หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 359

ตอนที่ 359 มีฝ่ายตรงข้ามที่สงสัยไหม

ซ้ำยังเป็นยาที่ธารีโดนนั้นก็มีส่วนคล้ายกับที่ยายของเขาโดนในปีนั้น

จะว่าไปแล้ว ก็คือเกิดขึ้นในที่เดียวกัน

“หมู่นี้เมือง A มีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม” สีหน้าของทาวัตเมินเฉย สายตานั้นหันมาจากสถิติที่อยู่บนหน้าจอแล้วถามขึ้น

“เหมือนไม่มี”.......ธรรศคิดอย่างละเอียดรอบคอบลูบคางไปมา “จะว่ามี ก็น่าจะเป็นที่หมู่นี้มีคนที่ไม่ใช่เมือง A เข้ามาไม่น้อย ผมให้คนไปสืบค้นเป็นพิเศษเป็นเพียงแค่คนงานธรรมดา”

แววตาของทาวัตเปล่งประกายเล็กน้อย “ตอนนี้นายให้คนไปหาคนพวกนั้นสิดูว่าพวกเขายังอยู่หรือเปล่า”

ธรรศเหมือนจะคิดอะไรได้ พยักหน้าเดินไปอีกฟากหนึ่งเพื่อโทรศัพท์

ผ่านไปหลายนาที หน้าของเขาถูกแทนที่ด้วยความกังวล สายตาที่มองทาวัตนั้นซับซ้อน “พี่ คนเหล่านั้นท่ามกลางคืนนั้นได้หายไปแล้ว”

เขาประมาทเลินเล่อจริงๆด้วย

ถ้าเป็นแค่คนงานธรรมดา ทำไมต้องจงใจมาที่เมือง A จะว่าไปเมืองเหล่านี้ของประเทศ C เว้นระยะห่างกันไม่ไกล โดยทั่วไปมีคนน้อยมากที่จะทิ้งพื้นเมืองและหลบภัยไปใช้ชีวิตที่อื่น

ซ้ำยัง ประเทศ C ยังติดชายฝั่งทะเลเมืองส่วนใหญ่ห่างไปค่อนข้างไกล ซ้ำยังเป็นส่วนที่ต้องสัญจรทางน้ำ

แต่ว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ในขณะนี้ธรรศเพิ่งจะสัมผัสถึงความผิดที่ร้ายแรงจนกลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภัยอย่างลึกซึ้ง

“ไปสืบดู ขอเพียงแค่เคยอยู่ที่ไหนสักที่ก็จะมีร่องรอยเหลือทิ้งไว้” ทาวัตชำเลืองตามองเขาและไม่ได้ตกใจกับผลลัพธ์ เหมือนคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว

ธรรศก้มศีรษะลงด้วยความเสียใจ หลังจากนั้นพยักหน้าแล้วรีบลงไปส่งคนให้ไปสืบ

“นรชัย นายส่งคนให้เอาพวกสนามบิน รถไฟ ท่าเรือ สถานที่เหล่านั้นปิดให้หมดเช็คให้ละเอียด โดยเฉพาะท่าเรือพวกคนเหล่านั้น อาจจะเป็นไปได้ที่จะหนีออกไปทางท่าเรือ” ทาวัตยืนพิงหลังเหมือนกับว่าไม่รีบร้อนอะไรนิ้วมือนั้นพับปลายแขนเสื้อขึ้น

นรชัยพยักหน้า สายตาหยุดมองที่ปลายแขนเสื้อชั่วครู่ นี่คือท่าทางเขาชอบเก็บความคิดไว้ในใจ และก็เป็นท่าทางหนึ่งที่คลี่คลายความกระสับกระส่ายที่อยู่ในใจ

“พวกเราล่ะ พวกเราทำอะไรได้บ้าง” คาร่าเห็นธรรศและนรชัยถูกส่งตัวไปทำหน้าที่ พวกเขาก็ไม่สามารถว่างๆได้อยู่ใช่ไหม

ทาวัตกลับส่งสายตามาที่ตวัสพูดกับเขาว่า “ผมรู้ว่าบริษัทคุณด้านหลักๆเลยคือการติดต่อสื่อสารและเน็ตเวิร์ก”

ตวัสเข้าใจความหมายของเขา ไม่ได้ถามไรมากแล้วจึงพยักหน้า

คาร่าฟังแล้วมีความไม่เข้าใจ แต่ว่าทาวัตกับตวัสไม่ได้อธิบายอะไรได้แค่เก็บความสงสัยไว้และเดินออกไปพร้อมกับตวัส

หลังจากที่พวกเขาออกไป กวินก็กระโดนขึ้นไปที่ม้านั่งเล็ก มองแดดดี๊ของตัวเอง ดวงตานั้นสว่างสไหว “แดดดี๊ผมสามารถทำได้หลายเรื่องเลยฮะ”

“ถึงเวลาตรวจรับคะแนนของลูกแล้วล่ะ” ทาวัตชี้โน๊ตบุ๊คที่เขาวางไว้ ไม่กล้าจากโซฟาปากพูดขึ้น “แดดดี๊ให้เวลาครึ่งชั่งโมง เอาเอกสารองค์กรของประเทศรวบรวมออกมา”

“แดดดี๊นี่กำลังขูดรีดเด็กอยู่นะ” กวินแบะปากท่าทางน่าสงสาร แต่ว่าในใจนี้เบิกบานนานแล้ว

นี่คือด้านที่เขาถนัด ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับเขา

กวินรีบโดดลงจากม้านั่ง เดินไปนั่งที่โซฟา เอาโน๊ตบุ๊คนั้นเปิดขึ้นเริ่มทำงาน

รอยยิ้มที่มุมปากของทาวัตนั้นค่อยๆหายไปเมื่อสายตามองกรอบรูปที่วางไว้บนโต๊ะก็หดตัวลงทันที

ทันใดนั้นเขาจึงหยิบโน๊ตบุ๊คออกมาจากซอกในใต้โต๊ะ โน๊ตบุ๊คภายนอกนั้นสีเขียวเข้มข้างบนมีสัญลักษณ์สีดำหยาบ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นประเภทของนกที่มองไม่ออกว่าพันธ์อะไร แค่ภาพวาดนั้นหยาบและเข้มงวด

นี่คือสัญลักษณ์ของค่ายฝึกอบรม ทำให้คนมองแล้วเกิดความพรั้นพรึงในใจ

สุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพเข้มแข็ง

คำสั่งลับหรือเอกสารที่ใช้คอมนี้ส่งออกไป จะไม่ถูกระบบใดๆตรวจสอบและไม่ถูกยับยั้งเป็นโน๊ตบุ๊คเฉพาะทางค่าย

ทาวัตจึงร่างคำสั่งลับฉบับหนึ่งอย่างรวดเร็ว และใส่สัญลักษณ์ระดับชั้นข้างใต้รหัสลับว่า “S”เพื่อเป็นการบอกว่าเป็นภาระกิจที่เร่งด่วน

เพื่อเป็นการบอกว่านี่เป็นภารกิจที่เร่งด่วน

บนหน้าจอนั้นเด้งคำสั่งออกมา ไม่นานคำสั่งลับจึงถูกส่งออกไป

คำสั่งลับจะถูกส่งไปให้สำนักงานใหญ่ค่ายอบรม ปฏิบัติการคำสั่งลับนี้ใช้เวลาแค่ 20 นาที

และในเวลานี้ กวินได้เอาข้อมูลที่ทาวัตต้องการรวบรวมไว้เสร็จแล้วถือโน๊ตบุ๊คเดินไปข้างๆทาวัต เอาโน๊ตบุ๊ควางไว้โต๊ะคอม “แดดดี๊ทั้งหมดมี 24 องค์กรหลัก องค์กรอื่นๆเป็นส่วนที่ไม่สำคัญก็อยู่ในนี้ด้วย”

กวินแอบเข้าไปในส่วนในของคนเหล่านั้นเอาข้อมูลออกมาแล้วก็ Copy ข้อมูลในเวลาที่กำหนดนั้น สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

บวกกับครั้งที่แล้วที่ทาวัตให้ข้อมูลฉบับนั้นกับเขา ยิ่งทำให้การใช้คอมของเขาอยู่ในระดับที่ดีขึ้นมาก ลงมือทำนั้นก็ยิ่งเร็วมากยิ่งขึ้น

“ลูกเก่งจริงๆ” ทาวัตหอมแก้มของเขาเพื่อให้รางวัล หลังจากนั้นเปิดข้อมูลเหล่านั้นและดูอย่างรวดเร็ว

จริงๆแล้วข้อมูลเหล่านี้ค่ายอบรมก็มี ในใจครึ่งนึงของทาวัตอยากให้กวินไปสืบค้นก็เพื่อดูว่าหลังจากที่เขาให้ข้อมูลฉบับนั้นแก่เขาไปแล้วความสามารถได้พัฒนาขึ้นหรือเปล่า

และก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังข้อมูลที่เขารวบรวมมานั้นละเอียดเยอะกว่าค่ายอบรมเสียอีก

“แดดดี๊ ช่วงนี้อยากหาองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หรอ เมื่อกี้ผมเพิ่งดูมา ทั้งหมดนี้ปกติไม่มีอะไรผิดปกติ” กวินพูดเสร็จแล้วเม้มปาก

“ไม่แน่ คนที่สามารถทำให้วรินทรเชื่อและไปด้วยกันกับเธอ ไม่ใช่แค่เธอเพียงคนเดียวแน่ ถ้าเบื้องหลังไม่มีใครหนุน คงไม่ทำสำเร็จได้ง่ายอย่างนั้นหรอก” ทาวัตมองข้อมูลเหล่านั้นพลางอธิบายให้กวินฟัง

มือข้างหนึ่งของกวินนั้นจับอยู่ที่คาง ขมวดคิ้ว หลังจากนั้นจึงหันหน้าไปทางเอ “เอ เอคุ้นเคยกับที่นี่ มีคนฝั่งตรงข้ามที่สงสัยบ้างหรือเปล่า”

เอส่ายหัว พูดว่า “อิทธิพลส่วนใหญ่ของประเทศ Cอยู่ในมือของพวกเราพอมีความผิดปกติ พวกเราก็จะรู้”

“ลูกไปกับแดดดี๊สักทีนึงสิ” ทาวัตปิดคอมทันที ยืนขึ้นแล้วพูดกับกวิน

กวินพยักหน้าอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ แล้วเดินออกไปกับทาวัต

เหมือนโลกทั้งใบนั้นสั่น

วรินทรถูกคลื่นสั่นและเสียงที่ดังปลุกให้ตื่นขึ้น เธอค่อยๆลืมตาสิ่งแรกที่มองเห็นก็เป็นแผงกระดานไม้มองไปข้างบนก็ยังเป็นไม้

เธอคลึงคอที่ปวดข้างหลังจับแผ่นไม้แล้วนั่งลง

กลิ่นคาวของน้ำเค็มนั่นทำให้เธออดไม่ได้ที่จะจาม

หลังจากนั้นเธอเพิ่งจะสังเกต

นี่ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนห้องโดยสารของเหลือกั้นไว้ด้วยไม้ยังสามารถได้ยินเสียงคลื่นทะเลดังกังวาน เมื่อที่นี่เธอถูกปลุกด้วยเสียงนี้

งั้นตอนนี้เธอก็อยู่ในทะเลแล้วสิ ?

วรินทรคิดมาถึงตอนนี้อดไม่ได้ที่ตัวจะสั่น หลังจากนั้นจึงยืนขึ้นมองเห็นทางได้อย่างถูๆไถๆ แต่กลับมองอะไรไม่เห็นตรงหน้าเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์