ตอนที่ 48 ฉันจะฆ่าพวกแก
ของอย่างวรินทรน่ะหรือจะกลัวหนู? ถ้ากลัวหนูอย่ามาเรียกเธอว่าวรินทรเลย
“คุณผู้หญิงคะ ในบ้านมีหนูน้อยมาก ดิฉันจับมาได้แค่สี่ตัวเองค่ะ” ไม่นานพวกสาวใช้ก็จับหนูยัดใส่กรงมาให้ณัฐพิชาดู
เมื่อหญิงวัยกลางคนเห็นเจ้าหนูสีดำๆสกปรกก็เกือบหลุดกรี้ดออกมา
“แล้วแกจะเอามาให้ฉันดูทำไม? ปล่อยเข้าไปในห้องสิ” เธอโบกมือไล่และชี้ไปทางห้องที่ต้องการให้เอาหนูไปปล่อย
สาวใช้ไม่ทราบว่าวรินทรถูกขังอยู่ในนั้น เธอรู้เพียงแค่ว่าห้องนี้เป็นห้องของคุณผู้หญิงคนเก่าที่นายท่านสั่งห้ามไม่ให้ใคร
เตะต้องสางของส่งเดช เธอจึงรู้สึกลำบากใจ “คุณผู้หญิงคะ แบบนี้มัน...”
“แบบนี้มันทำไม ฉันสั่งให้เธอทำเธอก็ต้องทำ หากเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง” ณัฐพิชาหายใจฮึดฮัด
วาดฝันหลบอยู่อีกทางหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรหนูก็เป็นสัตว์ที่ผู้หญิงทุกคนขยะแขยงอยู่แล้วยิ่งกลิ่นเหม็นที่โฉยออกมาจากตัว
พวกมันด้วยแล้วเธอยิ่งอยากจะอ้วก!
เมื่อสาวใช้ได้ยินณัฐพิชาพูดออกมาแบบนั้นก็วางใจ เธอจึงเดินไปเปิดประตูและปล่อยหนูสี่ตัวเข้าไปในนั้นจากนั้นก็ปิด
ประตูกลับตามเดิม
“เธอยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้ ห้ามให้มีสักตัวหนีรอดออกมาได้นะ ได้ยินไหม?” เมื่อพูดจบณัฐพิชาก็ลากวาดฝันกลับห้องไปอาบน้ำ
แต่งตัว
วรินทรที่อยู่ข้างในห้องเคลื่อนไหวเร็วมาก หญิงสาวจัดการเปิดถุงผ้าก่อนจะย้อนยัดพวกหนูเข้าไปในนั้นและมัดไว้ทันที
เจ้าพวกหนูสีดำตัวเล็กๆต่างดิ้นรนไปมาอยู่ในนั้นแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้
ในเมื่อพวกเธอสองแม่ลูกชอบหนูกันขนาดนั้น ก็ดี ฉันจะให้พวกเธอได้เจออะไรใหม่ๆดูบ้าง
วรินทรมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอนำข้าวของเครื่องใช้รวมถึงพวกเครื่องประดับ
เพชรพลอยที่ทมยันตีชอบใส่ลงไปในนั้น เครื่องประดับพวกนี้เป็นของที่ชยุตเคยมอบมันให้แก่แม่ของเธอ แม่ของเธอไม่ใช่คนชอบใส่เครื่องประดับอยู่แล้วดังนั้นหากเธอนำกลับบ้านก็คงไม่มีใครสังเกตเห็น
ดูท่าแล้วถ้ารวมเข้ากับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในไม่ช้านี้ วรินทรมั่นใจมากว่าชยุตไม่มีทางรู้ได้แน่นอน
สาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเห็นว่าในห้องยังคงเงียบสงบไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกย่างประตูก็ถูกล็อคไว้เธอจึงคิดจะไปห้องน้ำสัก
หน่อยแล้วค่อยกลับมาเฝ้าต่อ
หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ณัฐพิชาและวาดฝันก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก พวกเธอสองคนเดินช้าๆจนไปหยุดที่
หน้าห้องของทมยันตี แต่ไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างที่คาดหวังเลยสักนิด
“คนเฝ้าล่ะ? หายไปไหนกัน?” วาดฝันลองบิดลูกบิดประตูพลางทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ประตูถูกล็อคไว้อยู่ อย่างไรเสียยายนั่นก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว คงตกใจจนเป็นลมไปแล้วมากกว่า”
ณัฐพิชาไม่รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย
เธอไม่เชื่อหรอกว่าหนูสี่ตัวนั่นจะทำอะไรวรินทรไม่ได้
“งั้นเราลองเปิดเข้าไปดูดีไหม?” วาดฝันพยักหน้า
วาดฝันอยากเห็นท่าทางหวาดกลัวของวรินทรจนตัวสั่นไปหมด
ณัฐพิชาหยิบไม้กวาดขึ้นมาก่อนจะค่อยๆเปิดบานประตูเข้าไปในห้อง ในห้องเงียบสงบไม่มีเสียงอะไรเลยทั้งยังมืดสนิทจน
แทบไม่เห็นอะไร
วาดฝันเกาะหลังแม่ของตนเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวแอบกลัวว่าจะมีหนูวิ่งออกมา
วรินทรที่นั่งเงียบๆอยู่ข้างประตูหลุดยิ้มชั่วร้ายออกมา คิดไม่ถึงว่าสองแม่ลูกคู่นี่จะโง่ขนาดเดินเข้ามาด้วยตัวเองแบบนี้
จากนั้นก็แอบขอโทษทมยันตีในใจ
วรินทรฉวยโอกาสหลบออกไปนอกห้องและเปิดถุงผ้าปล่อยหนูออกไปทันทีจากนั้นก็ปิดประตูล็อคเสร็จสรรพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...