หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 354

ตอนที่ 354ทางที่ดีที่สุดคือไม่ต้องพบกันอีกเลย

“อืม ที่มาเพราะมีเรื่องนิดหน่อย วันนี้เขาค่อนข้างยุ่ง” วรินทรไม่เคยชินน้ำเสียงของเธอที่ดูสนิทสนมอย่างนี้เหมือนแต่ก่อนคำพูดของเธอนั้นมีความเสียดสีอยู่ เธอยังรู้สึกว่ามันปกติอยู่บ้าง

เธอก็ไม่ได้โกหก ทาวัตวันนี้ยุ่งมากๆช่วงเช้ามีประชุมสำคัญ ช่วงบ่ายยังจะต้องไปรับแขกจากต่างประเทศเพื่อไปกินข้าว ดังนั้นเธอจึงต้องมาเอง

ธารีพยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไร

ก็พอดีกับพนักงานเอาเครื่องดื่มที่พวกเธอสั่งเมื่อกี้นี้มาให้ ขณะที่เอาเครื่องดื่มที่อยู่ในถาดวางลงก็ไม่รู้ว่ายังไง พนักงานเพิ่งจะเดินมาถึงที่โต๊ะในระยะที่ใกล้มาก ทั้งตัวนั้นก็ล้มไปทางทิศที่วรินทรนั่งอยู่ทันที

ยังดีที่พนักงานไหวตัวทัน ข้อศอกนั้นจึงเบนออกไปหน่อยทำให้เครื่องดื่มบางส่วนนั้นหกใส่เสื้อผ้าของวรินทร

วันนี้วรินทรใส่เสื้อโค้ทสีขาว ถูกน้ำมะนาวปั่นหกใส่ยังไม่เป็นไรแต่ถูกช็อคโกแลตร้อนหกใส่เสื้อชุดนี้ก็ถือว่าเสียหาย

“ขอ ขอโทษค่ะ คุณผู้หญิง คุณไม่ได้ถูกลวกตรงไหนใช่ไหมค่ะ” สีหน้าพนักงานนั้นซีดรีบวางถาดที่อยู่ในมือลงไปดูวรินทร

ดีที่วันนี้วรินทรใส่มาหนาเลยไม่ถูกลวก แต่แค่รอยที่อยู่บนเสื้อนั้นดูไม่ได้เลยจริงๆ

“เธอทำอีท่าไหนเนี่ย ถ้าถูกลวกจนได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจะทำไง ? ” ธารีเลิกคิ้วขึ้นทำเป็นต่อว่าพนักงาน หลังจากนั้นหยิบทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะยื่นให้วรินทร “อ่ะ เช็ดซะหน่อย”

พนักงานรู้สึกน้อยใจ พื้นของที่นี้ไม่ลื่นและก็เรียบมากเมื่อกี้เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนถูกอะไรผลักแล้วเสียการทรงตัวเครื่องดื่มก็เลยหกใส่คนอื่น

แต่ว่าบนพื้นก็ไม่มีหินแล้วก็ไม่มีที่ที่เป็นรอยนูนด้วยนิ ทำไมเธอถึงเสียการทรงตัวล่ะ

วรินทรมองเสื้อของตัวเองที่เปื้อนไปด้วยสีช็อคโกแลต คิ้วขมวด ร่างกายนี้ไม่ได้ถูกน้ำร้อนลวกแค่เสียดายเสื้อตัวนี้ เสื้อสีขาวที่เธอนั้นชอบมากที่สุด

เธอส่งสายตามองพนักงานด้วยความห่วงใยและรู้สึกระอาย เธอยิ้มแล้วส่ายหัว “ฉันไม่ได้ถูกลวกตรงไหนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้แล้ว”

“นั่นสิ ไปเปลี่ยนเถอะ ที่นี่มีร้านเสื้อผ้าอยู่ทุกที พวกเราไปซื้อซักตัวเถอะ” ธารีโล่งใจหลังจากนั้นเลื่อนรถเข็นออกจากที่นี่

วรินทรก็ไม่ได้ปฏิเสธ ถึงอย่างไรเสียเสื้อผ้าตัวนี้ก็ดูไม่ได้อยู่แล้ว

“เครื่องดื่มนี้ฉันจะรับผิดชอบเองค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะ” พนักงานเห็นพวกเขาไม่ได้ซักถามจึงโค้งตัวขอโทษ แล้วก็รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ

คนที่อยู่ในห้างนี้มานานก็มองออกว่า เสื้อที่วรินทรใส่นั้นเป็นแบรนด์เนมถ้าจะชดใช้จริงๆเกรงว่าจะจบกัน

วรินทรกับธารีเดินเข้าไปในหน้าร้านที่สไตล์โดดเด่น วรินทรเดินวนๆในร้านเห็นเสื้อ โค้ทยาวสีขาวเหมือนกับที่เธอใส่อยู่จึงให้พนักงานมาหยิบลงให้แล้วไปที่ห้องลองเสื้อ

“เอาเสื้อผ้าของเธอมาให้ฉันก็ได้ ฉันช่วยเธอถือ เธอเข้าไปเปลี่ยนเถอะ” ธารียิ้มแล้วก็พูดไปทางเธอ

วรินทรไม่ได้เอะใจอะไร จึงยืนเสื้อส่งให้เธอหลังจากนั้นถือกระเป๋าเข้าไปในห้องลองเสื้อ

หลังจากที่เธอเข้าไป มือของธารีก็คลำเสื้อส่วนล่างไม่นานก็พบสิ่งนูนๆบนนอกเสื้อผ้าเธอยิ้มอย่างภาคภูมิใจ หลังจากนั้นหยิบมันออกมาไว้ในกระเป๋าของตัวเอง

เป็นโทรศัพท์ของวรินทร

ไม่นาน วรินทรจึงเดินออกมาจากห้องลองเสื้อ ร่างนั้นใส่เสื้อโค้ทยาวสีขาว วันนี้เธอใส่กางเกงเลกกิ้งสีดำใส่รองเท้าบูทยาวหนังเก้งเหมาะกับเสื้อโค้ท ทั่วตัวนั้นเต็มไปด้วยรสนิยมที่ตามกระแสแฟชั่นทำให้คนอดไม่ได้ที่จะมอง

แววตาที่อ่อนโยนของธารีมีความริษยาอยู่ แต่ไม่ช้าก็ถูกเธอระงับไว้กลายเป็นความอ่อนโยน

“เหมาะกับเธอมากเลยล่ะ ถ้างั้นก็เอาตัวนี้ไหม ? ” ธารีชมด้วยความไม่จริงใจ

วรินทรก็ชอบเสื้อตัวนี้มากไม่ได้ลังเล เลยหยิบบัตรในกระเป๋าตังยื่นให้พนักงานรูดพร้อมบอกกับพวกเขาว่าเธอจะใส่ชุดนี้ออกไปเลยไม่ต้องใส่ถุง

สายตาของธารีหยุดที่บัตรที่เธอถือชั่วขณะ ทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดออกมา “ทาวัตดีกับเธอจริงๆ ข้างในบัตรนี้เงินคงเยอะนะ”

วรินทรส่งเสียง หื้ม ? กดหมายเลขบัตรลงเครื่องแล้วพูดว่า “นี่คือบัตรของฉันเอง”

หลายปีนี้ตัวเธอ เมื่อทำงานอยู่ FS ก็มีเงินเก็บไว้ไม่น้อย อีกทั้งเงินเดือนที่อยู่ CR ก็สูงเพิ่มขึ้นเยอะมากสองสามเดือนมานี้เธอจึงมีเงินทุนเล็กน้อย

ซื้อแค่ชุดเดียวเอง ไม่ใช่ว่าตัวเธอจะซื้อไม่ได้

เธอมองธารีด้วยความรู้สึกขำ รับถุงหิ้วจากพนักงานเอามาใส่เสื้อที่เปื้อน เมื่อเดินออกจากร้านออกมาทิ้งขยะที่อยู่ข้างนอก

ธารีไม่ได้พูดอะไร ความอิจฉาที่อยู่ในแววตากลับเพิ่มมากขึ้น

“จันทรายังไม่กลับมา ไม่งั้นพวกเราก็เดินแถวๆนี้ก่อนไหม ? ” ธารีเสนอเธอเห็นจันทราในทิศทางเพิ่งเดินจากไป แน่ใจแล้วว่าเวลานี้จะไม่มา น่าจะอีกสักพักนึงถึงจะมา

เธอยังมีเวลา

“เออ วันนี้เขาบอกฉันว่า จะรับเธอไปหาเขาที่นั่น เห็นบอกว่ามีเรื่องที่ต้องการพบเธอ เธอจะไปไหม” คนทั้งสองไม่ได้ไปยังชั้นบน ลิฟต์คนค่อนข้างเยอะบวกกับธารีนั้นนั่งรถเข็น คนทั้งสองจึงเดินเล่นอยู่ชั้นหนึ่ง

ธารีรีบพูดขึ้นมาทันทีอย่างนี้ ทำให้วรินทรแปลกใจหลังจากนั้นก็ดีใจ

ธารีติดต่อกับพี่ชายของเธอได้แล้วหรอ

วรินทรกัดริมฝีปากล่าง หมอกหนาทึบที่อยู่ในใจยังเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

เพียงแค่จะไปดูว่าคนนั้นใช่พี่ชายของเธอไหม เรื่องราวทั้งหมดก็จะคลี่คลายลง ซ้ำยังหมู่นี้ยังติดต่อเขาไม่ได้ ไปดูเขาก็ดีเหมือนกัน

“เขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” ปลอดภัยไว้ก่อนวรินทรไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่ฐานทัตอยู่ที่ประเทศ C แล้ว แต่กลับถามธารี

สายตาของธารีมีความไม่แน่ใจ เพียงแวบเดียวก็รู้ว่าเดิมทีคนนั้นไม่ได้อยู่ในประเทศ C เลย

“ก็ไม่นานนี้เอง เธอไม่รู้หรอ ? ”

วรินทรส่ายหัว มองเธอด้วยใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็น

ความหวาดระแวงที่อยู่ในใจของธารีลดลง ยิ้มพร้อมพูดว่า “เขาบอกว่าคิดถึงเธอมาก อีกเดี๋ยวคาดว่าจะส่งคนมารับแล้วล่ะ”

“ได้เลย เมื่อไหร่” วรินทรพยักหน้ารับกระจิตกระใจอยู่ไม่นิ่ง เพราะอีกสักพักจะพบฐานทัตแล้วควรจะถามเขาว่าอย่างไรดี ไม่เห็นสายตาของธารีที่อยู่ด้านหลัง

“น่าจะอีก 30 นาทีนะ เขาบอกจะส่งคนมารับ” ธารีพูดเบาๆสีหน้านั้นดูธรรมชาติ มองไม่เห็นความผิดปกติ “เฮ้อ แต่เขาไม่ได้บอกว่าอยากเจอฉัน ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง”

ตอนนี้วรินทรเชื่อมาระดับนึง ฟังธารีพูดอย่างหดหู่จึงปลอบใจเธอ “ไม่เป็นไร ยังมีเวลาให้เจอกันอีกเยอะ”

สีหน้าที่เสียใจของธารี ค่อยผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย ในใจกลับอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยมีเวลาอีกเยอะ ใครอยากจะมีเวลาเจอกับพวกแกอีกเยอะ ทางที่ดีไม่ต้องเจอกันอีกเลยจะดีกว่า

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ธารีบอกกับวรินทรว่าให้เป็นจุดสนใจไม่ได้ ดังนั้นจึงพาวรินทรไปที่ประตูหลังของห้างออกไปจากทางนี้

จริงๆแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับประตูปกติแล้ว ประตูหลังแทบไม่มีคนเลยในนี้ยังมีสวนย่อมเล็กๆซ้ำยังไม่เชื่อมกับถนนสายหลัก เป็นถนนสายเล็กๆและยังเป็นจุดที่ลับกล้องวงจรปิดด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์