หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 368

ตอนที่368 พลาดกันครั้งแล้วครั้งเล่า

นามสกุลเดียวกัน ชื่อยังคล้องกันหากไม่ใช่เพราะตระกูลศรีภักดีถูกล้มล้างองค์กรที่น่ากลัวนั้นแต่แรก ก็คงจะไม่มีคนใช้ชื่อพรรค์นี้อีก

“พ่อรู้เรื่องเฟิร์นได้ยังไง?” กวินรู้สึกระทึกใจ ถามด้วยความสงสัย

หลังจากเอตกใจก็กลับมาครุ่นคิด เขาเคยไปอยู่ประเทศซีช่วงหนึ่ง บวกกับที่โดนคนพวกนั้นตามฆ่า จึงไม่รู้ว่าในประเทศเกิดอะไรขึ้น

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ว่าเป็นเฟิร์นหรือไม่…

รอก่อน! ไม่ใช่ เฟิร์นไม่ได้ตาย!

เอสัมผัสได้ว่าไม่ชอบมาพากล ตอนกำลังจะขอหลักฐาน เอฟมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่จึงตบที่ไหล่เขา“เฟิร์นไม่ได้ตาย เขายังมีชีวิต เพียงแค่ ตอนนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามพวกเรา”

เฟิร์นกลายเป็นศัตรู?

พูดออกมา ถ้าคนไม่รู้ก็คง จะตกใจ

“เรื่องที่พ่อเธอรู้ออกเยอะ กลับไปก่อนเถอะ อยู่ที่นี่ก็หาหลักฐานอะไรไม่ได้” ทาวัตนวดผมของกวิน เสียงมีความละมุน และสายตาที่จ้องมองกวินนั้นอ่อนโยน

ตอนนี้ ทั้งสองพ่อลูกเป็นฝ่ายเดียวกันแล้ว

กวินพยักหน้า เมื่อครู่รู้สึกว่าลมทะเลหนาวขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้สึกเช่นนั้น

นั่งเครื่องบินตรงมาเร็วกว่าเรือเยอะเลยฝีมือของปกเกศนั้นดีมากประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็มาถึงที่บ้านตากอากาศของบ้านธัมรุจินันท์ แล้วก็จอดฮอล์ลงที่สนามหน้าบ้าน อีกสองลำไม่ได้กลับมาด้วย เพราะปกเปศให้ไปตะเวนตามหาวรินทร

แต่เพราะทีมที่เคยใช้เฝ้าชายแดนประเทศซีนั้น ถูกเขาส่งออกไปลาดตะเวนจนหมด จึงไม่มีใครอยู่ประจำชายแดน

และเพราะเหตุเช่นนี้ จึงทำให้พลาดไปครั้งแล้วครั้งเล่า

ขอบฟ้าทอแสงตะวัน ผ่านพายุจากเมื่อคืน ตอนนี้น้ำทะเลนิ่งสงบลงแล้ว

ที่ที่ติดริมหาด เกาะกันเป็นน้ำแข็ง มีหิมะปกคลุมอีกชั้นหนาๆ ลมทะเลราวกับแข็งเป็นน้ำแข็งไปจนหมดหนาวจนเข้ากระดูกดูก

ทั้งโลกเป็นสีขาว ราวกับปกคลุมด้วยเงิน มองหิมะสีขาวโพลนไปจนสุดลูกหูลูกตา แม้แต่กระทั่งบนต้นไม้ ยังเต็มไปด้วยหิมะน้ำแข็ง

บนที่ที่ติดชายหาด มีร่างผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งถูกซัดขึ้นมาบนฝั่ง เสื้อผ้าขาวเนียนไปกับหิมะบนพื้น ถ้าไม่ใช่เพราะมองไปเห็นเป็นสีดำแปลกตาขึ้นมา ก็คงจะหาเจอได้ยาก

สีดำนั้น ช่างโดดเด่นท่ามกลางหิมะ

หน้าที่ฝังอยู่ใต้กองหิมะครึ่งหนึ่งนั้น ราวกับไม่มีชีวิตแล้ว ซีดเท่ากับสีหิมะ ที่หน้าผากมีรอยช้ำชัดเจนซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้ว

ณ ตอนนี้ มีคนหนึ่งเดินมาทางไกล ใส่ชุดสีดำ ใส่ผ้าพันคอและแว่นดำ สอดส่องสายตาไปบนพื้นหิมะ มองหาสีดำบนพื้นจนเจอ

เมื่อตาทั้งคู่ของเค้าค้นจนเจอ เขาเดินพุ่งไปยังสีดำนั้น ย่างก้าวนั้นไม่มั่นคง แต่ก็ฝืนไว้ไม่ล้ม ค่อยๆเดินเข้าไปทีละก้าว จนมาถึงสีดำนั้น

เขาก้มลง แล้วอุ้มคนๆนั้นขึ้นมา หน้านั้นโผล่ออกมาจากหิมะ สีหน้าซีดเซียว ร่างกายราวกับสูญเสียอุณหภูมิไปหมดแล้ว เพียงแค่แตะ ก็หนาวจนเข้ากระดูก

“วรินทร” เขาคนนั้นเรียกด้วยเสียงทุ้มต่ำ ไม่ลังเลอีกต่อไป อุ้มวรินทรที่ใกล้หมดลมหายใจนั้น ออกจากชายหาดไป

ณ ตอนนี้ มีรถมารออยู่แล้วที่นอกชายหาด

เขาไม่เคยคาดคิด ว่าที่นี่อยู่ๆจะหิมะตก ตกติดต่อกันทั้งคืน จนถึงเมื่อเช้าเพิ่งจะหยุด พื้นที่ที่ติดทะเลก็จับตัวเป็นน้ำแข็ง

ใบหน้านั้น เผยออกมาจากผ้าพันคอ เดินไปที่หน้ารถคันนั้น แล้วก้มตัววางวรินทรลงในรถ แล้วเผยใบหน้าอบอุ่นออกมา

รถแล่นออกไป ขับลัดเลาะไปตามถนนกว้าง ข้างทางทั้งสองมีแต่หิมะ บนพื้นถนนก็จับตัวเป็นน้ำแข็ง ถึงแม้ว่าจะลื่น แต่ประภาพไม่ได้ใส่ใจ ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เกือบจะเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง แต่ก็ยังรอดมาอย่างหวุดหวิด

วรินทรยังไม่มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ราวกับวินาทีต่อไป จะหมดลมหายใจอย่างนั้น

จนขับรถเข้าไปในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ที่นี่ค่อนข้างห่างจากตัวเมือง ตำแหน่งค่อนข้างลึกลับ ถูกหิมะปกคลุม จนจำลักษณะเดิมไม่ได้

ประภาพจอดรถ ยังไม่ทันดึงกุญแจ ก็รีบลงจากรถ เดินไปอุ้มวรินทรจากอีกฝั่งลงมา แล้วรีบเข้าไปในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว

เขาเพิ่งเดินมาถึงหน้าคฤหาสน์ แล้วประตูก็ถูกเปิดขึ้น ภายใน มีชายชุดดำที่ผ่านการฝึกพิเศษยืนอยู่ทั้งสองฝั่ง

“เตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยยัง?” ประภาพเดินเข้าไป เดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีท่าทีจะหยุด เดินไปถามไป

มีหญิงใส่ชุดรัดรูปสีดำ พร้อมแว่นดำเดินเข้ามา ที่ด้านหลังของประภาพ แล้วตอบ “เรียบร้อยแล้ว เป็นห้องที่คุณใช้ประจำ”

ประภาพไม่ได้ตอบอะไร รีบเดินขึ้นไป แล้วใช้เท้าเปิดประตูออก สำเร็จภายในทีเดียว

ภายในห้อง สงสีขาวสาดเข้าตา ราวกับเป็นห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล มีตู้เรียงรายอยู่ริมกำแพง ในนั้นเต็มไปด้วยขวดยาต่างๆและเข็มฉีดยา อุปกรณ์ต่างๆอีกมากมาย มีแม้กระทั่งเตียงผ่าตัด ไม่ขาดตกบกพร่อง

ประภาพวางวรินทรลงบนเตียงผ่าตัด แล้วหยิบถุงมือบนโต๊ะมาใส่อย่างคล่องแคล่ว เปิดไฟที่อยู่บนหัวขึ้น

——

ในบ้านพักตากอากาศ บ้านธัมรุจินันท์

ผ่านไปแล้วสองชั่วโมง ทีมตามหาบนทะเลไปพบเบาะแสใดๆ

ในห้องรับแขก บนโซฟาที่แดงเข้มนั้นเต็มไปด้วยคน ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมาย แต่บรรยากาศกลับตึงเครียด ไม่มีใครปริปากพูดขึ้นมาก่อน กลัวจะทำลายความเงียบนี้ลง

กวินนั่งอยู่ข้างๆทาวัต ดูคลิปวิดีโอสุดท้ายที่เมื่อคืนได้รับ

ก็เป็นครั้งนั้น เขาที่รู้สึกตงิดใจนั้น เพราะในวิดีโอไม่มีการเผยใบหน้าของชนุตร์และมษยา และในบางช่วงนั้น ก็รู้สึกแปลกๆ

แต่เขาไม่ได้คิดอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้พวกเขามีช่องว่าง

ชนุตร์ทำไมต้องลักพาตัววรินทรครั้งแล้วครั้งเล่ากันนะ?

กวินขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงละสายตาออกจากคอมพ์ หันไปมองทาวัตที่กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง “พ่อ เฟิร์นกับชนุตร์มีความสัมพันธ์อะไรกันเหรอ?”

ทาวัตกำลังตรวจสอบช้อมูลเมื่อหลายปีก่อนนั้นนั่นเป็นคอมพ์ของทิโนทัยที่พบเจอโดยบังเอิญ เป็นเรื่องเกี่ยวกับวรินทร เขาตั้งใจเป็นพิเศษ เขาก็แอบเซฟเก็บไว้อีกชุดหนึ่ง

ตอนนั้นเพิ่งจะเข้าใจ ว่าวรินทรและทมยันตีแม่ของเขาเป็นคุณนายของตระกูลศรีภักดี มูลค่าบนตัวเขานั้นประเมินคามิได้

แต่ผู้หญิงที่มีฐานะสูงส่งเช่นนี้ กลับมาแต่งงานกับชยุต ช่างแปลกจริงๆ

ที่จริงแล้วเฟิร์นกับทาวัตเคยเจอกันครั้งหนึ่ง

บ้านธัมรุจินันท์กับบ้านพูลสวัสดิ์อยู่ใกล้กัน เป็นเพราะครั้งนั้น เขาเดินออกมาที่ระเบียงบ้านแล้วเจอโดยบังเอิญ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์