม มองสายตาของเธอที่มองมามีความสับปลับ
เขาถอยหลังมา ยื่นยาทาในมือส่งให้เธอโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อ “อื้ม ทาเอง”
เป็นรอบที่สองที่เขาว่าง่าย.....
วรินทรทอดถอนใจ รู้สึกว่ามีความผิดปกติอยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนทาวัตจะต้องเป็นคนทายาให้เธอ วันนี้ทำไมถึงว่าง่ายอย่างนี้ล่ะ
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรอ?
วรินทรรีบหยิบยาทามา กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจยื่นมือมาบีบยาทา
แล้วทาไปบนไหล่ของตัวเธอเอง
ทาวัตพิงกำแพง สายตามองเธอทายาอย่างสบายอารมณ์
ทาส่วนไหล่เสร็จ วรินทรจึงจะทาช่วงส่วนล่าง
แต่ช่วงส่วนล่างคือ
เดิมทีใบหน้าของวรินทรที่ผ่อนคลายลงแล้วนั้นก็กลับแดงขึ้นอีก บนมือที่มียาทานั้นจะทาก็ไม่ทา พูดว่า “ คณ คณหันตัวกลับไปได้ไหม”
ทาวัตขมวดคิ้ว มองสายตาของเธอที่แฝงไว้ด้วยความไม่สบายใจ “ถ้าพูดมากอีกฉันจะช่วยเธอเอง”
“..........” วรินทรเม้มปาก แววตาหันกลับมา หลังจากนั้นก็รีบหันตัวเองกลับไปหันหลังให้ทาวัต แล้วเอายาทา
ทาวัตมองผู้หญิงตัวเล็กที่หันหลังให้ตัวเองด้วยความแปลกใจ มุมปากยกยิ้ม รู้สึกฉลาดขึ้นไม่ให้เขาหันตัว แต่กลับเป็นตัวเองที่หันตัวให้เขา
หลังจากทาตรงจุดนั้นและท้องเสร็จ มือของวรินทรก็หยุดลงอีกครั้ง
เธอกลับพบว่า.......
เสื้อคลุมอาบน้ำมันเชื่อมติดกัน ถ้าจะทาบนขาและส่วนอื่นๆ อย่างนั้นก็จะ......
เธอสามารถไปทาในห้องน้ำได้ไหม
วรินทรหันตัวกลับมา หรี่ตามองทาวัต กลับเห็นใบหน้าของเขาที่แสดงถึงความภาคภูมิใจ แต่แค่แวบเดียวเท่านั้น เสมอเหมือนเป็นภาพลวงตาของเธอเอง
เพราะว่าอาการท่าทีของเขาบอกชัดว่า “ถ้าไม่รีบทาอีกฉันจะจัดการเธอนะ” ถ้าเธอกล้าที่จะพูดว่าให้เขากลับไปหรือให้เขาออกไปข้างนอก วันนี้ก็ไม่ต้องคิดที่จะออกไปที่นี่หรอก..........
“เธอมองฉันอย่างนี้ อยากให้ฉันทายาให้เธอใช่ไหม? ” ทาวัตมุมปากยกขึ้นเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมามือเขาจึงยื่นไปหยิบยาทามาจากมือของเธอ โยนมันทิ้งลงตระกร้าอย่างเป๊ะ หยิบหลอดใหม่ที่อยู่ข้างๆมา
“ฉัน” วรินทรงุนงง เธออยากให้เขาทายาให้เธอเสียที่ไหนกันล่ะ
“อืม ฉันจะตอบสนองความปรารถนานี้ของเธอเอง ไม่ต้องมองด้วยความซาบซึ้งอย่างนี้ ทาวัตท่าทียกอกขึ้น” ทาวัตท่าทีที่ยกรอยยิ้มที่มุมปากนั้นลึกซึ้งเอาเสื้อผ้าของเธอนั้นดึงลง
ไม่ได้ซาบซึ้งอะไรเลยนะเนี่ย
วรินทรถูกผลัก จ้องมองดวงตาคู่นั้นลมหายใจติดอยู่ที่ลำคอไม่รู้ว่าจะออกทางไหน
ทาวัต เธอมีอย่างอายหน่อยได้ไหม มีหน่อยจะได้ไหม
——
หลังจากที่ออกมาจาก CR แล้ว นิรมลก็ถูกผู้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลเวลานี้กำลังต่อกระดูกใส่เฝือกอยู่แพทย์แนะนำว่าทางที่ดีคือให้แอดมิทที่โรงพยาบาล
นิรมลใช้ชีวิตอยู่กับแม่ของเธอญาณินี พ่อของเธอได้แต่งงานกับบ้านสุขกาล ดังนั้นเธอจึงใช้นามสกุลตามแม่ พ่อของเธอเสียชีวิตเมื่อเธอเพิ่งเกิดได้ไม่นาน เรื่องราวที่เกี่ยวกับพ่อนิรมลรู้และเข้าใจน้อยมากๆ
เป็นเพราะเธอใช้ชีวิตอยู่กับญาณินีมาโดยตลอดนี่เอง บ้านสุขกาลทั้งรักและหลง ตอนเป็นเด็กก็มีนิสัยที่ทั้งดื้อและเอาแต่ใจตัวเอง ไม่เคยได้รับความลำบากอะไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ถูกคนอื่นหักแขนอย่างนี้หรอก
ตอนที่ต่อกระดูกนั้น เธอเจ็บจนเป็นลมไป ตอนนี้ยังไม่ฟื้น
ทางเดินข้างนอกห้องผู้ป่วย VIP เงียบสงบและสะอาด ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
“ผู้ชายคนนั้นช่างใจกล้านัก ที่กล้าทำลูกสาวของฉัน” ญาณินีเอามือกอดอกยืนอยู่ข้างหน้าห้องที่มีกระจกบานใหญ่อยู่ มองนิรมลที่นอนอยู่บนเตียงข้างใน สายตาคู่นั้นที่เหมือนนิรมลเต็มไปด้วยความโกรธ
ประภาพเอียงพิงกับกำแพง ไม่เห็นด้วยแล้วก็ไม่คัดค้านต่อคำพูดของญาณินี “ผมแนะนำว่าทางที่ดีอย่าไปดูถูกเขาอย่างน้อยในประเทศ C นี้ก็ไม่มีใครกล้าหือเขา”
เสียงของเขาเมินเฉย แต่กลับมีสายตาที่เคร่งขรึมเด็ดขาด
ญาณินีเก็บสายตาความรู้สึกไว้ ใบหน้าที่ดูแลรักษามาตลอดทั้งปีมองไม่เห็นถึงร่องรอยความแก่ แต่กลับมีเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่แทน “ฉันเชื่อว่าคุณประภาพมีความสามารถนี้อย่างแน่นอน”
“แน่นอน แต่ว่านี่จะอยู่ในเงื่อนไขแรกที่ว่าจะต้องไม่ได้อยู่ในประเทศ C นี้” ประภาพไม่ได้ปฏิเสธ
“ถ้าอย่างนั้นแล้วแค่ไม่ได้อยู่ในประเทศ C คุณก็จะสามารถช่วยแก้แค้นแทนลูกสาวของฉันได้ใช่ไหม”
“พูดตลกแล้วครับ แม้ว่าจะไม่อยู่ในประเทศ C แล้วอยากให้เขาตายนั่นก็ยังคงเป็นไปไม่ได้” ประภาพส่งเสียงเหอะเบาๆ มองสายตาของญาณินีด้วยความเย้ยหยัน
ไร้เดียงสา ถ้าฆ่าทาวัตให้ตายมันง่ายอย่างนี้จริง คงมีคนลงมือจัดการไปนานแล้วล่ะ
ญาณินีไม่ได้เก็บความเย้ยหยันของเขามาใส่ใจ นิ้วมือที่ทาเล็บสีแดงนั้นทำท่าทางขีดกระจกที่อยู่บนหน้าต่างไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้ “ฉันได้ยินมาว่า เขารักภรรยาของเขามาก อย่างนั้นใช่ไหม”
สายตาของประภาพไม่รู้ว่าเย็นชาลงเมื่อไหร่ เหมือนคมมีดที่ยิงไปทางญาณินี “คุณคิดจะทำอะไร”
“คุณว่าไงล่ะ”
“ผมเตือนคุณ อย่ายุ่งกับเธอ ไม่อย่างนั้นแล้วอย่ามาโทษผมที่จะตัดขาดความร่วมมือ”
นาทีนั้น บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกและเงียบสงบ สายตาคู่นั้นหันเข้าหากัน เปล่งประกายไฟอย่างดุเดือด
ผ่านไปครึ่งวัน น่าจะเพราะสายตาประภาพที่เย็นชาเกินไปและเคร่งขรึมนั้น ญาณินีจึงเป็นฝ่ายประนีประนอมก่อนว่า “คุณประภาพ ท่าทางของคุณอย่างนี้ คนที่ไม่รู้ยังนึกว่าวรินทรเป็นอะไรกับคุณเสียอีกนะเนี่ย”
ประภาพทำเสียงเหอะเบาๆ สายตายังคงเยือกเย็นอยู่แบบเดิม
ญาณินีก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่ในใจนั้นควบคุมความโกรธไว้ไม่อยู่ และไม่สามารถที่จะระบายได้เก็บไว้ในใจนั้นทรมานจริงๆ
เธอหยิบแฟลชไดร์ฟออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ประภาพ “ไอแก่นั่นมีแผนที่จะเอาวงศ์ตระกูลถ่ายทอดให้โตษิณ แม่ให้ฉันมาถามคุณว่าตกลงเมื่อไหร่จะลงมือ”
“ยังไม่ถึงเวลา” ประภาพรับแฟลชไดร์ฟมาดู หลังจากนั้นก็กำไว้ในมือ
“ยังไม่ถึงเวลา ? แล้วเมื่อไหร่ถึงจะถึงเวลา” น้ำเสียงของญาณินีรีบร้อน บวกกับความโกรธ
ทุกครั้งก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา ยังไม่ถึงเวลา คำพูดนี้ญาณินีฟังมาจนพอแล้ว
ถ้าผลัดต่อไป ทั้งบ้านสุขกาลก็ตกอยู่ในมือโตษิณไม่ช้าก็เร็ว
“ถ้าคุณไม่ยอมรอ คุณจะตัดขาดความร่วมมือไปก็ได้นะ ผมไม่ได้บังคับพวกคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์