หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 376

ตอนที่376 เธอปฏิเสธที่จะเชื่อทุกคน

สีหน้าซีดเซียวของวรินทรดูดีขึ้นมากแล้ว เธอมองไปรอบๆทั่วทุกด้าน แล้วก็ค่อยๆหลับตาลง แสงแดดสว่างจ้าแต่ไม่ได้ส่องตา อบอุ่นแต่ไม่ทำให้ร้อน รู้สึกสบายใจมาก

“หลังจากนี้เธอควรจะออกมารับแสงแดดบ่อยๆนะ มันจะดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอ” ประภาพเข็นเธอไปจนถึงกลางลานกว้าง แล้วก็ให้คนชงชามาให้เธอหนึ่งแก้ว

“อื่ม ” วรินทรตอบรับมาหนึ่งคำ แล้วก็จิบชาดำ แล้วก็มองไปที่ประภาพ

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม คนๆนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดี ทำให้เธอไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้

“ฉทำไม...ฉันถึงเสียความทรงจำล่ะ?” วรินทรเงยหน้าขึ้นมามองหน้าประภาพ เขาคนนี้ทำให้เธอสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ว่า เธอก็อยากรู้คำตอบไม่อยากจะให้สมองของเธอว่างเปล่าไม่รับรู้อะไร

ประภาพกระพริบตาเล็กน้อย ภาพเหตุการณ์วันนั้นก็โผล่ขึ้นมา

วันนั้นที่ทะเล หลังจากที่เขากับเธอตกทะเลไปแล้ว เขาได้รับการช่วยเหลือก่อน แล้วตอนที่เขาไปช่วยวรินทร ประภาพจะไม่มีวันลืมภาพนั้นตลอดชีวิต

หวาดกลัวตะลึงโกรธแค้นหลังจากนั้นเขาก็รู้อย่างแจ่มแจ้ง เธอตัดสินใจปล่อยมือเขาแล้วตกลงไปในทะเลอีกครั้ง

คำพูดสุดท้ายที่เธอบอกเขาก็คือ ทำไมถึงเป็นนาย

ในประโยคนี้ เต็มไปด้วยความผิดหวังแล้วก็ตกลงไปที่ทะเลอีกครั้ง

ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เขาก็รู้ว่า วรินทรมั่นใจว่านี่เป็นฝีมือของเขา

ที่จริง เธอเริ่มสงสัยตั้งแต่เห็นเขาอยู่บนเรือแล้ว เขาแค่กลัวว่าเธอจะไม่เชื่อใจเขา ที่สุดท้ายที่เขาอยากจะนั่งนั้น คือนั่งในใจเธอนั่นเอง

หลังจากที่วรินทรตกลงไปในทะเลอีกรอบแล้วเขาก็เริ่มหาหมู่เกาะกับประเทศที่ติดทะเล ให้พวกเขาได้อาศัยแถวริมชายหาด ไม่คิดว่า สุดท้ายจะได้ข่าวว่าเธอได้ไปอยู่ที่เกาะของประเทศ B

เขาช่วยชีวิตเธอไว้ แต่ก็เริ่มกลัว กลัวว่าเธอตื่นมาจะมองเขาด้วยสายตารังเกียจ

เรือทิ้งระเบิดลำนั้นเขาส่งไปเอง การที่เธอถูกลักพาตัว คือแผนของเขาเอง ที่โดดลงทะเล ก็เพื่อไม่ให้เธอถูกทาวัตพาตัวไป แล้วก็จัดฉาก ให้ดูเหมือนว่าเธอเสียชีวิตบนเรือลำนั้น

พูดได้ว่า เรื่องทั้งหมดนี้ เขาวางแผนทั้งหมดตั้งแต่แรก

ประภาพกลัวการเห็นสายตาของจรินทรพอเขาได้สบสายตากับเธอเมื่อไหร่ ก็ได้แต่นึกถึงตอนที่เธอสะบัดมือเขาออกแล้วยอมตกลงไปในทะเล หัวใจก็รู้สึกหม่นหมองขึ้นมาทันที

“ตัวตนของฉันดึงดูดศัตรูจำนวนมาก เธอก็เลยถูกคนพวกนั้นลอบทำร้าย ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เลยสูญเสียความทรงจำ” ประภาพมองหน้าเธอ แล้วก็ตอบอย่างจริงใจ

วรินทรหลุบตาลง พร้อมกับถามต่อ “แล้ว ครอบครัวฉันล่ะ?”

“ครอบครัวของเธออยู่ที่ฝรั่งเศส เดี๋ยวมีเวลาแล้วจะพาเธอไปเยี่ยมพวกเขา”

วรินทรพยักหน้า แล้วก็มองหน้าเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ก่อนที่ฉันจะเสียความทรงจำไป ฉันชอบนายรึเปล่า?”

“ชอบมากเลยแหละ” ประภาพตอบอย่างไม่ลังเล เท่ากับว่าทั้งหลอกเธอ และหลอกตัวเองด้วย แต่เวลาแบบนี้ มันก็คุ้มค่า

ใครจะไปคิดว่าวรินทรจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา พร้อมกับจ้องหน้าประภาพ “ยังไงฉันก็ว่าก่อนจะเสียความทรงจำฉันก็ไม่ได้ชอบนายหรอก การแต่งงานของเราคงเป็นแค่เรื่องธุรกิจเท่านั้นแหละ”

ประภาพช็อกไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเธอจะเหมือนกับตอนยังไม่เสียความทรงจำมากขนาดนี้พูดจาวู่วาม อยากพูดอะไรก็พูด

“อืม มันก็เป็นการแต่งงานกันจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ว่าฉันรักเธอมาก แต่เธอกลับไม่รักฉันเท่านั้นเอง”

เพราะเกรงว่าเธอจะจำอะไรได้ ประภาพก็เลยพูดสี่คำนั้นออกไปอย่างไม่ทันระวัง

“อ๋า นายตกหลุมรักข้างเดียวนี่เอง” หลังจากวรินทรนอนเบื่อมาหลายวัน ประโยคนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว “แล้วฉันล่ะ? คนที่ฉันชอบล่ะ?”

ในหัวของประภาพคิดถึงแต่ชื่อของทาวัต แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป “ไม่มีหรอก แต่ว่า เธอก็มีคนที่เธอเกลียดมากๆอยู่นะ”

“ใครล่ะ?”

“เขาชื่อว่าทาวัต เธอเคยบอกอยู่ว่าเธอเกลียดเขามากที่สุดในโลก”ประภาพโกหกจรินทร

ทาวัต?

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พอจรินทรได้ยินชื่อนี้ ส่วนหนึ่งในใจของเธอกลับรู้สึกอ่อนนุ่ม มีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นภายในใจ

ความรู้สึกแบบนี้ เพราะว่าเกลียดงั้นเหรอ?

“ทำไมฉันถึงเกลียดเขาล่ะ?” จรินทรถาม

“เพราะว่าเขาเคยทำร้ายเธอ แต่ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่หรอก เพราะว่าฉันไม่ค่อยได้ถามเรื่องส่วนตัวของเธอเท่าไหร่”ประภาพไหวพริบดีมาก ไม่ว่าจรินทรจะถามอะไร เขาก็จะหาเหตุผลมาอธิบายได้เสมอ

จรินทรไม่รู้หรอกว่าเขากำลังโกหกอยู่ แต่แค่รู้สึกแปลกๆกับคนชื่อทาวัตนี้

“นายรู้ไหมว่าทำไมนายถึงโดนพวกศัตรูจ้องจะทำร้าย?” ประภาพขมวดคิ้ว พอได้ยินชื่อทาวัตเธอก็มีสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย ไหนจะประโยคที่พึ่งพูดออกมาเมื่อกี้อีก

วรินทรมองเขาด้วยสายตาสงสัย

“เพราะว่าเธอกำลังไปช่วยฉันตามหาของสิ่งนึง เลยได้รับบาดเจ็บ ฉันขอโทษจริงๆ”

“ของอะไรเหรอ?”

“แหวนลับ” สายตาของประภาพหลอกแหลกเล็กน้อย แต่ว่าจรินทรก็ไม่ทันเห็น

แหวนลับงั้นเหรอ?

วรินทรจึ้ปาก คำว่าแหวนลับฟังแล้วมันดูคุ้นมากเลย แต่พอพยายามจะนึกให้ออกก็กลับปวดหัวมาก เหมือนมีอะไรกำลังบีบรัดหัวของเธออยู่

ประภาพมองออกว่าเธอกำลังปวดหัวเพราะกำลังพยายามคิดถึงเรื่องเก่าๆ เขาหยุดเธอทันที “ไม่ต้องคิดแล้ว อดีตก็ให้มันเป็นอดีตไปเถอะ”

หลังจากวรินทรคิดจนปวดหัวแล้วนั้น ก็พลางปัดมือประภาพออกอย่างเยือกเย็น แล้วก็มองหน้าเขา “ที่นายพูดเมื่อกี้นี้ ก็เพื่ออยากจะให้ฉันกลับไปหาของสิ่งนั้นอีกครั้งใช่ไหม?”

สายตาเขามีประกายขึ้นมา นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการที่แท้จริง แต่ว่า....

“ในเมื่อเมื่อก่อนระหว่างเราจะไม่ได้มีความรักให้แก่กัน ฉันสงสัยจังเลยว่าฉันทำไมถึงจะไปเอาแหวนนั้นให้นาย” จรินทรมองหน้าเขาด้วยสายตาเยือกเย็น พูดออกมาอย่างไม่รู้สึกอะไร

“นายเป็นคู่หมั้นของฉันจริงรึเปล่า? ชอบฉันจริงเหรอ? ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยทุกอย่างแล้ว การที่นายมาอยู่ใกล้ฉัน เพราะมีเป้าหมายอื่นรึเปล่า ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ว่า ฉันไม่ถูกคนใช้เป็นเครื่องมือได้ง่ายๆหรอกนะ”

ถึงแม้ว่าเธอจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ยังไงเธอก็คิดวรินทรคนเดิมนั่นแหละ

สายตาของเธอเฉียบคม สามารถมองสถานการณ์อะไรออกได้โดยง่าย

พอพูดจบ จรินทรก็มองหน้าประภาพเขาจับที่แผลที่ปากของเขา พลางเข็นรถเข็นไปที่ประตูอย่างไม่ลังเล

ตอนนี้ในใจของวรินทรยิ่งสับสนไปมากกว่าเดิม เธอไม่เชื่อสิบสอง และยิ่งไม่เชื่อประภาพด้วยเช่นกัน

แต่ว่าเธอลืมไปเลยว่า เธอตอนนี้ ไม่มีความทรงจำอะไรเลย นอกจากสองคนนี้ที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ แล้วเธอยังจะเชื่อใครได้อีกล่ะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์