หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 375

ตอนที่ 375ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอไง

แถวนั้นเป็นที่ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดของเค้า,หากชยุตอยู่ที่นั่นแล้ววหล่ะก็เค้าไม่ทางเป็นอะไรแน่นอน

“คุณประภาพ,กลับมาแล้วหรอ” ผู้คนที่ฐานเมื่อเห็นประภาพก็ต่างพากันทักทาย ผู้คนเหล่านี้ครั้งนึงล้วนเป็นกองสนับสนุนตะกูลศรีภักดีที่อยู่ภายใต้อำนาจของเฟิร์น,ถึงแม้ว่าเฟิร์นจะไม่ได้สืบทอดต่อแล้วก็ตาม ดังนั้นพวกจึงเรียกประภาพว่า"คุณประภาพ"

ประภาพพยักหน้าพลางยิ้ม, เป็นรอยยิ้มนั้นอบอุ่นดั่งแสงอาทิตย์ แต่ก็เย็นชาราวน้ำแข็ง

ชยุตอยู่ด้านหลังของประภาพ, สายตาของเค้ามองไปรอบๆสายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความโลภและเห็นแก่ตัว

ชยุตมาที่นี่เป็นครั้งแรก

แม้ว่าเค้าจะควบคุมประภาพไว้อยู่แต่ว่ากับกองกำลังของเค้านั้นก็ไม่เป็นที่ชัดเจน ดังนั้นการตั้งใจที่จะมาแทนที่นั้น ก็ยังดูไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้

เค้ารู้ดีว่าคนเหล่านี้ ไม่ใช่จะฟังใครง่่ายๆดังที่ว่าถ้าจะให้ลูกน้องเคารพ ลูกพี่เค้าต้องเคารพเราก่อน ถ้าเค้าทำให้ประภาพอยู่ในกำมือได้แล้วหล่ะก็เค้าก็ไม่กลัวว่าใครจะไม่เชื่อฟังเค้าอีกต่อไป

ขอเพียงแค่ได้ตามที่เขาคิดไว้ก็เท่านั้น อน่าว่าแต่กองหนุนเล็กๆเลย ประเทศCทั้งประเทศจะต้องอยู่ในกำมือของเค้าแต่เพียวผู้เดียว!

"คุณก็อยู่ที่นี่ไปก่อนซักสองสามวัน, คนพวกนั้นหาคุณไม่เจอแน่นอน" ประภาพพาเค้าเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง ก่อนจะพูดกับเค้าด้วยน้ำเสียงเย็นๆ

ชยุตแม้ว่าจะตกอับแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน เค้าทำเสียงหึก่อนจะพูด" ตอนนี้คุณก็เจอวรินทร์แล้วนี่, งั้นก็พาเธอมาหาฉันสิ ไม่ได้เจอนานละ ฉันหล่ะคิดถึงเด็กน้อยของฉันเต็มทีแล้ว

แววตาของประภาพมองชยุตอย่างรังเกียจ, รู้ๆกันอยู่ว่าวรินทร์ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ก็พูดซะเหมือนว่าคิดถึงเธอขึ้นมาจริงๆ

"ฉันบอกแล้วไงว่าตอนนี้เธอป่วยหนัก, รอให้เธอหายดีก่อนแล้วฉันจะพาเธอมาหาคุณให้" น้ำเสียงของเค้าชักจะเริ่มอดรนทนไม่ไหว ไร้ซึ่งความเคารพต่อชยุตแล้ว

"หึ ป่วยแล้วไง?มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยหล่ะ ถ้าฉันอยู่ให้เธอมาเธอก็ต้องมา" ชยุตรอนานขนาดนั้นไม่ไหวแล้ว!

เค้าอยากที่จะพบกับวรอนทร์โดยไว, หลังจากนั้นเค้าก็จะได้ในสิ่งนั้น ถ้าไม่อย่างนั้น แผนการที่เค้าวางเอาไว้อย่างดีมาหลายปีนี้ก็จะไร้ผล

"....." ประภาพมองชยุตด้วยสายตาเย็นชา, ไม่พูดอะไรออกมาซักคำ แล้วเค้าก็เดินออกจากห้องไปโดยให้คนปิดประตูของชยุตไว้ด้วย

"คุณประภาพ" มีคนเดิรเจ้ามาและเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตู

"ดูเค้าไว้ให้ดีๆ"

เค้าทิ้งท้ายด้วยประโยคนี่แล้วก็เดินจากไปในขณะนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย ก่อนจะรีบกลับไปคฤหาส

เค้ารับสายของสิบสอง, ตอนนี้วรินทร์ฟื้นแล้ว แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เธอได้สูญเสียความทรงจำไป

พูดไม่ถูกประมานว่าว่าควรจะรู้สึกยังไง, อีกใจก็โหวงเหวงอยู่ในใจอีกใจหนึ่งก็ดีใจ นั่นทำให้เค้าค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูก

วรินทร์ความจำเสื่อมไปแล้ว เธอลืมทุกๆสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึง

เรื่องนั้น…

สี่ชั่วโมงหลังจากนั้น,ประภาพกลับมาถึงคฤหาสเรียบร้อย,เค้ายังคงยืนอยู่หน้าแระตู ในใจสับสนลังเล

เค้ากังวลใจ เค้ากลัวว่าเมื่อเค้าได้เห็นแววตาคู่นั้น แววตาของวรินทร์นั้น เค้ากลัวว่ามันจะจะมีความหวาดกลัว ความโกรธ หรือความไม่พอใจในนั้น

แต่ว่าตอนนั่นเอง ประตูก็ได้เปิดออก สิบสองนั่นเองเธอมองมาที่ประภาพอย่างประหบาดใจ "ทำไมมาถึงไวจัง?ปกติไม่เห็นว่าจะอยากมาไม่ใช่หรอ?"

ประภาพกำลังตกอยู่ในภวังค์ ปกติแล้วแต่ก่อนเค้าไม่เคยคิดอย่างที่ถ้วนเลย ว่าทำไมวันนี้เค้าถึงได้ตัดสินใจรวดเร็วขนาดนี้

เค้าหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะเอ่ยปากถาม" ตอนนี้เธอ… ?"

"เพิ่งฟื้นเนี่ยแหล่ะ, อยากจะเข้าไปดูไหมหล่ะ?" สิบสองจัดที่ให้เค้า ในตอนแรกที่ว่าจะเดินออกไปข้างนอกแต่พอประภาพมาเธอก็ลืมสิ้นทุกอย่าง

ถึงแม้ว่าประภาพกำลังอยู่ระหว่าง ทั้งสองคนก็คุยกันมาตลอดทาง แต่เพื่อที่จะป้องกันสิ่งที่ไม่ดีที่จะเกิดขึ้น เธอจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ก่อน เหตุผลนึงคือป้องกันไม่ให้เขาถูกสงสัย อีกเหตุผลนึงคือเพื่อที่จะต้องการซ่อนเธอเอาไว้

ทักษะทางการแพทย์ของประภาพนั้นไม่เป็นสองรองใคร ถ้าเกิดว่าเขายังเชื่อว่าเธอความจำเสื่อม ก็ไม่ต้องมีอะไรสงสัยอีก

หลังจากลังเลอยู่ครู่นึง ประภาพก็เดินเข้ามาในห้อง

ภายในห้อง วรินทรพึ่งตื่น แล้วก็นอนมองออกไปนอกหน้าต่าง หลังจากพักฟื้นมาหลายวันร่างกายเธอก็ดีขึ้นมากแล้ว เพียงแต่ว่ายังคงอ่อนแออยู่ เธอจึงไม่ออกไปไหนเลย

ใบหน้าของเธอยังซีดอยู่เล็กน้อย ป่วยอยู่ไม่กี่วัน ใบหน้าเล็กๆก็ดูซูบลงไปเยอะเลย ดวงตากลมโตที่ดูเหมือนอัญมณีที่สวยงาม จมูกดูสันเป็นคมตอนนี้เธอดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอม ยิ่งดึงดูดคนที่พบเห็นได้มากกว่าเดิมอีก

ตอนที่ประภาพเข้ามาแล้วได้แล้วภาพนี้ หัวของวรินทรกำลังนอนหนุนหมอน มองออกไปนอกหน้าต่างแบบเงียบ ตอนนี้หิมะนอกหน้าต่างได้หยุดลงแล้ว แสงแดดเริ่มออกมาบ้างแสงแดดนอกหน้าต่างได้ละลายหิมะข้างนอกออกไปจนเบาบางลง

แสงแดดหลังจากหิมะตก จะดูสว่างสดใสเป็นพิเศษ

แสงแดดจากด้านนอกที่สาดส่องกระทบมาที่ใบหน้าเล็กๆ มันไม่ใช่ความซีดที่มาจากอาการป่วย แต่เป็นการเซื่องซึมที่มาจากภายใน

ดูเหมือนว่า เธอไม่เคยรู้สึกดีขึ้นบ้างเลย

ประภาพที่ได้เห็นภาพเหล่านี้ปวดใจ แล้วก็เดินตรงไปยังวรินทร แต่เขาไม่ได้เดินไปตรงหน้าเธอ แต่เธอก็รู้แล้วว่าเขามา พร้อมกับหันหน้าไปมองหน้าเขา

ดวงตาที่สดใสบริสุทธิ์คู่นั้นทำให้เหตุผลในใจของประภาพหายไปหมดสิ้น

เขาเข้าใจเธอดี

ถ้าจะพูดอีกแบบนึงก็คือ เขาคอยมองเธอเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าในใจเธอคิดอะไรอยู่ มันจะแสดงออกมาทางสายตา ตั้งแต่ที่อยู่อังกฤษ ที่เขาใช้ตัวตนของประภาพในการเข้าใกล้เธอ หลังจากนั้น ในสายตาของเธอมีแต่ความดื้อรั้นและมุ่งมั่นอยู่เสมอ ไม่เคยมีสายตาที่อ่อนแอเลย

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดูไม่เหมือนเธอเลย อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา วรินทรความจำเสื่อม อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

“คุณเป็นใคร?” วรินทรมองหน้าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆแบบเงียบๆ รู้สึกเหมือนคุ้นตามาก แต่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอเขาที่ไหน

“ฉันชื่อประภาพ” ประภาพเดินไปตรงหน้าของเธอ ใบหน้าที่อบอุ่นที่ดูราวกับกำลังมองคนรักของตัวเองอยู่ “ฉันคือคู่หมั้นของเธอ”

“สิบสองบอกฉันแล้ว” วรินทรยังคงหน้านิ่งเช่นเดิม ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับการที่เขามาแล้วแม้แต่น้อย

เหตุการณ์แบบนี้ ประภาพรู้สึกคุ้นเคยมาก ครั้งแรกที่พบกัน ปฏิกิริยาของเธอก็เป็นแบบนี้แหละ

หลังจากพูดจบประโยค วรินทรก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เงียบและไม่ใส่ใจ

“ตอนนี้ข้างนอกอากาศดีมาก ฉันพาเธอออกไปรับแสงแดดหน่อยดีไหม?” ประภาพไม่รีบร้อน เขาเป็นหมอ เข้าใจควมรู้สึกของคนที่สูญเสียความทรงจำอยู่แล้ว

วรินทรมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพยักหน้าช้าๆ

ในลานกว้าง หิมะได้ค่อยๆละลายลงไปบ้างแล้ว แสงแดดที่อบอุ่นก็สอดส่องเข้ามา ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์