หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 383

ตอนที่ 383 ทำไมถึงได้หักหลังกัน

หลังจากที่ออกมาจากห้องกวิน วรินทรออกจากบ้าน และ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือข้างหนึ่งได้กดไปที่สร้อย หลังจากนั่นก็ลงไปเลือกรถสักคัน เพื่อที่จากออกจากคฤหาสห์นี้

___________

วรินทรขับรถมาที่ ท่าเรือของเมือง เอ สภาพอากาศที่มือครึ้มและลมหนาวที่พัดมา

นี้ก็เดือนมกราคมแล้ว ยังเหลืออีกครึ่งเดือนก็ถึงฤดูใบไม้ผลิต

วรินทรได้จับไปที่สร้อยบนคอ และมีแววตาที่รู้สึกผิด เขาได้หยิบเสื้อโค้ทขนสัตว์สีขาวมาใส่ ก่อนที่จะลงจากรถ

ท่าเรือเงียบมาก ในเวลานี้ไม่มีเรือที่จะขับผ่านไปเลย มีเรื่อไม่กี่ลำเองที่อยู่ในฝั่ง คนก็แทบจะไม่มีเลย

วินทร์ รู้ ทั้งนี้ทั้งหมดก็เพราะเพื่อประภาพ ซึ่งจะไม่มีใครเห็นเลย เพราะพวกเขาได้นัดล่วงหน้ากันแล้ว

เธอมองไปสถานที่ที่เขากันนัดไว้ ลมทะเลที่พัดมาอย่างเย็น เธอได้หมุนคอใต้เสื้อโค้ท จมูกเล็กแดง

แววตาที่สดใส สว่างจนไม่กล้าสบตา เธอได้เดินไปตรงหน้าของเรือหรูที่สวยมากลำหนึ่ง ซึ่งห่างจากเธอไม่กี่เมตรเอง เธอหยุดเดิน

"ของฉันได้เอามาแล้ว พวกคุณออกมาเถอะ" รู้ทั้งรู้ว่าข้างหน้าไม่มีคนเธอก็ยังเลือกที่จะพูดออกมา

เธอเพิ่งพูดประโยคนี้จบลง ก็มีคนสองคนออกมาเงามืดนั่น เดินมาตรงหน้าเธอ ถูกแล้วนั่นก็คือ ประภาพกับสิบสอง

แววตาของวรินทรที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ สูตจมูก "ก่อนหน้านี้ที่เราได้ตกลงกันไว้ ถ้าฉันเอาของมาให้คุณ คุณจะยอมบอกตัวตนที่แท้จริงของฉันที่ผ่านมา" มันคือการตอบแทน แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับการแลกเปลี่ยน

เธอสามารถเอาของที่พวกเขาอยากได้มาให้ พวกเขาต้องให้สิ่งที่เธอต้องการ

ประภาพมองไปที่ใบหน้าเล็กเรียวนั่นอย่างอ่อนโยน "เรื่องที่ผ่านไปแล้วมันไม่ได้สำคัญหรอก"

วรินทรยกหัวขึ้นมองไปที่เขา ใบหน้าที่สับสนและน่ารัก ดูแล้วทำให้คนเขาสงสารกัน

"ของหล่ะ เอามาแล้วหรอ?" สิบสองสะบัดหัวหน่อย รู้สึกยิ่งอยู่ยิ่งสนุกแล้วแหะ ทางที่ดี ความทรงจำวรินทรอย่ากลับมาเลย ไม่งั้นถ้าเธอรู้ว่าตัวเองเป็นคนหักหลัง ทาวัต เอาแหวนลับให้พวกเขา แถมยังเชื่อความพูดของพวกเขาอีก

สงสัยคงมีหวังได้เอาหัวชนกำแพงแน่ๆเลย ? ท่าทางน่าสนุกแหะ

สิบสองยื่นมือไปทางวรินทร วรินทรกัดริมฝีปาก แววตาที่ดูลังเล

ประภาพ ดูออกถึงความลังเลที่แสดงออกมา ก็เพราะว่าเธอได้ขโมยของของคนแปลกหน้า

เวลา3วันนี้ ไม่เคยให้ วรินทรได้นึกถึงความทรงจำเรื่องราวระหว่างพวกเขาอีกเลย ทาวัต นายมันก็แค่อดีต

ประภาพเต็มไปด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่มีความภูมิใจและมีความสุขมากที่สุดและดวงตาที่อ่อนโยนมากขึ้น

และนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย และครั้งสุดท้ายจริงๆจากนั้นเขาจะดูแลเธออย่างดี จะไม่มีวันทำร้ายเธออีก

วรินทรก็ได้เดินเข้าไป แววตาที่แสดงออกมาว่าไม่มีทางเลือก ยิ่งทำให้ประภาพและสิบสองมั่นใจขึ้น ว่านอกจากพวกเขาแล้วตอนนี้วรินทรก็ไม่ได้เชื่อใจใครอีกเลย

ได้ล่วงลงกระเป๋าเสื้อพร้อมแหวนสีดำออกมา มันอยู่ในใต้กระเป๋าเสื้อนามาก จึงทำให้มีอุหภูมิที่อุ่น ในเวลาที่เธอได้นำแหวนยื่นไป

และวินาทีสุดท้าย

"วรินทร " เสียงจากด้านหลังที่บ่งบอกถึงความผิดหวังและโกรธมาก มือของวรินทรก็สั่นจนปล่อยแหวนลงไปที่มือของประภาพ

ประภาพสัมผัสและรู้สึกถึงน้ำหนักของแหวน ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์

ตลอดปีที่ผ่านมา ที่เขาได้วางแผนมา สุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ ไม่ใช่หรอ

วรินทรตัดสินใจหันไปที่ต้นเสียง ร่างกายเล็กบางกำลังสั่นกลัวและมองดูคนที่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าที่ผิดหวังของทาวัต

ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเห็น

แววตาที่พูดไม่ออก เหมือนน้ำจมท่วมเขา ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก

ประภาพ รีบเอาแหวนในมือให้สิบสอง และจงใจทำให้ ทาวัตเห็น แม้ว่าก่อนหน้านั่นอาจจะกลัวไปหน่อย

ในตอนนี้ประภาพไม่มีความกลัวอีกต่อไป

สิบสอง รับแหวน มาดูให้ละเอียด พวกเขาไม่เห็นเห็นแหวนลับนี้มาก่อน แต่ดูจากวัสดุและอักษรที่อยู่บนแหวนแล้ว เป็นแหวนลับไม่ผิดแน่ จากนั้นก็พยักหน้าให้ประภาพ

แหวนลับนั้นเป็นของจริง

วรินทรมีความตกใจและตะลึงกับการที่โผล่มาของ ทาวัต ใบหน้าของเขาที่เสียใจและผิดหวัง เหมือนกับกำลังแทงทะลุไปตัวเธอ

"เธอ......" เธออ้าปากพูด แต่ดูเหมือนว่าจะพูดอะไรออกมาแต่ก็พูดไม่ออก

พูดอะไร ? หรือว่าของที่ฉันยืมแปปเดียว ฉันก็จะคืนให้พวกคุณหรอ?

วรินทร ยังรู้สึกตัวเองผิด แต่ในสยายตาขอฃ ทาวัตตอนนี้ มีความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงมาก

"ทำไมถึงได้หักหลังฉัน?" ทาวัตตะโกน ก่อนที่แววตาของเขาจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นแววตาที่เย็นชาและเย็นมาก ราวกับพายุใหญ่ กำลังมองไปที่วรินทร

"คุณทาวัต พูดจาให้มันดีๆหน่อย เธอกับคุณไม่ได้รู้จักกันขนาดนั้น ใช้คำว่าหักหลังไม่ได้นะครับ"

รอยยิมของประภาพที่ภูมิใจและสะใจ พยุงแขนไม่ปล่อย ยิ่งรู้ว่าอยู่ต่อหน้า ทาวัต ก็ค่อยๆกอดไปที่เอวของเธอ

แววตาทาวัตที่เริ่มผ่อนคลายกับใบหน้าที่เยือกเย็น มองไปที่ประภาพและยิ้มอย่างเย็นชา "ประภาพ คุณนี่มันเก่งจริงๆนะเนี่ย ที่ใช้เธอทำให้แผนการสำเร็จ คุณไม่รู้จักละอายใจบ้างเลยหรอ?"

"ละอายใจ?" ประภาพหัวเราะออกมา หลังจากที่ออกจากบ้านตระกูลศรีภักดี

อย่างมีเรื่องที่น่าละอายใจกว่านี้อีกเยอะ แต่สิ่งที่เขาทำ เขาไม่เคยทำให้เขารู้สึกละอายใจเลย

นอกจากเรื่องของวรินทร

"คุณทาวัตพูดจาตลกจังเลยนะครับ ทั้งหมดนี้เธอยืนยอมที่จะทำนะครับ ไม่เชื่อก็ถามเธอเองเลย ฉันพูดถูกมั้ย วรินทร??"ประภาพกระซิบข้างหู น้ำเสียงที่เหมือนเวทมนต์มาสะกดจิตในหู

แววตาที่ใสซื่อของวรินทรได้ค่อยเปลี่ยนเป็นแววตาที่ว่างเปล่า สูตรเสียความร่าเริง และมองๆไปที่ทาวัต ค่อยๆเอ่ยปากพูดมา "ฉันยินยอมที่จะทำเอง ไม่เกี่ยวกับเขา"

"วรินทร!! เธอรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรลงไป" ทาวัตกัดฟันมองตาไปที่วรินทรที่ทำตัวแปลกๆ สองมือกำหมัดแน่ๆ ร่างกายที่เต็มไปด้วยความโกรธ

"คุณทาวัตยังฟังไม่ชัดเจนจากปากของงรินทร์หรือไงครับ? งั้นก็น่าเสียดาย เพราะเธอจะไม่เอ่ยปากพูดรอบสอง" ประภาพหัวเราะเบาๆ ฝ่ามือค่อยๆลูบบนใบหน้าเรียวเล็กของวรินทร ตอนนี้เธอเหมือนไร้วิญญาณในร่าง ไม่มีการขัดขืนและไม่มีการตอบโต้แม้แต่นิดเดียว

ใบหน้าที่ยิ้มแยะของประภาพ หันไปพูดกับสิบสอง "เตรียมตัวออกจากที่นี้"

"ออกจากที่นี่? คุณนึกว่าที่นี่ อยากมาก็มาคิดอยากจะออกก็ออกได้หรอครับ?"

ทาวัตมองด้วยสายตาที่จริงจังและน้ำเสียงโทนต่ำ หลังจากนั้นก็มีทีมหนึ่งทีมโผล่ออกมาจากความมืดและล้อมรอบพวกเขา

ใบหน้าของประภาพที่กำลังตกใจ คนของเขาเพื่อรักษาความปลอดภัยของเขา

ได้รอรับคำสั่งอยู่แถวๆนี้ แล้วคนของทาวัตมาสลับกับคนเขาเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์