หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 362

ตอนที่ 362 แม่ได้รับบาดเจ็บ

และในตอนนี้วรินทรเพิ่งจะเดินถึงประที่ห้องในเรือ เปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ ตอนที่กำลังเดินเข้าไปได้ยินเสียงของคนข้างหลังสองคน “ปัง”

เธอย่นคิ้ว และมองออกไป ถึงกับตกใจ

“ประภาพ?” เธอเห็นประภาพต่อยสองคนนั้นสลบเหมือด หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาหาเธอ ในใจรู้สึกไม่แน่ใจ “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่”

โลกชอบแสดงอะไรออกมาให้เราเห็นอย่างเงียบๆหรอ? ยังดีที่เธออดทนมาก ไม่งั้นคงรับไม่ไหว ตกใจจนเป็นบ้า?

ประภาพเหวี่ยงแขนไปมา พร้อมมองมาที่เธอ ถอนหายใจเหมือนรู้สึกวางใจ หลังจากนั้นก็เดินมาตรงหน้าของเธอ มองรอบตัวเธออย่างเป็นกังวล “เธอโอเคไหม? คนพวกนั้นไม่ได้ทำร้ายเธอใช่ไหม?”

“ฉัน…ไม่เป็นอะไร แต่ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?” วรินทรยังคงมองอย่างไม่แน่ใจ มองเขาแล้วมีความรู้สึกลึกล้ำเข้าใจยาก

ก็เมื่อกี้เธอก็เห็นชัดๆอยู่ว่าไม่มีเรือลำอื่นเลย แล้วประภาพจะขึ้นมาบนนี้ได้อย่างไร?

ประภาพฟังที่เธอถามแบบนั้น ก็ยิ้มอย่างอายๆพร้อมอธิบายให้เธอฟัง “วันนี้ฉันมาคุยธุรกิจกับลูกค้าที่อาคารอเนกประสงค์ พอดีกับที่เห็นเธอถูกคนพาตัวไป แล้วเป็นจังหวะดีที่คนพวกนั้นไม่ทันระวังฉันเลยตามพวกเขาขึ้นมา

วรินทรรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มองเขาที่มีแววตาที่ตื่นตัวก็เบาใจ “อ๋ออย่างนั้นหรอ ขอบคุณเธอมากเลยนะที่เอาตัวเองเสี่ยงอันตรายมาช่วยฉัน”

เพราะว่าเป็นประภาพ เธอเลยเชื่ออย่างสนิทใจ

ตอนที่อยู่ที่อังกฤษก็ช่วยเหลือเธอไม่รู้กี่ครั้ง และยังช่วยชีวิตเธออีกครั้ง เธอเป็นหนี้บุญคุณเขามาก

“อย่าเพิ่งมาขอบคุณอะไรตอนนี้ มีเวลาไม่มาก พวกเรา…” ประภาพกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นตัวเรือก็โคลงเคลง ทั้งสองคนเอนตัวไปทางเดียวกัน

“ระวัง” ยังดีที่ประภาพสบตาและคว้ามือของวรินทรไว้ได้ทัน ตัวเองไถลไปที่ดาดฟ้าของเรือไม้ขนาดเล็ก

ผ่านไปสักพัก ความโคลงเคลงก็หยุดลง แต่ว่าด้านนอกมีเสียงอื้ออึงที่ยิ่งดังขึ้นๆ ทั้งสองคนมองกันเป็นตาเดียว หลังจากนั้นก็เดินขึ้นบันไดมา

ข้างนอกเกิดความผิดปกติ จริงๆแล้วความเคลื่อนไหวบนเรือมันจะต้องเงียบสงบ แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยชายชุดดำ เห็นได้ชัดว่าเรือเร่งความเร็วขึ้นเร็วมาก และด้านหลังตามมาติดๆด้วยเฮลิคอปเตอร์

“พ่อครับ พวกเขาเร่งความเร็วขึ้น!” กวินตะโกนขึ้นมา ถ้าไม่ติดว่าเรือลำนั้นเอาตัวแม่เขาไปนะ เขาอยากจะตะโกนว่า “เจ๋งจริงๆ”

ความเร็วนั้นไม่เพียงแต่เทียบได้กับเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขา แต่ยังเหมือนจะเร็วกว่าด้วย

ปกเกศค่อยๆตามเรือลำนั้นอยู่ข้างบน บังคับด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี จนเสมอกัน

ทาวัตไม่พูดอะไร ขมวดคิ้วมองเรือลำนั้น พร้อมย้นปากเล็กๆของเขา

เรือลำนั้นบังคับด้วยความเร็ว ถ้าพวกเขาต้องการจอดเครื่องบินที่เรือลำนั้น ดูแล้วว่าน่าจะเป็นไปไม่ค่อยได้ อีกทั้งเรือลำนั้นก็เหมือนมีการป้องกันไม่ให้ใครนำเครื่องลงจอด ด้านบนเป็นชั้นๆครึ่งวงกลม ให้กระโดดลงไป มันมีสิทธิ์พลาดที่จะตกลงไปในน้ำทะเลอันหนาวเย็นได้

ถึงเวลานั้น ตามความเร็วของเรือลำนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะบินไปถึงตรงไหนแล้ว

ทันใดนั้น ทาวัตหลับตาปี๋สักพัก ก็ลืมตาขึ้นมาจ้องสิ่งมี่อยู่ด้านล่างอย่างไม่วางสายตา

วรินทรกับประภาพกำลังออกมายืนอยู่บนเรือก็ถูกพวกชายชุดดำจับได้ แต่ชายชุดดำพวกนั้นกลับไม่ได้สนใจอะไรพวกเขาเลย หันมามองเพียงครั้งเดียวแล้วก็ไม่หันกลับมามองอีก

สวยตาของพวกเขาทำให้วรินทรพูดไม่สามารถกลั้นได้เธอเบ้มุมปาก นี่คือการดูถูกพวกเขาคิดว่าถึงออกมาได้ก็ไม่มีทางหนีไปได้แบบนี้หรอ?

ตอนนี้ลมพัดแรงมากๆ เสียงใบพัดของเรือดังและรุนแรงมากยากที่วรินทรจะมองข้าม

ลมพัดเข้าตาทำให้ลืมตาไม่ค่อยขึ้น วรินทรปิดตาสนิทพร้อมใช้เสื้อผ้าของตัวเองเช็ดตาพร้อมถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มีคนขับเฮลิคอปเตอร์อยู่ข้างบนใช่ไหม?”

หรือว่าเป็นทาวัต? เขาหาตัวเธอเจอแล้วหรอ?

ประภาพชำเลืองมองวรินทร หลังจากนั้นก็ขยับมุมมองไม่เพิกเฉยต่อการมองอย่างประหลาดใจของเธอ “ดูเหมือนว่าไม่ใช่นะ ตอนฉันขึ้นมาฉันได้ยินพวกเขาคุยกันว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งอยากเอาตัวเธอไป แต่ฝั่งนี้ไม่เห็นด้วย สถานการณ์ตอนนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวตัว

โอ้โห เธอกลายเป็นที่ต้องการไปแล้วหรอ ใครๆก็อยากขโมยตัวเธอ

“สรุปคือใคร…...อยากเอาตัวฉันไปเพื่ออะไร? เงินหรอ?” วรินทรเบิกตาสองข้างอย่างไม่เข้าใจ ใจในก็อดไม่ได้ที่จะพูดหัวเราะเยาะ

คนตั้งเยอะตั้งแยะจะมาต่อสู้กันเพื่อผู้หญิงอย่างเธอ นี่เธอต้องขอบคุณพวกเขารึเปล่า?

ความเร็วของเรือเพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆ วรินทรต้องเอามือยันกำแพงไว้ถึงจะไม่โคลงเคลงไปตามเรือ แต่ก่อนเธออยากขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์อยากรู้ความรู้สึกเป็นอย่างไร แต่ว่าคำพูดของประภาพกลับทำให้เธอโยนความคิดเหล่านั้นออกไป

มีแต่ผู้ร้าย จะมีอะไรน่าดู

วรินทรรู้สึกเศร้าหมองใจ มือที่ยันกำแพงก็เริ่มอ่อนแรงลง แต่ความเร็วของเรือก็ยังคงไม่ลดลง แต่กลับยิ่งเพิ่มขึ้นๆ ลมทะเลที่พัดอยู่นั้นก็ช่างหนาวเย็นสามารถทำให้คนเป็นน้ำแข็งได้ เธอได้แต่หดคอลงให้ปกคอเสื้อสูงๆนั้นกำบังและเพิ่มไออุ่นให้ได้บ้าง

ประภาพมองดูภาพเธอที่ยากจะรับมือไหว แสดงความเป็นห่วงการโดยการไปยืนอยู่ข้างหลังเธอใช้มือหนึ่งจับมือเธอไว้จากด้านหลัง เหมือนทำให้เธอไม่สามารถล้มลงง่ายๆ

ทันใดนั้น ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เรือก็สั่นอย่างรุนแรงประภาพที่ยืนพยุงตัวของวรินทรอยู่ด้านหลังก็เสียการทรงตัวปล่อยมือออก วรินทรเองก็โคลงเคลงจนตัวเองล้มลงไป

หลังจากนั้น วรินทรก็พบว่าความเร็วของเรือลำนั้นกลับเร็วขึ้นมาอีกครั้ง ยังดีที่วรินทรเอาตัวเองพิงไว้กับดาดฟ้าของเรือไม่กล้าขยับไปไหนกลัวว่าถ้ายืนจะทำให้เขาพลิกตกลงไป

“ระวัง” ประภาพใช้มือหนึ่งยันตัววรินทรไว้ แสดงท่าทางปกป้องโดยการกอดเธอ ถ้าคนนอกมองมา จะเห็นเหมือนพวกเขากำลังแสดงหนังกันเลย

ฉากนี้ ทาวัตเห็นทุกอย่าง ดวงตาคู่นั้นคลายความตึงลงแล้วเบนหน้ามองไปทางอื่น

“พ่อมองอะไร……..” กวินมาเกาะอยู่ที่หลังของทาวัตอยากรู้ว่าเขามองอะไรตั้งนาน ผลปรากฏว่าเห็นแม่ตัวเองถูกผู้ชายคนหนึ่งทับอยู่บนตัว

คนๆนั้นคล้ายกับ…...ถึงแม้ว่าตะเป็นเพียงข้างหลังแต่กวินก็รู้ได้เลยว่าคือ ประภาพ

แต่ว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่มาทับอยู่บนตัวแม่แบบนั้น จบกัน งานนี้พ่อต้องโกรธมากแน่ๆ

กวินกำลังคิดว่าจะพูดอะไรดี คาดไม่ถึงกลับเห็นทาวัตหยิบปืนพกกระบอกหนึ่งขึ้นมา เขาหลับตาข้างหนึ่ง ใช้ตาข้างหนึ่งเล็งไป ขยับปืนเล็กน้อยไปตรงตำแหน่งนั้น

“พ่อครับอย่างเพิ่งวู่วาม ถ้าทำแบบนี้อาจทำให้แม่ได้รับบาดเจ็บนะครับ…” กวินเห็นพ่อควักปืนขึ้นมาหัวใจแทบหยุดเต้น พ่ออะโกรธก็ส่วนโกรธ แต่ว่าแม่อยู่ตรงนั้นด้วย

กวินอ้าปากค้างและสะอื้น เขาคิดว่าถูกคนชุดดำยิงหัว

ทาวัตยิงไปที่เรือลำนั้น ในสถานการณ์นั้นกวินจับไว้แน่นมาก ไม่ว่าเรือจะวิ่งเร็วขนาดไหนมันก็ยังคงรักษาสมดุลได้ดีมาก ตอนทาวัตยิงไปมันดูง่ายดาย

ปัง———

เสียงปืนที่มาโดนใบพัดทำให้มันกร่อนไปแต่เสียงก็ยังคงชัดเจนอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์