ตอนที่364 เป็นเพื่อนก็ดี
ไม่มีอะไรต่อมา
ผ่านไปซักพัก บรรยากาศของเรือลำนั้นก็กลายเป็นตึงเครียดขึ้นมา กระสุนเม็ดนั้นสามารถยิงคนได้ถึงสองคน แถมยังทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกฆ่า คนบนเฮลิคอปเตอร์นั้นจริงแล้วดูถูกไม่ได้ซะแล้ว
วรินทรอยู่ๆก็เพิ่งจะพบว่า พวกคนชุดดำได้รับบาดเจ็บและตายมากมาย กลับไม่เห็นชายชุดดำที่คุยกับเธอออกมาที่ดาดฟ้า
เขาควรจะเป็นพวกหัวหน้าอะไรประมาณนี้
แต่ว่าลูกน้องของตัวเองตายตั้งกี่คนแล้ว เขาก็ยังไม่ออกมา หรือว่าเขากลัวหรอ?
วรินทรเบ้ปาก แต่ยังไงก็อย่าเอาตัวเธอไปให้กับคนบนเฮลิคอปเตอร์ก็พอ เธอไม่อยากหนีเสือปะจระเข้
ถ้าเธอคิดใจในให้บนเฮลิคอปเตอร์เป็นทาวัตกับกวินได้ยิน กลัวว่าเสียงดังนั้นจะฆ่าเธอ
มาช่วยชีวิตยงไมพอใจหรอ? คาดไม่ถึงไม่เต็มใจไปกับพวกเขา?
“ลูก มองไมเห็นแม่ของลกแลว คิดหาวิธีหยุดเรือลำนี้ที” ทาวัตตบไหล่ของกวิน ประโยคนี้มันทำให้กวินอยากที่จะหยิบปืนขึ้นมายิง พร้อมทำหน้าบูดบึ้ง
กวินหันใบหน้าเล็กๆไปมองที่ทาวัต พ่อต้องตั้งใจต้องตั้งใจ!
แต่ที่เขาพูดก็มีเหตุผล ชีวิตของแม่เขาสำคัญที่สุด ไม่ต้องต่อสู้จะดีที่สุด
“ยิงตรงนั้น” ทาวัตพูดพร้อมชี้ไปที่เรือลำสีขาวนั้นตรงด้านนอก ทำให้ตรงนั้นพัง เรือลำนี้ก็ไม่สามารถหยุด แต่ความเร็วมันจะลดลง ขอแค่ความเร็วลดลง ก็มีโอกาสที่จะเข้าใกล้เรือลำนั้นได้มากขึ้น
ชายชุดดำรอบๆนั้นถูกทาวัตจัดการไปส่วนหนึ่งเรือลำนี้ไม่รู้ว่ามีคนอยู่จำนวนเท่าไหร่ ชายชุดดำบนเรือคือทั้งหมดของคนที่มี
จำนวนคนไม่ใช่สิ่งที่ทาวัตกังวล
ตอนนี้เขากังวลเพียงเรื่องเดียว
กวินเห็นใบหน้านั้นของนั้นของทาวัตจากใบหน้าที่บูดบึ้งกลับบานขึ้นมาเหมือนดอกไม้ จับปืนแน่นๆพร้อมเล็งไปที่ตำแหน่งที่ต้องการ
ปกเกศฟังคำพูดพวกเขา รีบบังคับเฮลิคอปเตอร์ไปยังช่องว่างตรงเรือ หลังจากนั้นก็เปิดออกอย่างมั่นคง
ตอนนี้แหละ
กวินตาเป็นประกายหลังจากนั้นเหนี่ยวไกปืนทันที “ปัง” เสียงปืนดังไปตรงที่ตำแหน่งที่ทาวัตชี้ ไม่มีเบี้ยว ตรงเป๊ะ
แม้แต่ปกเกศที่เป็นคนสายตาจู้จี้จุกจิกไม่สามารถทำได้อย่างกวิน เขายิ้มๆออกมาแสดงการชื่นชม ลูกศิษย์เก่งกว่าอาจารย์ ลูกชายเจ้านายจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร
ใบหน้าเล็กๆของกวินกลับไม่ได้แสดงอาการภูมิใจแต่อย่างใด มองไปที่ตำที่กระสุนที่ยิงเข้าไปในเรือลำนั้น ความเร็วของเรือก็ค่อยๆลดลง
เรือลำนี้ออกแบบมาไม่เหมือนกับเรือทั่วไป ใครจะไปคิดว่ามันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อ่อนแรงแต่ไม่ใช้ในตัวเรือ แต่ที่เห็นชัดๆก็แค่รอบนอก ก็เพราะเหตุนี้เลยไม่มีใครอยากได้มัน
แต่ทาวัต มีโอกาสเคยเห็นการผลิตเรือลำนี้มาก่อน บวกกับเขาเคยเห็นสิ่งที่ไม่อยากที่จะลืม ไม่คิดว่าจะมโอกาสใช้ครั้งนี้
หลังจากที่เรือลำนั้นลดความเร็วลง วรินทรรู้สึกถึงกระเพาะที่เดือดพล่าน ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาก็ไม่ได้ช่วยอะไร
บรรยากาศรอบๆบนเรือมันแข็งทื่อไปทุกอย่าง ชายชุดดำไม่หยุดที่จะยิงไปที่เฮลิคอปเตอร์ในเวลานั้น และก็ส่งคนไปเฝ้าที่วรินทรกับประภาพ ไม่ให้พวกเขามีโอกาสหนี
“.........” วรินทรเบ้มุมปาก นี่วิ่งไปทางไหนพวกเขาก็สามารถตามไปทุกที่?
เฮลิคอปเตอร์ของทาวัตใกล้กับเรือเข้ามาเรื่อยๆชายชุดดำบนเรือถือปืนไว้ ถ้าเข้าไปใกล้ๆโดยไม่เตรียมตัวเกรงว่าจะถูกยิงจนตัวพรุน
ตอนนี้ชายชุดดำหยิบเครื่องส่งเสียงขึ้นมาเหมือนกับที่กวินทำ พูดด้วยเสียงดัง “ถ้าพวกแกไม่อยากให้คนรักของพวกแกบาดเจ็บออกไปให้ไกลจากเรือจากกว่านี้!”
ชายชุดดำตะโกนพูดตอนนั้น วรินทรก็อยู่ข้างตัว แต่ว่าเธอใส่ที่ปิดหู แต่ก็มีเสียงเฮอริเคน เธอเลยได้ยินไม่ค่อยชัดว่าพูดอะไรกัน
“ถ้าพวกแกยังไม่ปล่อยตอนนี้ ก็มาดูกันว่าใครจะเจ็บตัว” กวินตะโกนด้วยเสียงที่ดัง
คนพวกนี้ลักพาตัวแม่เขามา แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ยังไม่บรรลุเป้าหมาย พวกเขาจะไม่มีทางทำร้ายเธอแน่
“ถ้าพวกแกไม่เชื่อก็ลองดู ฉันสามารถยิงเธอตอนนี้!” ชายชุดดำดูโหดร้ายขึ้น เขาเล็งปืนในมือไปในทะเลพร้อมยิงไปทางทะเล
กวินยังคิดที่จะตะโกนลงไปแต่กลับถูกทาวัตดึงให้หันกลับมา เขาหันกลับมาต้องหน้าพ่อของเขาและสงบสติอารมณ์ ซึมซาบถึงความปลอดภัย
“ปกเกศ ถอยออกมาหน่อย” ทาวัตสั่งด้วยความเยือกเย็น
“ครับนายท่าน” ปกเกศรับคำสั่งหลังจากนั้นก็ถอยเฮลิคอปเตอร์ออกมา ให้ห่างจากเรือเล็กน้อย
เมื่อชายชุดดำเห็นเฮลิคอปเตอร์ถอยออกห่างไปจากเรือแล้ว ก็วางใจ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นผ่านตรงข้าม โชคดีที่พวกเขามี “ตัวประกัน”
วรินทรที่ใส่ที่ปิดหูไม่ได้ยินเสียงอะไร เธอเปิดที่ปิดหูอ่อนนิดหน่อยแล้วถามประภาพว่า “ทำไมพวกเขาถึงถอยไป?”
ประภาพขำแล้วมองที่เธอ “คงจะไม่นานเดี๋ยวพวกเขาคงโจมตี”
วรินทรถอนหายใจ ดวงตายิ้มๆ “ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจดึงคณเข้ามาอยู่ในสนามรบนี่ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ประภาพ”
“ยัยโง่ พวกเราสองคนมาพูดขอบคุณอะไรกันพวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ?” หลังจากนั้นเอามือไปทุบเบาๆที่ที่ปิดหูของเธอสายตามองด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่เปลี่ยนแปลงทำให้คนหลงใหล
“แน่นอนเป็นเพื่อนกัน” วรินทรยิ้มๆ ไม่ชินกับท่าทางของเขา ดูใบหน้าของเขาที่หลีกเบี่ยงไม่ได้
“เป็นเพื่อนกันตลอดไปไหม?” ประภาพถามอย่างไม่แน่ใจ
วรินทรเหลือบมองเล็กน้อย ยิ้มๆ “แน่นอนตลอดไปคิดว่าเธอจะไม่ยอมเป็นเพื่อนฉันแล้ว?”
“ไม่มีทาง จะเป็นไปได้อย่างไร ฉันแค่กังวลหลังจากที่เธอแต่งงานกับทาวัตไปแล้ว จะลืมเพื่อนคนนี้” เขาพูดความรู้สึกออกมา
“วันแรกเป็นเพื่อนกันก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไปมีอะไรต้องกังวล?” วรินทรเอาคางวางบนหัวเข่าแล้วก็มองเขาที่มีท่าทีแปลกๆ “ฉันเหมือนคนที่ลืมบุญคุณคนหรอ?”
เขาช่วยชีวิตเธอ เธอจะไปลืมได้อย่างไร
เป็นเพื่อนก็ดี ประภาพมองด้วยสายตาที่ซับซ้อนดังนั้นผู้คนจึงไม่สามารถมองทะลุได้
ในเวลานี้ พ่อและลูกชายบนเฮลิคอปเตอร์รู้แล้วว่าจะไปหาวรินทรยังไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์