หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 397

ตอนที่ 397 การแต่งงานที่ไม่จัดงานแต่ง

วรินทรเห็นท่าทางแบบนี้ของเขาในใจก็สมดุลในชั่วพริบตา ตอนเธอรู้เธอก็อึ้งแบบนี้แหละ

“วรินทร แกใกล้จะมีลูกสองคนแล้ว แต่พี่ชายแกยังโสดอยู่เลย!” ฐานทัตนั่งลงมองกวิน แล้วมองที่ท้องวรินทรแล้วถอนหายใจอย่างโศกเศร้า

วรินทรกรอกตาไปมา “ไม่ใช่มีทวิติยาแล้วหรือไง ฉันคิดว่าเธอค่อนข้างสนใจพี่อยู่นะ วันพวกนั้นที่พี่ไม่เจอเธอแต่เธอมาหาฉันทุกวันเลย”

ใบหน้าฐานทัตเหมือนเจ้าเล่ห์ ขากเสลดนิดหน่อย สายตาหลุกหลิก

มีอะไรทะแม่งๆอย่างที่คิดไว้ วรินทรกับกวินมองหน้ากันพลางหรี่ตา

“เออใช่พี่ ทำไมอยู่ดีๆก็ไม่เจอเลย พ่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?” วรินทรถาม เธอนึกว่าเขาจะแอบช่วยปกป้องเธออยู่เงียบๆ ใครจะไปรู้ว่ายืนๆอยู่ถึงจะเห็นเงาเขา

“พวกจุลินทร์ไม่รู้รวบรวมอำนาจกับใคร ทำลายงานสังสรรค์ของผู้สืบตระกูลไป โชคดีที่ฉันกลับมาทันเวลา นึกว่าจะมีสงครามจริงจัง ใครจะไปรู้ว่าอำนาจของฝั่งจุลินทร์จะแตกสะบั้นกลางทาง อำนาจปู่ป้องกันพ่อเราไว้ พ่อเลยสืบทอดตระกูลสุขกาลทั้งหมดอย่างราบรื่น” ฐานทัตเอาเรื่องราวมหากาพย์สรุปย่อๆให้เธอฟังอีกครั้ง

เขาได้กลับมาวันนี้ ก็เพราะว่าบ้านสุขกาลได้จัดเตรียมไว้ พวกจุลินทร์ไม่สามารถพลิกคลื่นพายุได้

วรินทรได้ยินว่าคุณพ่อไม่ได้เป็นอะไรก็โล่งอกและพยักหน้า

เดี๋ยวก่อนนะ อำนาจใครกับพวกจุลินทร์จะร่วมมือกันนะ?

วรินทรพลันนึกอะไรขึ้นได้ พยักหน้าอยู่ก็หยุดลง

เธอจำครั้งนั้นที่เธอไปบ้านสุขกาลกับทาวัต เธอเหมือนจะอยู่ที่หลังสวนบ้านสุขกาลเห็นประภาพ

ตอนนั้นนึกว่าตัวเองมองผิด คิดไม่ถึงว่า......

วรินทรถอนหายใจออกมาเบาๆ ในใจรู้สึกกลัวความคิดและแผนการของประภาพ หากเขาอยากได้ชีวิตเธอล่ะก็ เกรงว่าเธอคงตายหลายครั้งตั้งนานแล้ว

แต่ทุกครั้งเขาจะเน้นทำร้ายเธอ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เธอตาย

เขาคิดแผนการมากมายอย่างละเอียดรอบคอบ หรือแค่อยากเห็นเธอล้มหกคะเมนแค่นั้น

วรินทรไม่มีทางเข้าใจได้ ก็แค่ไม่ไปคิดมัน หันศีรษะไปมองฐานทัตพูด “พี่ พี่นึกอยากจะไปหาทวิติยา คนอื่นเพื่อมาหาพี่แต่ยากลำบากเหลือเกิน แต่ฉันว่าพวกพี่เหมาะกันดีนะ”

สายตาทาวัตรู้สึกไม่สบายใจ จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้แล้วพูด “เออใช่ วรินทร พี่นึกขึ้นได้ว่าแกกับทาวัตยังไม่ได้จัดงานแต่งเลยปะ? แค่จดทะเบียนสมรส?”

“อืม” วรินทรคิดว่าเขากำลังพูดจาไปเรื่อย พยักหน้าให้เขาพูดต่อ

“พวกแกมีลูกกันสองคนแล้ว เขาไม่คิดจะจัดงานแต่งให้เธอเลยหรอ? แต่ก่อนเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเข้าใจผิดทั้งนั้น การแต่งงานที่ไม่จัดงานแต่ง แกไม่รู้สึกเสียดายหรอ?” ที่ฐานทัตพูดก็จริง สีหน้าท่าทางขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

เขาพูดแบบนี้ วรินทรก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผล แต่ก่อนเรื่องนี้ไม่เคยคิดถึงมาก่อน ถึงอย่างไรก็มีกวินให้เขาแล้ว และไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้

แต่ที่ฐานทัตพูดเหมือนจะมีเหตุผลมากอยู่นะ......

ฐานทัตออกแรงกะพริบตาใส่เธอ ราวกับจะพูดว่า ใช่มะๆ ที่พี่พูดมันมีเหตุผลโคตรๆ

“ฉันคิดว่ามีหรือไม่มีงานแต่งก็ได้ทั้งนั้นอะ” วรินทรเพิ่มเสียงอย่างตั้งใจ ยักไหล่ตั้งใจจะแกล้งแหย่พี่ชาย

ฐานทัตดูกระวนกระวายใจในพริบตา ท่าทางที่ดูกังวลกว่าเจ้าตัวอย่างมาก “ได้ทั้งนั้นได้ไง? งานแต่งชีวิตหนึ่งมีครั้งเดียว จะพูดว่าได้ทั้งนั้นได้ยังไง?”

พูดจบก็นึกเรื่องอะไรขึ้นได้ “หรือเจ้าทาวัตมันไม่ยอมจัดงานแต่งให้แก?”

วรินทรกะพริบตามองเขาอย่างไม่รู้สึกรู้สา “เขาเหมือนไม่เคยพูดถึงนะ”

ฐานทัตพลันชะงัก บอกเธออย่างเคร่งขรึมและเอาจริงเอาจัง “ถ้าเขาไม่กล้าแต่งงานกับแก พรุ่งนี้พี่จะแอบเอาเธอกลับฝรั่งเศส!”

โทนเสียงเขาดูสบายๆ ไม่เหมือนพูดเล่นสักนิด

“นี่พี่ คนไม่รู้นึกว่าพี่จะแต่งงานเองละมั้งเนี่ย” วรินทรส่ายหัว “ตอนนี้พี่ควรกินให้เยอะหน่อยนะ......โอ้ย!”

วรินทรกุมหน้าผาก มองฐานทัตที่ดึงมือกลับไปนั่งด้วยสายตาอยากจะร้องไห้ สีหน้าแฝงไปด้วยคำติเตียน

หลังจากฐานทัตยื่นมือไปเคาะหน้าผากวรินทรก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป กำมือแน่นไว้ตรงปากพลางไอสองสามที กำลังคิดว่าจะพูดอะไร เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา

ฐานทัตล้วงมือถือออกมาดู ใบหน้าหล่อจ้องมองอย่างไม่ใส่ใจ แต่ท่ามกลางดวงตาสีอำพันกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยน

“อะไรอะ? ใครโทรมา? หรือว่าเป็นว่าที่พี่สะใภ้ฉัน” วรินทรจับจ้องใบหน้าที่อ่อนโยนของฐานทัตก็แกล้งแหย่

“อยากรู้หรอ?” ฐานทัตเลิกคิ้ว โดยที่ยังไม่ได้กดรับสาย หมุนโทรศัพท์มือถือไปทางด้านหลังอย่างตั้งใจเพื่อกระตุ้นความสงสัยของวรินทร

วรินทรทำเสียงครวญคราง ไม่นานเดี๋ยวก็รู้แล้วว่าใคร แต่เร็วหน่อยไม่ได้หรอ?

เลยพูดขึ้น “ยังไงก็เมียพี่ไม่ใช่เมียฉัน ฉันรู้แล้วทำอะไรได้”

ฐานทัตพูดเหน็บแนมเธอ “ยัยใจร้าย ฉันไปก่อนล่ะ พรุ่งนี้จะมาอยู่เป็นเพื่อนใหม่”

“ไปเถอะค่า อย่าลืมดูแลว่าที่พี่สะใภ้ฉันอย่างดีด้วยน้า~” วรินทรโบกมือลาเขา เห็นเขาออกไปจากห้องผู้ป่วยจึงกระตุกริมฝีปาก ดวงตาแฝงไปด้วยการรอคอยและความอ้างว้าง

ปากพึมพำคำสองพยางค์ งานแต่ง?

เธอม้วนตัวในผ้าห่ม ในใจเกิดความว่างเปล่า

ผู้หญิงที่ไหนไม่อยากมีงานแต่งโรแมนติกบ้าง? ไม่เว้นเธอคนหนึ่งแน่นอน แต่ทาวัตไม่เคยพูดมาโดยตลอด ให้ผู้หญิงพูดหน้าจะไม่หนาไปใช่ไหม?

วรินทรปิดตาอย่างเขินๆ ในหัวมีมนุษย์กับเทวดากำลังตีกัน หรือต้องให้เธอหอบดอกไม้แหวนเพชรคุกเข่าขอทาวัตแต่งงานกันล่ะ?

ร้องเหมียวๆ น่าขนลุก

นึกสถานการณ์นั้น วรินทรก็รู้สึกไม่ต้องกินข้าวไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่......

“รีบออกไปนะๆ......” เพื่อให้ความคิดที่เป็นไปไม่ได้ในหัวหายไปไวๆ วรินทรอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงออกมา

ทาวัตวางสินค้าชั้นเยี่ยมบนโซฟาในห้องผู้ป่วย เพิ่งเดินเข้ามาข้างวรินทรก็ได้ยินเสียงพึมพำอะไรไม่รู้ตลอดเวลา ทาวัตจึงโค้งตัวไปดูด้วยความสงสัย

“คุณท่องอะไรอยู่น่ะ?” ทาวัตอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปเคาะหน้าผาเธอหนึ่งที แม้ไม่ได้ทำแรง แต่บริเวณที่เขาเคาะนั้นเป็นบริเวณเดียวกับที่ฐานทัตเคยเคาะ ยิ่งเจ็บสองเท่า ไม่ได้อย่างใจเลย

“โอ้ย คุณจะฆ่าแกงฉันหรอ” วรินทรเบิกตากว้างทันที มองเขาอย่างดุร้าย บริเวณนั้นเป็นรอยแดงหนึ่งจุด

ทาวัตพอเห็นว่าแดง ก็เกิดความเจ็บปวดใจ ฉวยโอกาสนั่งลงตรงหัวเตียงแล้วเอามือใหญ่ลูบหน้าผากปอยๆ

“ทำไมคุณเพิ่งมาเนี่ย?” วรินทรหาเรื่องทะเลาะ ยื่นมือไปโอบเอวบางแกร่งของเขาแล้วเอาหน้าถูพร้อมหาวหนึ่งที

“ผมมีธุระต้องแวะกลางทางนิดหน่อย” ทาวัตไม่ได้พูดรายละเอียด ดวงตาดำมืดเพียงซ่อนความเข้มงวดไว้เล็กน้อย

เขายกมือขึ้นค่อยๆลูบหน้าผากวรินทร ปลอมประโลมให้เธออยากนอนหลับ

วรินทรอ้าปากหาว เมื่อครู่นี้ยังกระปรี้กระเปร่าอยู่เลย ทำไมเขามาแล้วรู้สึกง่วงนอนกันนะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์